วันที่ 20 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต บริเวณบ้านในซอยมิตรแท้ 3 หมู่ 3 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบที่เกิดเหตุลักษณะเป็นห้องเช่า มีผู้บาดเจ็บ 1 รายคือ นางสาวปรางค์อิสรา ธีรวิกรมมนูญ อายุ 33 ปี มีแผลถูกยิงซ้ายจากคอด้านหน้าทะลุท้ายทอยด้านหลังฝั่งซ้าย และใต้คาง มือขว
ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางสาวฉัตรสุดา มีประโคนอายุ 28 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่คอด้านหลังท้ายทอย และมือขวา ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายศิวกร เฉลิมแสนยากร
เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายศิวกร ที่ ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา พร้อมกับมีการก้มกราบเท้าแม่ ก่อนให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวอีกด้วย
เวลา 16.00 น. ทีมข่าวเดินทางมายัง สภ.เมืองนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำนายศิวกร ผู้ก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพผู้ต้องหาหลังไปยิงคนตายมา และให้สื่ออยู่ด้านนอกโรงพัก เนื่องจากเป็นการเคารพสิทธิของผู้ต้องหาที่ไปฆ่าคนตาย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ซอยมิตรแท้ 3 หมู่ 3 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำเชือกมากั้นพื้นที่เอาไว้ เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป
เจ้าของหอพัก ให้ข้อมูลว่า คืนเกิดเหตุ เมื่อวานนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่หอพัก เนื่องจากกลับไปนอนอยู่บ้านอีกหลัง กระทั่งมาทราบเหตุการณ์จากผู้เช่าหอพัก ที่โทรบอกตัวเองว่ามีเหตุยิงกันตายในห้องหมายเลข 9 ยอมรับว่าตัวเองตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก
สำหรับห้องพักดังกล่าว นางสาวฉัตรสุดา มีประโคน อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิต เป็นน้องสาวของผู้บาดเจ็บ เป็นผู้เช่าอยู่ตั้งแต่กันยายน 2564 ที่ผ่านมา กระทั่งช่วงวันที่ 10 มกราคม 2565 นางสาวปรางค์อิสรา พี่สาว ซึ่งเป็นอดีตแฟนผู้ก่อเหตุ เขาได้ย้ายมาอยู่กับน้องสาวที่ห้องพักดังกล่าว โดยมีเด็กชายมาด้วย แต่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกชายของนางสาวปรางศ์อิสราหรือไม่
จากการดูกล้องวงจรปิด พบว่าหลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุเขาได้ปีนประตูเหล็กหน้าหอพักตัวเองออกไปด้านนอก ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป โดยที่ผ่านมาตัวเองก็ไม่เคยเห็นผู้ก่อเหตุมาที่หอพักเลยสักครั้ง
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางมายังบ้านของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ที่หมู่ 3 ต.ลำมูล อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยที่หน้าบ้านของผู้เสียชีวิต ญาติและชาวบ้านได้มีการจัดตั้งเต็นท์ และจัดเตรียมงานศพ ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้นจะมีการรับศพพรุ่งนี้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนผ่าชันสูตร
