อิ๋งอิ๋งร่ำไห้เปิดใจป่วยมะเร็ง ช็อกผัวปันใจขอปล่อยตามกรรม เผารูปสาปส่ง (คลิป)

ทำเอาแฟน ๆ และเพื่อนพ้องของพิธีกรสาวอย่าง "อิ๋งอิ๋ง-สิทธิณี กิตติสิทโธ" เป็นห่วงไปตาม ๆ กัน หลังจากเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ซ้ำยังต้องมาถูกแฟนหนุ่มที่อยู่กันมาแยกทางกัน

โดย "อิ๋งอิ๋ง" ได้โพสต์ภาพและข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องราวปัญหาความรักของตัวเองและแฟนหนุ่ม ระบุว่า "15 ปีที่ดูแลกันมา ไม่เคยให้เค้าเดือดร้อน หรือทำงานนอกบ้าน จัดเงินเดือนให้ทุกเดือนมีเงินใช้ 4-5 หมื่นบาทตลอด 15 ปี ความดีไม่เคยปรากฏ มีรถให้ใช้ 2 คัน ซึ่งเค้าเบิกค่าล้าง และค่าน้ำมันต่างหาก ทุกสัปดาห์ซื้อของก็ขอเบิกต่างหาก ภาระต่าง ๆ ในบ้าน เราดูแลทั้งหมด ค่าโทรศัพท์มือถือที่เค้าใช้คุยกับหมอนวด เราก็จ่ายให้ จากนี้ไปเค้าต้องเริ่มต้นใช้ชีวิตเอง หาเงินใช้เอง เงินที่เคยได้จากเรา..เค้าเอาไปปรนเปรอหมอนวด"

ทั้งนี้ ยังโพสต์ข้อความอีกว่า "วาระสุดท้าย...ของชีวิต หากไม่ตื่นพรุ่งนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก หมอบอกอยู่ได้อีกไม่นาน เพราะเค้ารู้ เค้าถึงทำแบบนี้กับเรา ความรักเป็นแบบนี้เหรอ ซื่อสัตย์กับเค้า รักและเทิดทูนมาตลอด ผลตอบแทนเป็นแบบนี้เอง ไม่ได้อยากประกาศ แต่อยากให้คนเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแบบเรา รู้เท่าทันคนอยู่ข้าง ๆ ว่าเค้าคิดอะไร เราสมควรมอบอะไรให้เค้าก่อนตาย เพื่อตอบแทนความดี"

จากนั้นก็โพสต์ด้วยว่า "ขณะที่เขียนอยู่ มีสติ ไม่ได้อยากประกาศ หรือขอความเห็นใจจากใคร ไม่มีห่วง ไม่มีอาวรณ์ มันเป็นบันทึกก่อนจะเดินทางไปไกลจากโลกที่โหดร้ายใบนี้ 3 ปีเต็ม ๆ ที่ป่วยติดเตียงด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย มันลามไปปอดกับต่อมน้ำเหลือง หมอบอกให้เค้าและน้อง ๆ รับรู้ว่าเราเหลือเวลาน้อยเต็มที อะไรที่ยังไม่ได้ทำก็ให้ทำเสีย เรากลับภูมิใจว่าจะได้ตายในอ้อมกอดคนที่เรารัก เพียงพอแล้วชาตินี้...ซึ่งเค้าพูดเสมอว่า..เค้าจะอยู่เคียงข้างจนลมหายใจสุดท้ายของเรา

...แต่แล้วเหมือนฟ้าผ่าต่อหน้าต่อตา...มีโทรศัพท์โทรเข้ามา...ถามเสียงดัง...ที่รักทานข้าวละยังจร้า...ชีวิตพังพินาศทันที ทำไมเราโชคร้าย...ขนาดนี้ เค้าสองคนใจร้ายมาก...หมอนวดมันรู้ว่าเราป่วยติดเตียง...ไม่มีแรงไปต่อกรกับมัน เราลุกขึ้นทันที...ตายไม่ได้ ฉันจะอยู่ต่อ...ขอเวลาอีกนิดก็ยังดี..สวรรค์"

