ร่างทรง "อำ" เปิดปากโต้เสกมนตร์ ทำพ่อ - ลูกบ้านแตก โชว์ป๋าทุ่มเงินล้านให้ศิษย์ (คลิป)

23 ม.ค. 65

กรณีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตกเป็นผู้เสียหายได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เพื่อเอาผิดกับผู้หญิงรายหนึ่งในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากหลอกให้พ่อแม่ของผู้ร้องเรียน สูญเงินไปเกือบ 1 ล้านบาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น 

821696

ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ลูก ๆ ของนายเหรียญ ทั้ง 3 คน ได้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลังมีการแจ้งความเอาผิดนางสาวอำ (นามสมมติ) ในข้อหาฉ้อโกง

267797

นายสมศักดิ์ เถื่อนคำแสน อายุ 43 ปี ลูกชายคนโตของผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ตนและน้องอีก 2 คน เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับนำหลักฐานการโอนเงิน และแชตไลน์ของพ่อกับผู้หญิงคนดังกล่าวมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนยังคงยืนยันว่าจะเอาเรื่องผู้หญิงคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพราะมีผู้เสียหายที่เคยถูกนางสาวอำหลอกลวง เสียหายเกือบ 2 ล้านบาท ติดต่อเข้ามาหาตนอีกด้วย แต่เขายังไม่พร้อมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน

856401

โดยก่อนหน้านี้ นางสาวอำ อ้างกับนายเหรียญ พ่อของตนว่า "เป็นคนมีบุญวาสนา ถ้ามีการทำพิธีบรวงสรวง โดยการเอาเงินมาวางไว้มากเท่าไร ก็จะได้เงินกลับมาเป็นร้อยเท่าพันเท่า" แต่เมื่อผ่านวันที่ 20 ม.ค.65 ก็ไม่มีคนนำสมบัติมาให้พ่อ มีแต่พระพุทธรูปเต็มบ้าน ซึ่งนางสาวอำ เขาก็บอกว่าที่พ่อของตนไม่ได้รับสมบัติในวันที่ 20 มกราคม 65 ที่ผ่านมา เพราะพ่อมีลูก ๆ มารู้เรื่องก่อน ลูก ๆ จึงเป็นมารผจญทำให้พ่อไม่ได้รับสมบัติ

635778

ทั้งนี้ นางสาวอำ จึงบอกกับพ่อของตนว่า ให้รอวันที่ 15 มีนาคม 2565 ซึ่งตรงกับวันเกิดของนายเหรียญ พ่อของตัวเอง แล้วจะมีพ่อปู่ฤาษีเอาสมบัติมาให้พ่ออีกครั้ง ซึ่งทางลูก ๆ ก็ไม่อยากให้นายเหรียญ ผู้เป็นพ่อไปทำพิธีในวันที่ 15 มีนาคม 65 เพราะกลัวว่าพ่ออาจเสียทรัพย์สินไปมากกว่านี้ ในการใช้ประกอบพิธี แล้วก็กลัวว่าพ่อจะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต เหมือนกับกรณีของสามีนางสาวธัญญาภรณ์ ที่ตรอมใจตายอีกด้วย แล้วตนก็คิดว่า ที่นางสาวอำ เลื่อนวันทำพิธีไปเรื่อย ๆ เพราะว่าเขากำลังวางแผนดูดทรัพย์พ่อของตนในระยะยาว

505388

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ครอบครัวจะไปร้องต่อศาลจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้คุ้มครองทรัพย์สินของพ่อทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ทรัย์สินของพ่อถูกโอนย้ายไปที่อื่น ตนอยากฝากขอโทษพ่อในสิ่งที่เคยล่วงเกิน แต่ลูก ๆ อยากเตือนพ่อว่า "ความเชื่อที่พ่อมี มันผิดวิสัยปกติ อยากให้พ่อแม่รู้ว่าที่ลูก ๆ ยอมเสียชื่อเสียง เพื่ออยากให้พ่อคนเดิมกลับคืนมา"

