เวลา 12.30 น. วันที่ 19 มกราคม 2565 ตำรวจ สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บริเวณบ้าน ม.3 ต.กลางแดด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบ้านปูนชันเดียว โดยข้างบ้านพบศพ นายบุญเลิศ โพธิ์ อายุ 72 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ลำตัวเสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายมานพ อินทร์จันทร์ อายุ 41 ปี
ต่อมาได้รับแจ้งว่า นายมานพได้หลบหนีจึงได้ออกตามจับกุม เมื่อมาถึงบริเวณทางลอดใต้สะพานเลี่ยงเมืองกลางแดด ม.3. ต.กลางแดด นายมานพได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิง ร.ต.อ.ชัยปติญญา แสงปาน รอง สว.สส.สภ.หนองปลิง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก และแขนข้างขวา ก่อนที่นายมานพจะถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยิงถูกบริเวณขาข้างขวา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยได้รีบนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งคู่ส่งรักษายังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ทันที
โดยที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 ของคนร้ายตกอยู่ 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฟีโน่ สีเขียว-ขาว ทะเบียน 61 กทม. ที่ใช้หลบหนี 1 คัน จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และนอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ ยังพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ของพลเมืองดีที่ขับรถไล่ตามคนร้าย ได้รับความเสียหายจากการถูกยิงอีก 1 คันด้วย
ต่อมาได้รับแจ้งว่าภายหลังจากยิงนายบุญเลิศ นายมานพได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนางต่าย อดีตภรรยาตัวเองที่บ้านพัก ได้รับบาดเจ็บ แต่อาการไม่สาหัส ถูกถูกนำตัวไปส่งรักษาโรงพยาบาลแล้วก่อนหน้านี้แล้ว
นายกฤตภาส คชรัตน์ อายุ 50 ปี พลเมืองดีที่ขับรถตาม ซึ่งกระจกรถด้านหลังแตก บริเวณท้ายรถมีรอยกระสุนปืน 9 รอย เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังปิ้งหมู ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ตนจึงสอบถามว่าใครยิงอะไร ซึ่งตอนแรกไม่ได้เอะใจ คิดว่าเป็นเสียงยางรถแตก กระทั่งพี่เขยบอกว่ามีคนยิงนกพิราบ
ตนจึงหันไปมองดูด้านซ้าย พบชายยิงปืนเข้าบ้านเรือนของประชาชน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะหลบหนี ตนจึงรีบบอกให้คนขับรถขับตามไป จากนั้นตนพบผู้ก่อเหตุมุ่งหน้าทางเลี่ยงเมือง จึงรีบบอกให้ขับตามไปแบบกระชั้นชิด เนื่องจากจะถ่ายทะเบียนรถ คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะรู้ตัว จึงได้จอดรถยิงปืนมาที่หลังรถตน 1 นัด กระสุนถูกที่กระจกหลังรถ คนขับรถจึงขับไป สักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงถอยรถไปดู พบผู้ก่อเหตุถูกยิงและมีตำรวจถูกยิงด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอุกอาจและรุนแรงเกินไป ก่อเหตุบริเวณถนน นอกจากนี้ตนยังทราบว่าผู้ก่อเหตุนั้นยิงถูกสุนัขอีก 1 ตัว ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะคลั่ง เพราะฤทธิ์ยาเสพติด สอบถามญาติพี่น้องของอดีตภรรยาพบว่าผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวนั้นมักมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด และชอบยิงบ้านของญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายและอย่าปล่อยให้ผู้ก่อเหตุกลับมาก่อเหตุได้อีก
ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิด ขณะนายมานพได้มาบ้านของลูกพี่ลูกน้อง ถนนสายเอเซีย ก่อนที่จะยิงสุนัขตาย 1 ตัว ถือปืนเข้าไปในบ้านของลูกพี่ลูกน้อง
นอกจากนี้ ลูกสาวผู้ตาย ระบุว่าทันทีที่มาถึงยังจุดเกิดเหตุก็พบนายมานพ คนร้าย ยังคงคลุ้มคลั่งไม่หยุด แล้วก็ยังใช้อาวุธปืนยิงมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บไปด้วย จึงทำให้ตำรวจต้องตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงสวนกลับไปโดนขาคนร้ายจนสิ้นฤทธิ์
ด้านนางณัฐมณ กลั่นสกุล ผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า บรรดาเพื่อนบ้านที่มีที่พักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับบ้านของคนร้ายในพื้นที่หมู่ 4 ต.กลางแดด ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเสพยาบ้าจนหลอนมานานนับปี จนชาวบ้านระแวกนั้นไม่มีใครกล้าไปยุ่งด้วย เพราะหวั่นอาจถูกยิงตายได้
นายพิษณุ พิมสวรรค์ อายุ 40 ปี ลูกพี่ลูกน้องผู้ก่อเหตุ เผยว่า บ้านของตนก็ถูกนายมานพยิงเช่นกัน ขณะที่เกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน พอกลับบ้านมาพบว่ากระจกหน้าบ้านแตกมีรอยกระสุนปืน จากนั้นได้สอบถามเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งเปิดกล้องวงจรปิด กระทั่งพบว่านายมานพที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องเป็นผู้ก่อเหตุ ภายหลังจากนั้นตนได้สอบถามญาติพบว่านายมานพได้ไปก่อเหตุยิงบ้านญาติ และยิงบ้านของนางต่าย อดีตแฟนสาว บาดเจ็บตรงราวนม คาดว่านายมานพจะชำระแค้น
ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ตนและนายมานพมีปัญหากันมาก่อน เนื่องจากนายมานพต้องการขายที่ดิน ซึ่งตนไม่ยอมขาย จึงทำให้นายมานพโกรธแค้น นอกจากนี้ เมื่อ 2 ปีก่อน นายมานพเคยก่อเหตุยิงบ้านพี่สาว ซึ่งทางพี่สาวและครอบครัวไม่เอาเรื่อง และได้ประกันตัว ขณะเดียวกันยอมรับว่านายมานพมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ครอบครัวพาไปรักษาพอกลับมา ก็กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
ปัจจุบันนี้ ทราบว่านายมานพเสพยาเสพติดวันละจำนวน 10 เม็ด ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุและคลุ้มคลั่ง ตนไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร อย่างไรก็ตาม อยากให้ตำรวจและครอบครัวของเขาดูแลนายมานพ เพราะหากปล่อยแบบนี้จะเป็นภัยอันตรายต่อสังคม