หลังจากนั้นได้โพสต์ต่อว่า "ได้อ่านทุกข้อความ ขอบคุณทุกกำลังใจที่จะให้อยู่สู้ต่อ ความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ก็หยุดหายใจระหว่างให้คีโมไปแล้ว...ความดันตกไปที่ 70 หมอใช้เข็มแทงเปิดหลอดเลือดดำที่หน้าขาให้ฟื้น เจ็บมาก มันรู้สึกว่าหายใจไม่ออก แล้วก็ไปเลย รู้สึกตัวอีกทีเจ็บมาก หมอโช๊คให้เราตื่นขึ้นมาพบกับความจริง ที่เค้าปิดบังความชั่วช้าต่ำทราม...ความวิปริตทางเพศของผู้ชายที่เรารักและอยู่ด้วยมาถึง 15 ปี ตื่นขึ้นมาพบความจริงอีกมากมาย ที่ทำให้เรารับเค้าไม่ได้จริง ๆ เค้าได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงจริง ๆ เหรอเนี่ย"

ล่าสุดวันที่ 18 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้มีโอกาสไปโทรศัพท์ไปสัมภาษณ์ เพื่อพูดคุยกับ "อิ๋งอิ๋ง" เปิดใจทั้งน้ำตาว่า โพสต์ที่ตนได้เขียนเผยแพร่ของไป ตนไม่ได้ต้องการความเห็นใจจากใคร และไม่ต้องการให้ใครกลับมา แต่ต้องการเขียนบันทึกเรื่องราวของชีวิต ตนขอยืนยันว่าจะรักษาตัวและอยู่ต่อให้ได้ ถึงแม้ว่าหมอนวดคนนั้นจะคิดว่าตนไม่มีแรงไปต่อกรกับเขาก็ตาม เขาทั้ง 2 เป็นหญิงร้ายชายชั่ว ตนจะมีชีวิตอยู่เพื่อดูชีวิตของเขาว่าจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร

สำหรับอาการป่วยของตน ขณะนี้ตนพยายามกินและหายใจ เพราะโรคมะเร็งลามไปถึงปอด รวมถึงต่อมน้ำเหลือง ฝ่ายชายถึงรู้ว่าตนมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วัน เลยทำกับตนแบบนี้ ตนอยากจะขอบคุณทุกคอมเมนต์และกำลังใจ แต่ตนไม่ได้ต้องการสร้างกระแสและดราม่าเพราะไม่มีประโยชน์สำหรับคนใกล้จะตาย เมื่อปีที่แล้วหมอพูดเองให้ตนจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย

"วันศุกร์นี้พี่ก็จะไปทำคีโมครั้งที่ 23 และนอนพักอยู่ 1 คืน แต่อย่างครั้งที่แล้วพี่ก็ช็อก หยุดหายใจ หมดสติไป ความดันตกไปที่ 70 ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม พนักงานก็ทำงานอยู่ตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รายการก็ยังออนแอร์อยู่ ความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มตอนนี้ก็จบกันแล้ว แต่พี่จะพยายามเขียนให้เขาได้รู้ว่า ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงเข้ามาทำให้ชีวิตของพี่พังพินาศได้ถึงขนาดนี้ ทั้งที่เราเคยอยู่ด้วยกันมาตั้ง 15 ปี แต่แค่สายเดียวที่เขาตัดสินใจเลือกผู้หญิงคนนั้น มันถึงจะต้องจบ จบอย่างง่ายดาย ตัดขาดกันตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 64" อิ๋งอิ๋ง กล่าวให้ฟัง 

ทั้งนี้ ตนอยากฝากบอกถึงคนที่รักและเป็นห่วงตนว่า "ชีวิตมันก็มีแค่นี้แหละ เมื่อตายไปก็เอาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ความสุขที่แท้จริงมันคือความรัก แต่ความรักที่แท้จริงมันมีอยู่ในโลกไหม ใช้ชีวิตผ่านมาครึ่งชีวิตของคน แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนความดีมันคือแค่นี้เองเหรอ 15 ปีที่ดูแลกันมาพังแค่สายโทรศัพท์สายเดียว แล้วเขาก็เลือกผู้หญิงคนนั้น เพราะพี่ไม่ยอมนอนกับเขา แต่งงานกันมา 15 ปี ใช้ชีวิตลูกผู้หญิงอย่างขมขื่น ต้องแยกนอนกันคนละห้องมา 14 ปี มันถึงเวลาแล้ว ที่จะพูดความจริง คนใกล้ตายไม่ทำร้ายใครหรอก คนที่จะตายอย่างนี้จะไม่ทำร้ายใครก่อน หากเขาไม่ทำร้ายพี่ ต่อไปก็จะรอดูชีวิตของเขากับผู้หญิงหมอนวดว่าจะอยู่ด้วยกันได้สักกี่น้ำ หากไม่มีตังต์ของพี่เขาจะอยู่กันยังไง"

อย่างไรก็ตาม ตนจะอยู่ได้เท่าที่ฟ้าและสวรรค์จะให้ตนอยู่ได้ วันไหนที่ไม่ตื่นขึ้นมาก็จบสิ้น ตราบใดที่ท้องฟ้าสว่างและมีลมหายใจตนก็ต้องอยู่ต่อไป ตนจะไม่ฆ่าตัวตาย และจะไม่ทำร้ายตัวเอง แต่เมื่อถึงวาระสุดท้ายร่างกายของตนได้อุทิศให้กับโรงพยาบาลไปหมดแล้ง ส่วนไหนที่เอาไปใช้ได้ หัวใจ ลูกตา ความรักและความซื่อสัตย์ของตนให้เขาเอาไปใช้ประโยชน์

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสเดินทางไปที่บริษัทของ "อิ๋งอิ๋ง" ย่านสุทธิสารวินิจฉัย แต่ประตูบริษัทปิดเงียบถูกล็อกคล้องด้วยแม่กุญแจ ต่อมาทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ คุณก้อย (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลว่า ช่วงนี้ตนไม่ได้เจอกับคุณอิ๋งอิ๋ง เพราะต่างคนก็ต่างทำงาน แต่ได้คุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อ 1 ปีที่แล้ว เจอกันก็ทักทายกันปกติ ไม่ได้คุยถึงเรื่องสุขภาพ เพราะตนไม่ทราบว่าเขาป่วยเป็นโรคมะเร็ง

"แฟนเขาเหรอ ก็เห็นอยู่บ้าง เห็นคุณอิ๋งอิ๋งเดินกับแฟนหนุ่ม แต่ก็ไม่ได้เจอบ่อย และเราก็ไม่เคยคุยกับแฟนเขา ทั้ง 2 คนก็ดูปกติและดูรักกันดีนะ แต่นาน ๆ จะเห็นครั้ง เพราะต่างคนต่างทำงาน เราเป็นแค่เพื่อนบ้าน แต่ไม่สนิทถึงขั้นคุยเรื่องส่วนตัวกันค่ะ" เพื่อนบ้าน กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจว่าคุณอิ๋งอิ๋ง น่าจะมีบ้านหลายหลัง ทำให้ช่วงหลัง ๆ ตนไม่ค่อยได้พบเจอกัน จากที่ตนทราบจากข่าว คุณอิ๋งอิ๋งป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ตนก็รู้สึกใจหาย เพราะปกติที่ตนเจอเขา สีหน้าก็ดูปกติ แข็งแรง ไม่มีลักษณะอาการของคนป่วยให้เห็นเลย และทุก ๆ ครั้งที่ได้พบเจอกันก็ยังดูสวยอีกด้วย