นางมยุรี วิจิตศักดิ์ อายุ 51 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อคืนนี้หลังเกิดเหตุ ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านได้โทรศัพท์มาแจ้งตัวเองว่าให้ตัวเองทำใจดี ๆ เพราะลูกสาวของตัวเองถูกยิงเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน ตอนนั้นตัวเองก็เสียใจหนักมาก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเองคิดว่ามาจากเรื่องหึงหวง และนายศิวกร เขาตั้งใจจะมาง้อลูกสาวตัวเอง แต่ลูกสาวไม่กลับไปคืนดี เขาจึงลงมือก่อเหตุยิงลูกสาวทั้ง 2 คน
เมื่อวานนี้ เวลา 21.10 นางสาวฉัตรสุดา ลูกสาวคนเล็กที่เสียชีวิต ได้ส่งข้อความมาหาตัวเองก่อนเกิดเหตุ แต่ตัวเองไม่ได้เปิดอ่าน ข้อความว่า "แม่ไอซ์มานะเอาปืนมาด้วย" ตัวเองเปิดข้อความของลูกสาวหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตเล่าว่าตอนเกิดเหตุฉัตรสุดาอยู่ในห้องเช่ากับพี่สาว แล้วฉัตรสุดาก็กำลังโทรศัพท์พูดคุยกับแฟนหนุ่มคนดังกล่าวอยู่ กระทั่งนายศิวกรได้มาเคาะประตูเรียก ฉัตรสุดาก็เลยไปเปิดให้ จากนั้นนายศิวกรก็เอาปืนจี้คอฉัตรสุดา ก่อนจะยิงฉัตรสุดา แล้วไปยิงปรางค์อิสรา สำหรับปรางค์อิสรา ลูกสาวคนโตรู้จักกับนายศิวกรตอนไปค่ายอาสาช่วยเด็กยากไร้ด้วยกัน เมื่อปี 2564 กระทั่งคบหาดูใจกันได้ 2 เดือน นายศิวกรบอกกับลูกสาวว่าจะขอหมั้นวันที่ 9 มกราคม 2565 แต่ลูกสาวตัวเองยังไม่พร้อมที่จะหมั้นกับศิวกร เพราะขอทำงานก่อน และยังไม่สะดวกที่จะพาลูกติด 2 คน ไปอยู่กับแม่ฝ่ายชาย จากนั้นวันที่ 6 มกราคม 2565 ปรางค์อิสราจึงหนีกลับมาอยู่กับน้องสาวที่ห้องเช่าจุดเกิดเหตุ กระทั่งนายศิวกรตามมาก่อเหตุ
สำหรับนางสาวฉัตรสุดา ผู้เสียชีวิต เขาเพิ่งลาออกจากงาน แล้วก็เตรียมจะเปิดร้านยำรวมมิตร วันพรุ่งนี้ 21 มกราคม 2565 ซึ่งลูกสาวคิดชื่อร้านยำเอาไว้แล้วว่า "ร้านเดียร์กับดรีม" เพราะลูกสาวของฉัตรสุดาชื่อว่าน้องดรีม แต่ก็มาเกิดเหตุร้ายก่อน สำหรับนายศิวกร ผู้ก่อเหตุ เคยมาที่บ้านตัวเอง 1 ครั้ง เขาก็ดูเป็นคนดี พูดเพราะ ยังซื้อกางมาฝากตัวเอง กางเกงตัวดังกล่าวตัวเองก็กำลังสวมใส่อยู่ ตัวเองไม่คิดว่าเขาจะกล้าก่อเหตุถึงขนาดนี้
ส่วนนางสาวปรางค์อิสรา ลูกสาวคนโต ที่บาดเจ็บ ตัวเองก็ไม่รู้ว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง เพราะแพทย์ยังไม่ให้เข้าเยี่ยม และไม่ให้ข้อมูล ตัวเองเกรงว่านางสาวปรางค์อิสราจะจากตัวเองไปอีกคน ซ้ำหลานสาวอีก 3 คน คือลูกของฉัตรสุดา 1 คน ลูกของปรางค์อิสรา 2 คน กลัวว่าเขาจะเป็นเด็กกำพร้า ตัวเองไม่ขอให้อภัยคนก่อเหตุ ต่อให้เขามากราบเท้าตัวเองเป็น 1,000 ครั้ง ลูกสาวตัวเองก็ไม่มีทางฟื้น ตัวเองเปรียบนายศิวกรเขาเป็นขยะของสังคม จุดที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวก็เป็นเส้นทางมาบ้านตัวเอง ตัวเองก็คาดว่าเขาน่าจะยิงลูกสาวแล้วหวังจะมาบ้านตัวเองเพื่อฆ่ายกครัวหรือไม่
ด้านนางสาวแวว (นามสมมติ) พนักงานหอพักที่นายศิวกรมาพักอาศัย บอกว่า เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ นายศิวกรเขาได้มาเข้าพักที่ห้องเช่าของตัวเอง โดยขอพักรายวัน บอกกับตัวเองว่าเขามาหาเพื่อน กระทั่งเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.30 น. เขามาเปิดห้องที่หอพักตัวเองเป็นครั้งที่ 2 จากนั้นเวลา 17.30 น. เขาก็ขับรถออกจากหอพักตัวเองไป ซึ่งไม่รู้ว่าเขาไปไหน กระทั่งไปตัวเองมาทราบว่าเขาไปก่อเหตุฆ่าคนเสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาค้นห้องที่ผู้ก่อเหตุเข้าพัก ก็ไปพบระเบิดปิงปองประมาณ 20 ลูก ตัวเองคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมาพักที่หอของตัวเอง เพื่อดูลาดเลาของฝ่ายหญิงก่อนจะไปก่อเหตุดังกล่าวหรือไม่