กรณี ร.ต.อ.ชัยปติญญา แสงปาน หรือ ผู้กองเอก รอง.สว.สส. สภ.หนองปลิง ถูกนายมานพ อินทร์จันทร์ อายุ 41 ปี คนร้ายเมายาบ้าเกิดหลอนคลุ้มคลั่งเอาปืนลูกซองยิงใส่ขณะเข้าจับกุม หลังคนร้ายยิงนายบุญเลิศ โพธิ์ อายุ 72 ปี ดับคาที่
ก่อนที่ตำรวจชุดจับกุมจะยิงเข้าที่ขา ทำให้คนร้ายล้มลง และถูกจับกุมได้ ส่วน ร.ต.อ.ชัยปติญญา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ล่าสุด วันที่ 20 ม.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดนครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีพิธีรดน้ำศพ ร.ต.อ.ชัยปติญญา แสงปาน รอง.สว.สส.สภ.หนองปลิง โดยภรรยาอุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ ยืนข้างศพพ่อ พร้อมให้ลูกสาวเข้ากราบลาพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
นางวรรณลักษณ์ แสงปาน อายุ 34 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไม่ได้พูดคุยกับสามีเพราะต่างฝ่ายต่างทำงาน กระทั่งช่วงบ่ายทราบว่าสามีถูกยิง ตนรีบตามไปที่โรงพยาบาล ขณะนั้นหมอบอกว่าสามียังตอบสนอง สามารถพูดคุยได้ ตนก็ใจชื้นคิดว่าอาการน่าจะไม่หนักมาก กระทั่งทราบว่าความดันสามีเริ่มต่ำลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็เสียชีวิตในเวลาประมาณ 20.30 น.
โดยที่ผ่านมาสามีทำงานอย่างสุดความสามารถ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใด เพราะสามีเคยทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มาประมาณ 7 ปี
ส่วนตัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องเข้มแข็ง เพื่อดูแลลูกสาววัย 2 ขวบต่อไป โดยเรื่องการดำเนินคดีผู้ต้องหาขอปล่อยเป็นหน้าที่ของทางการ แต่อยากให้สังคมมองตำรวจในมุมใหม่ว่ามีตำรวจที่ดี ที่ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถจริง ๆ
นางประมวล แสงปาน อายุ 65 ปี แม่ของ ร.ต.อ.ชัยปติญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเตือนลูกชายตลอดเกี่ยวกับการทำงานให้ลูกระวังตัว เพราะตนมองว่าอาชีพตำรวจค่อนข้างเสี่ยง ซึ่งลูกชายเป็นคนขยัน ทำงานตลอดแทบไม่มีเวลาว่าง โดยลูกชายเกิดปีชวด ตนไปดูมารู้ว่าเป็นปีชง ก็พยายามชวนลูกชายไปเสดาะเคราะห์ แต่ไม่ได้ไปเพราะลูกชายไม่มีเวลา ทั้งนี้ ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการขั้นเด็ดขาด ไม่ปล่อยออกมาให้ก่อเหตุซ้ำได้อีก
ด้าน ด.ต.นันทภพ ทนทาน ผบ.หมู่สืบสวน สภ.หนองปลิง เพื่อนร่วมงานผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.45 น. มีคนร้ายยิงผู้อื่นเสียชีวิต จึงรีบจัดชุดออกติดตามไล่ล่า โดยออกไปด้วยรถยนต์ 4 คัน คันละ 4 คน แยกตามจุด
ชุดของตนซึ่งไปพร้อมกับ ร.ต.อ.ชัยปติญญา หรือ ผู้กองเอก ไปถึงจุดที่ป่ากล้วย ซึ่งคนร้ายจอดรถยืนอยู่ ทั้งหมดจึงลงจากรถ อาศัยจังหวะคนร้ายยืนหันหลัง ผู้กองเอกเดินเข้าไปจะชาร์จตัว จู่ ๆ นายมานพ ผู้ก่อเหตุ หันกลับมาใช้ปืนจ่อยิงผู้กองเอกในระยะประชิด จนผู้กองเอกล้มลง เจ้าหน้าที่จึงยิงสวนผู้ต้องหาก่อนเข้าทำการจับกุม