124692

ขณะที่ทางด้านของนางสาวอำ (นามสมมติ) กล่าวชี้แจงว่า เมื่อประมาณเดือน พ.ย.64 นายเหรียญ ได้ขับรถมาหาตนที่บ้าน พร้อมกับเล่าว่าเขาไปติดหนี้กว่า 40 ล้านบาท เขาไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายดอกเบี้ยเจ้าหนี้ แล้วนายเหรียญ เขาก็ขอยืมเงินตน จำนวน 2,000,000 บาท ด้วยความที่ตนและนายเหรียญ ก็เป็นเครือญาติกัน ขณะนั้นตนจึงนำเงินสด จำนวน 2,000,000 บาท ให้นายเหรียญยืมเพื่อเป็นการช่วยเหลือ

893617

ส่วนที่เห็นสลิปการโอนเงินที่นายเหรียญโอนเงินให้ตนหลักหมื่นบาทบ้าง หลักแสนบาทบ้าง ก็เป็นเงินที่นายเหรียญโอนใช้หนี้ ตนไม่ได้ไปหลอกลวง หรือฉ้อโกงนายเหรียญแต่อย่างใด แต่ก่อนหน้านี้ลูก ๆ ของนายเหรียญ ได้ไปแจ้งความเอาผิดตนในข้อหาฉ้อโกง ในวันที่ 21 มกราคม 65 ตนและนายเหรียญจึงต้องไปทำสัญญาการกู้ยืมเงินกันที่สภ.โกสุมพิสัย เพื่อเป็นหลักฐานและให้เกิดความกระจ่างว่าตนไม่ได้หลอกเอาเงินใคร ซึ่งหนี้ก้อนดังกล่าวที่นายเหรียญยืมไปนั้น ลูก ๆ ของนายเหรียญ ก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน

249620

นอกจากนี้ ในประเด็นที่สังคมสงสัยว่า ตนขนพระพุทธรูปนับร้อยองค์เข้าไปไว้ในบ้านนายเหรียญ ก็เป็นการยกให้นายเหรียญบูชา ไม่ได้ให้เสียเงินบูชาแต่อย่างใด ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าว เวลามีคนมาทำบุญ เขาก็จะเอามาถวายให้ ตนไม่ได้ไปเอามาแบบผิดกฎหมาย และตนขอชี้แจงว่าตนเป็นแค่นักปฏิบัติธรรม ไม่ได้เป็นร่างทรง ส่วนบ้านที่ตนพักอยู่อาศัยก็คือบ้านธรรมดา ไม่ได้เป็นตำหนักร่างทรงแต่อย่างใด

778894

ทีมข่าวสังเกตว่า ในวันนี้นางสาวอำ ได้ห้อยสร้อยคอเหมือนที่ปรากฏในข่าวว่ามีมูลค่า 50 ล้านบาท จึงสอบถามนางสาวอำ อธิบายว่า สร้อยต่าง ๆ ตนไม่เคยเอาไปให้คนบูชาเสียเงิน มีแต่แจกฟรี ไม่ได้มีราคา 30-50 ล้านบาทแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ลูก ๆ ของนายเหรียญ ก็ส่งคลิปเสียงมาด่าตนด้วยคำหยาบคาย จึงอยากฝากถึงลูก ๆ นายเหรียญ ให้เขาไปถอนแจ้งความ ถ้าเขาไม่ถอนแจ้งความ ตนก็จะแจ้งความเอาผิดกับที่เขามาด่าตนและจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด

293974

อย่างไรก็ตาม คลิปที่เห็นว่าตนและนายเหรียญ ทำพิธีที่ใต้ต้นมะขามนั้น ก็เป็นพิธีขอหวย ปกติทั่วไป ส่วนกรณีที่ตนสามารถเสกใบมะขามเป็นเงินเป็นทองนั้น ตนแค่พูดเล่น ๆ ในกลุ่มเท่านั้น ส่วนกรณีของนางสาวธัญญาภรณ์ ที่ให้ข้อมูลว่า เขาและสามีเป็นผู้เสียหายอีกราย ซึ่งถูกตนหลอกเงินและที่ดินกว่า 1.2 ล้านบาท กระทั่งสามีนางสาวธัญญาภรณ์ ตรอมใจตายนั้น ตนขอชี้แจงว่า ตนและนางสาวธัญญาภรณ์ ได้นำที่ดินไปร่วมลงทุนด้วยกัน ตนไม่ได้โกง และตนก็บอกกับนางสาวธัญญาภรณ์ แล้วว่าจะขอรับผิดชอบเอง ส่วนที่นายสัน สามีของนางสาวธัญญาภรณ์ เสียชีวิตนั้น เขาเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว ไม่ได้เสียชีวิตเพราะตรอมใจตาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส