หลวงพี่น้ำฝน ไม่ให้ค่า ศรีสุวรรณ ร้องมหาเถรลงนะหน้าทอง ยันพิธีการ วัดไผ่ล้อม ไม่ใช่ มนต์ดำ

19 ม.ค. 65

หลวงพี่น้ำฝน ไม่สน พี่ศรี ร้องมหาเถร ลงนะหน้าทอง ยันพิธีการ วัดไผ่ล้อม คือการให้กำลังใจญาติโยมต่อสู้ชีวิต ไร้มนต์ดำ 

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมรับไม่เคยเห็นหรือเรียนวิชา ลงนะหน้าทอง แบบปิดทั้งหน้า แต่เคยเห็นครั้งไปต่างประเทศ ที่คนจัดงานแปะทองเต็มหน้าเพื่อเรียกราคาในการทำพิธี เผยไม่เคยให้ราคา ศรีสุวรรณ ออกโรงให้ มหาเถรฯ จับสึก หรือลงดาบ เพราะทำพิธีตามหลักครูบาอาจารย์แต่โบราณ ไม่เคยหลอกให้งมงายแต่ให้มีกำลังใจใช้สติในการดำเนินชีวิตด้วยบทสวดสำคัญสำหรับน้อมรำลึกองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

วันนี้ 19 มกราคม 65 ผู้สื่อข่าวติดตามประเด็นดราม่าที่มีการเปิดภาพและข้อมูลในการทำพิธี ลงนะหน้าทองแบบปิดทองเต็มหน้า ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี โดยมีความเชื่อว่าจะมีโชคทางการงานและความรักซึ่งมีกระแสประชาชนเดินทางเข้ามาจองคิวกันเป็นจำนวนมาก กระทั่งเกิดกระแสวิจารณ์ถึงการหลอกลวงและหวั่นจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในกรณีดังกล่าวนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาเผยว่าเป็นการผิดหลักพระธรรมวินัยเป็นจำนวนมากซึ่งเรียกร้องให้มหาเถรสมาคมออกมาลงดาบกับพระนอกรีตที่มีการกระทำในลักษณะดังกล่าว

ในกรณีดังกล่าว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝนเ จ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐมได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่าสำหรับประเด็นในเรื่องดังกล่าวที่เป็นข่าวการลงนะหน้าทองแบบที่มีการนำทองคำเปลวมาปิดทั้งใบหน้า ในส่วนตัวเองไม่เคยร่ำเรียนวิชานี้และไม่เคยมีการทำแบบนี้ แต่เคยเห็นครั้งที่ได้รับกิจนิมนต์ไปต่างประเทศเช่นประเทศจีน ฮ่องกง ซึ่งมีคนจัดงานจะมีการนำทองมาปิดทั้งหน้ากับผู้ที่เข้าร่วมพิธี โดยเพื่อเป็นการเรียกราคาและสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ แต่วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจาก หลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จะมีการปิดทองแค่บางส่วน คือส่วนที่เป็นหน้าผาก ริมฝีปาก และที่มือเท่านั้น และสิ่งที่จัดพิธีนี้เป็นวิชาที่ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้ไว้ เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมา โดยเป้าหมายคือการให้กำลังใจในการดำเนินชีวิตของญาติโยมเท่านั้น

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม นะหน้าทอง ลงนะ

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่าสำหรับประเด็นที่มีการกลัวว่าการลงนะหน้าทองจะเป็นแหล่งแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าที่วัดไผ่ล้อมได้มีมาตรการการป้องกันที่เข้มข้น โดยจะมีการลงอักขระยันต์ที่หน้าผากและริมฝีปากแต่ได้ตัดกระบวนการตรงการปิดทองจุดนั้นไป แต่ใช้เป็นการสวมหน้ากากอนามัยผ้ายันต์มัสลีนหนา4ชั้นทดแทน เพราะถือว่ามีลายยันต์อยู่แล้วและการเข้าร่วมพิธีจะมีการกำหนดในการจองคิวเพียงรอบละ 10-20 คนเท่านั้น ซึ่งจะไม่อยู่ในที่อับเพื่อป้องกันตามมาตรการของจังหวัดนครปฐม

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวต่อว่า สำหรับกระแสที่มีการโจมตีว่าเป็นความงมงายและเป็นแหล่งเรียกเงินทองจากญาติโยม เรื่องนี้ใครทำอะไรไว้ไม่นานผลกรรมก็จะกลับมาหาอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งที่วัดไผ่ล้อมอาตมาได้ใช้หลักคาถาบูชาชั้นสูง โดยเฉพาะที่หน้าผาก ทั้งบทสวดญเชิญพระบารมี 30 ทัศน์และบทสวดมุงกุฏพระพุทธเจ้า นี่คือมงคลทั้งสิ้นเพราะนำเอาบทสวดที่รำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาไว้ที่หน้า หน้าที่สูงท่านว่าดีหรือไม่ และให้ผู้เข้ารับการเจิมได้มีการตั้งจิตอธิษฐานให้เกิดความโชคดี

อาตมามีขั้วบวก ญาติโยมที่มาร่วมพิธีมีขั้วลบ เมื่อมาประสานกันก็จะมีพลังบางอย่าง โดยในการทำพิธีเมื่อได้รับพรญาติโยมก็จะได้รับขวัญและกำลังใจ เราไม่มีการสวดใส่บทให้ร่ำรวยหรือเป็นทางมืดดำที่เป็นอวิชชาแน่นอน

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม นะหน้าทอง ลงนะ

"ส่วนที่มีคนมากดดันมหาเถรสมาคมเพื่อให้พระผู้ใหญ่ออกมากำราบเรื่องนี้ สำหรับอาตมาไม่เคยให้ค่าคนๆ นี้เลย เพราะถ้าเขาพบคนที่หลอกลวงทำให้ญาติโยมเสียทรัพย์ เขาก็ควรจะไปจัดการได้เลย อาตมาก็เห็นว่าดี แต่ส่วนที่จะมาจับ มากดดันพระที่มีการจัดทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ในสังคมก็แล้วแต่เขาเพราะพระผู้ใหญ่ท่านทราบดีว่าใครทำอะไร อาตมากลัวเพราะค่าครูในการทำพิธีก็นำมาจัดสร้างพัฒนาวัด มีกองทุนสวดเผาฟรี มีการช่วยเหลือคนป่วยมาตลอด ก็เหมือนกับการทำสังฆทานเพื่อสิริมงคล การลงนะหน้าทองก็ให้ถือหลักว่าได้รำลึกถึงความดีและสืบสานพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง" หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้ายว่าสุดท้ายเรื่องนี้ประชาชนต้องศึกษาและใช้หลักคิดวิเคราะห์แยกแยะอย่างมีเหตุผล สิ่งที่สำคัญคือการมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต โดยครูที่สำคัญที่หลวงพ่อพูล ท่านได้สืบสานคือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้ให้หลักธรรมคำสั่งสอนกับเราไว้นั้นเอง

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส