ปลัดจอมแฉ เปิดตำราวิเคราะห์ดราม่า CEO สาวฟ้อง ผู้ใหญ่บ้านคนงามบึงกาฬ ชี้ จดได้ไม่ผิด

17 ม.ค. 65

ทำได้หรือไม่ ปลัดจอมแฉ ชี้ชัดกรณี CEO สาวปรึกษา ทนายตั้ม หลังสามีอยู่กินกันมา 10 ปี มีลูกด้วยกัน ดอดไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านดังสุดสวย

ปลัดจอมแฉ ชี้กรณีผู้ใหญ่บ้านสาวสวยคนดังบึงกาฬ จดทะเบียนสมรสทำได้ตามกฎหมาย หลังโดน ผู้บริหารสาว เจ้าของบริษัททีวีโวยแอบจดทะเบียนสมรสกับอดีตสามีที่อยู่กินกันมานานนับสิบปีและมีลูกด้วยกัน ระบุหากนายทะเบียนตรวจสอบแล้วไม่ได้จดทะเบียนสมรสอยู่แล้วย่อมทำได้

จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เปิดเผยบอกเล่าเรื่องราวว่าผู้บริหารบริษัทช่องเคเบิ้ลทีวีแห่งหนึ่งได้เข้าพบขอคำปรึกษาและความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิหรือดำเนินการทางกฎหมายเนื่องจากสามีที่อยู่กินกันมานานกว่า 10 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คนแอบไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านสาวสวยชื่อดังในจังหวัดบึงกาฬนั้น

วันนี้ 17 ม.ค. 65 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย เชียงใหม่ เจ้าของฉายา ปลัดจอมแฉ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าตามกฎหมายแล้วผู้ชายและผู้หญิงที่ อายุ 17 ปีขึ้นไป สามารถจดทะเบียนสมรสได้ โดยหากอายุยังไม่ถึง 20 ปี ต้องได้รับความยินยอมและที่สำคัญทั้งสองฝ่ายต้องไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่จดทะเบียนสมรสอยู่แล้วกับผู้อื่นไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถจดทะเบียนให้ได้
ทั้งนี้นายทะเบียนที่รับแจ้งจะทำการซักถามและตรวจสอบข้อมูลด้วยซึ่งปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วแม่นยำผ่านระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยถ้าฝ่ายใดเคยจะทะเบียนสมรสและหย่าแล้วจะต้องนำหลักฐานการจดทะเบียนหย่ามาแสดงและมอบให้กับนายทะเบียนด้วยซึ่งหากคุณสมบัติทุกอย่างเป็นไปตามข้อกำหนดหลักเกณฑ์ตามกฎหมายย่อมสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้เช่นเดียวกับกรณีผู้ใหญ่บ้านสาว ซึ่งหากตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้จดทะเบียนสมรสอยู่ย่อมจดได้

สำหรับประเด็นที่ว่าอยู่กินฉันท์สามีภรรยาเป็น 10 ปีและมีลูกด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสนั้น หากอีกฝ่ายหนึ่งไปจดทะเบียนสมรสกับผู้อื่นย่อมสามารถทำได้หากนายทะเบียนตรวจสอบแล้วพบว่ามีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์กฎหมายทุกอย่าง ฝ่ายภรรยาย่อมไม่สามารถเรียกร้องใดๆ ตามกฎหมายได้ นอกจากการเรียกร้องให้รับรองบุตรตามกฎหมายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากเป็นในกรณีที่สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอยู่แล้วแต่ต่อมาปรากฏว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไปมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับผู้อื่นทางฝ่ายที่ได้รับความเสียหายย่อมสามารถใช้สิทธิเรียกร้องและดำเนินการตามกฎหมายได้จากทั้งคู่สมรสและผู้อื่นที่มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งหากผู้ที่กระทำผิดเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐยังจะมีความผิดทางวินัยฐานประพฤติชั่วร้ายแรงด้วย.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส