กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่ามีเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ 3 เดือน หายตัวไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังชุดสืบหลายนาย พร้อมอาสากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดปางศิลาทอง เดินทางเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 60 ม.8 ต.หินดาต อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านของเด็กหญิงคนดังกล่าว
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทราบเรื่องราวจาก น.ส.นิลรัตน์ แซ่พ้าน อายุ 38 ปี แม่ของเด็ก ให้ข้อมูลว่า ช่วงที่ลูกสาวของตนหายตัวไปนั้น น้องอยู่กับยาย ตนออกไปรับหลานอีกหมู่บ้าน เมื่อกลับมาก็ไม่พบลูกสาวแล้ว จึงได้ออกตามหาและแจ้งเพื่อนบ้านให้ประสานตำรวจและกู้ภัยช่วยกันตามหา
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดปางศิลาทอง รวมกว่า 30 นาย ได้ปูพรมค้นหาตามเส้นทางที่เด็กน่าจะเดินออกไป หรือมีร่องรอยที่พอจะเป็นเบาะแสได้ สภาพโดยรอบเป็นไร่ข้าวโพด สวนพุทรา โดยปูพรมค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 17.30 น. พบเด็กเดินอยู่บนทางลูกรัง ห่างออกไปจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร เด็กปลอดภัยดีไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ส่วนคนที่พบเด็กเป้นคนแรก คือ นายเชาว์โรจน์ โพธิ์ละคร อายุ 62 ปี ข้าราชการครูเกษียณแล้ว ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาพบพอดี
ล่าสุดวันที่ 20 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังบ้านที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ต.หินดาต อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ซึ่งบ้านหลังนี้จะตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน รอบ ๆ จะเป็นสวนและไร่ ขณะที่ข้าง ๆ บ้านจะเป็นบ้านญาติ ๆ ประมาณ 3-4 หลัง
น.ส.นิลรัตน์ แม่ของเด็ก กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 14.50 น. ขณะนั้นตนอาศัยอยู่ที่บ้านกับแม่ของตน และลูกสาวทั้งหมด 3 คน หลังจากนั้นตนได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน เพื่อไปรับหลานสาวที่ศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร จึงทิ้งลูกสาวไว้กับคุณยาย ตอนนั้นคุณยายก็นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที หลังจากที่ตนกลับมา คุณยายก็รีบมาบอกด้วยหน้าตาตกใจว่า "น้องหายไป ๆ" พร้อมกับถามตนว่าได้ไปกับตนหรือไม่
เมื่อตนตอบกลับไปว่า "เปล่านะ" ก็แน่ใจว่าลูกสาวหายตัวไป ก่อนที่จะช่วยกันเดินหา และสอบถามข้าง ๆ บ้านก็ไม่เห็น จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยให้มาช่วยค้นหา เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงถึงจะมีชาวบ้านมาแจ้งว่าเจอตัวเด็กอยู่ที่บริเวณไร่พุทรา ห่างจากบ้านของตนประมาณ 3 กิโลเมตร จากเวลาที่ทราบว่าน้องหายไปคือ เวลา 14.50 - 17.20 น.
ทั้งนี้ ตนไม่ติดใจสาเหตุที่เด็กหายตัวไป เพราะตนไม่อยากยุ่งยากเรื่องของคดีความ แต่แค่สงสัยในใจเพราะเชื่อมั่นว่าลูกสาวคงจะไม่สามารถเดินไปยังจุดดังกล่าวได้ และลูกสาวของตนก็เพิ่งจะอายุ 1 ขวบ 3 เดือน พัฒนาการในการเดินของเด็กก็ยังไม่ถึงขั้นว่าสามารถเดินไกลได้
นอกจากนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับใครแน่นอน ส่วนกับสามีก็ยังคงรักกันดีไม่ได้แยกทาง ถามว่าเชื่อเรื่องของพิธีกรรมหรือไม่ ตนไม่มีความเชื่อแบบนั้น ทั้งนี้ตนยอมรับว่าใจหาย เพราะไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ขณะที่ผลตรวจร่างกายไม่มีร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้ายร่างกาย หรือร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด ส่วนอาหารที่น้องกินเข้าไปตอนเที่ยงก็มีแค่ข้าวต้ม
นายสุรินทร์ พึ่งธรรม อายุ 45 ปี หัวหน้าอาสากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดปางศิลาทอง กล่าวให้ฟังว่า พวกตนใช้เวลาในการค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมง ปรากฏว่าไม่พบร่องรอย หรือเบาะแสใด ๆ โดยจุดที่ค้นหานั้นสวนใหญ่จะเป็นป่าสัก ไร่มันสำปะหลัง ไร่ข้างโพด สลับกันไปมา ตลอดจนยังมีบ่อน้ำใหญ่ 1 จุด กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึง 17.00 น. ก็มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเจอตัวน้องแล้ว ซึ่งห่างจากบ้านไปกว่าประมาณ 3 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะเดินไปเอง เพราะหากดูสภาพป่าและถนนแล้ว เด็กอายุแค่ 1 ขวบ ไม่สามารถเดินมาได้อย่างแน่นอน ตนมั่นใจว่าต้องมีคนพาไปแน่ ๆ เพราะช่วงที่เจอเด็กสวมรองเท้าสีชมพู กลับไม่พบร่องรอยดินโคลน หรือฝุ่นเกาะตามรองเท้า หากคำนึงถึงความเป็นจริง สภาพถนนจะต้องมีฝุ่นหรือเศษดินติดมาบ้าง
ทีมข่าวมีโอกาสไปพูดคุยกับ นายเชาว์โรจน์ โพธิ์นคร อายุ 62 ปี ข้าราชการครูเกษียณ ซึ่งเป็นผู้พบเจอเด็กเป็นคนแรก และโพสต์ตามหาญาติผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากโรงเรียนวังน้ำพัฒนา เพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านพักที่บริเวณบ่อหิน ซึ่งเส้นทางกลับบ้านตนจะต้องผ่านจุดที่เจอเด็ก ขณะที่ตนกำลังขี่รถออกมาจากโรงเรียนได้ประมาณ 5 นาที ก่อนจะถึงสวนพุทรา ก็ได้เห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังเดินมุ่งหน้าไปทางโรงเรียน ตนเห็นอย่างนั้นจึงหันไปสำรวจข้าง ๆ ก็ไม่พบว่ามีใคร จึงคิดว่าเด็กคงเดินมาเล่นโดยที่พ่อแม่ทำสวนในจุดใกล้ ๆ เลยตัดสินใจหยุดรถและอุ้มขึ้นรถ เพื่อจะขี่พาไปสอบถามว่าเป็นลูกใคร
แต่ชาวสวนแถวนั้นกลับบอกว่าไม่ใช่ลูกของเขา ตนเลยตกใจและก็พูดคุยกันว่าเด็กเป็นลูกใคร ตอนนั้นยังไม่ทราบว่ามีการประกาศตามหาตัวเด็ก ตนเลยตัดสินใจให้ชาวสวนพุทราอุ้มเด็กไว้ก่อน เผื่อพ่อแม่เด็กจะกลับมาตามหา รวมไปถึงตนก็ได้รีบถ่ายรูปประกาศลงในเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาแม่ของเด็ก กระทั้งมีคนทราบเรื่องติดต่อแม่ของเด็กให้มารับตัว
"ผมยืนยันว่าตอนที่เห็นเด็กไม่พบว่ามีรถต้องสงสัย ตอนที่เจอลักษณะการเดินก็พอเดินได้ ไม่ถึงขั้นล้ม แต่เดินมาจากทิศทางไหนผมไม่ทราบ จากที่ดูเด็กก็ไม่ได้ร้องไห้ หวาดกลัว ยังให้ผมอุ้มตามปกติ ในฐานะที่ผมเจอเด็กคนแรกอาจทำให้หลายคนคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็อยากจะบอกว่า ผมนี่แหละเป็นคนโพสต์ตามหาน้องเขา" นายเชาว์โรจน์ กล่าว