ด.ต.นันทภพ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้กินข้าวกับผู้กองเอกเป็นครั้งสุดท้ายช่วงเที่ยง ที่ผ่านมาผู้กองเอกเป็นเพื่อนร่วมงาน และเป็นหัวหน้าที่ดีมากตน เสียใจมากที่เกิดเหตุแบบนี้
ด้านนางอำพร จันทร อายุ 45 ปี อดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเลิกรากับนายมานพเกือบ 1 ปีแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้นายมานพ ตนจับได้ว่านายมานพมีพฤติกรรมใช้สารเสพติด ประกอบกับญาติพี่น้องนายมานพคิดว่าตนจะเข้าไปแย่งสมบัติ และนายมานพเองก็ชอบสั่งห้ามตนออกจากบ้าน ไม่ให้ไปพบคนอื่น
ครั้งสุดท้ายนายมานพขังตนไว้ในบ้าน แล้วเจ้าตัวก็ออกจากบ้านไป ตนจึงสบโอกาสหนีออกมา และย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด กระทั่งนายมานพโทรตามให้ตนกลับมาหย่า ตนจึงกลับมาหย่าให้ในช่วงเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้น ตนกับนายมานพก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
กระทั่งเมื่อวานนี้ทราบเรื่องส่วนตัวก็กลัวต้องรีบหนีไปหลบที่บ้านญาติ เพราะคิดว่านายมานพจะมายิงตนด้วย แต่สุดท้ายนายมานพก็ไม่ได้มาหาตน ส่วนเหตุที่นายมานพไปยิงนายบุญเลิศ ตนก็ไม่มั่นใจปมเหตุว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ดินหรือไม่ เพราะตระกูลนายมานพมีที่ดินเยอะ และมีอาการคลั่งยาด้วย โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 3 ปี นายมานพยังไปยิงพี่เขยตัวเองได้รับบาดเจ็บ ตนเห็นช่วงถกเถียงกัน จากนั้นนายมานพก็ชักปืนยิงเข้าที่รักแร้ของอีกฝ่าย โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุนายมานพซื้อมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเจ้าตัวเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ไม่ทำร้ายลูกเมีย
หลังทราบข่าวตนก็ตกใจ และสงสารตำรวจที่ถูกยิง ยังคิดว่าอยากไปบริจาคเลือดให้ตำรวจรายดังกล่าวด้วยซ้ำ ทั้งนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเด็ดขาด ไม่ควรปล่อยตัวนายมานพออกมา เพราะถือเป็นภัยสังคม
ด้านนายประไพ โพธิ์ทอง อายุ 80 ปี พี่ชายนายบุญเลิศ กล่าวว่า หลังนายมานพก่อเหตุยิงนายบุญเลิศ ก็ได้เข้ามายิงตนด้วย โดยนายมานพถือปืนเข้ามาในบ้าน และเรียกชื่อตนก่อนจ่อยิง แต่หลานชายปัดปืน ทำให้กระสุนเจาะเข้าเสาบ้านแทน จากนั้นนายมานพ หักปืนเตรียมใส่กระสุนใหม่ แต่หลานชายตนลากคออีกฝ่ายออกไปจากบ้าน เจ้าตัวจึงขับรถหนีไป
ทั้งนี้ ตนกับนายมานพไม่ได้มีความแค้นอะไรกัน ความจริงมีความเกี่ยวดองกันด้วยซ้ำ เพราะนายมานพเป็นน้องชายของลูกเขย
โดยตนไม่เคยคุยกับนายมานพ เพราะอีกฝ่ายเป็นอันธพาล ไม่มีใครอยากคุยด้วย
