กรณีภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพขณะเด็กคนหนึ่งเดินผ่านกล้องไป จากนั้นหญิงสูงวัยก็กำลังจะเดินผ่านกล้องไป แต่จู่ ๆ รถกระบะก็ขับเฉี่ยวหญิงรายนี้จนล้ม โชคดีที่ไม่อัดเข้ากับรถกระบะที่จอดอยู่ จึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก ขณะเดียวกันมีรายงานว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้คนขับรถกระบะเสียชีวิต
ล่าสุดวันที่ 16 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุด้านหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.นครปฐม จึงได้พบกับนางส้มจีน คำยอด อายุ 53 ปี หญิงคนดังกล่าว พาทีมข่าวเดินดูจุดเกิดเหตุหน้าบ้าน ซึ่งมีรอยล้อรถ และปูนที่ก่อล้อมต้นหางนกยูงแตกกระจาย
นางส้มจีน กล่าวว่า ตนเป็นลูกจ้าง เลี้ยงน้องเอฟ วัย 1 ขวบ 10 เดือน ซึ่งเป็นหลานชายของเจ้าของบ้าน ก่อนเกิดเหตุตนกลับมาจากไปซื้อของ และเพิ่งลงจากรถกระบะ ขณะนั้นน้องเอฟ เดินลงจากรถไปก่อน และเดินอ้อมไปทางหลังรถ เพื่อจะไปหาย่า ซึ่งเป็นคนขับ ตนจึงเดินตามเด็กไป โดยถือรองเท้าไปด้วย ในระหว่างนั้นไม่ได้ยินเสียงรถ แต่จู่ ๆ ก็มีบางอย่างเฉียดตัวและตบหู จนทำให้ตนล้มลงไป เมื่อมีสติก็พยายามลุกขึ้นก่อนเดินออกมาจากจุดเกิดเหตุ และทราบว่าถูกรถกระบะขับเฉี่ยวอย่างแรง โชคดีที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
สำหรับอาการของตน คือ ขาขวาช้ำบวม หูอื้อไปหมด จึงรีบไปหาหมอเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลทันที ทราบว่าคนขับรถซึ่งเป็นผู้ชาย เสียชีวิต ส่วนภรรยาที่นั่งข้างบาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังเกิดเหตุลูกสาวผู้ตายก็นำกระเช้าเข้ามาขอโทษ พร้อมมอบเงินใส่ซองให้ จำนวน 2,000 บาท ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ บริษัทประกันเป็นผู้เยียวยา
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเห็นใจอีกฝ่ายที่สูญเสียพ่อ และแม่ก็บาดเจ็บ ตนเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้ห้อยพระในวันเกิดเหตุ แต่ก่อนหน้าประมาณ 2 ปี ช่วงใกล้ปีใหม่ก็เคยเกิดอุบัติเหตุใหญ่ ขณะทำงานที่โรงงาน มีรถบรรทุกชนจนหลังคาถล่มลงมา ขณะที่ตนทำงานอยู่ แต่ก็รอดมาได้ ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะตนเป็นคนชอบทำบุญทำทาน ผลบุญจึงรักษา แต่ก็ยังผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่กล้าไปยืนบริเวณที่เกิดเหตุ เพราะกลัวจะมีเหตุซ้ำ
นางบุษกร สืบพันธ์โกย อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถกระบะมาจอดหน้าบ้าน ระหว่างนั้นหลานชายเดินวนมาจากฝั่งคนนั่ง จู่ ๆ ก็มีเสียงดังสนั่น หลานชายร้องไห้ด้วยความตกใจ ตนมาทราบภายหลังว่ารถกระบะอีกคันเบียดเข้ามา จนนางส้มจีน ลูกจ้างของตนบาดเจ็บ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ใกล้ ๆ เข้ามาตรวจสอบและพยายามเคาะกระจกเรียกคนขับ และคนนั่งข้าง ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ซึ่งเรียกอยู่นานจนภรรยาเริ่มได้สติ สามารถเปิดประตูเข้าไปได้ แต่ภรรยายังอยู่ในอาการมึนงง ส่วนคนขับหมดสติไปแล้ว กู้ภัยต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่พบว่าชีพจรอ่อนมาก ๆ จนสุดท้ายหัวใจหยุดเต้นเสียชีวิต ซึ่งตนก็มาทราบจากญาติว่าคนขับน่าจะวูบ เพราะบอกภรรยาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุว่า "เหมือนจะวูบ" ยังไม่ทันจอดรถก็เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเสียก่อน
"ส่วนตัวก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลานชาย และนางส้มจีน ก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งต้นหางนกยูง ที่มีอายุกว่า 100 ปี เชื่อว่ามีเทวดารักษาอยู่ ปกปักไม่ให้ครอบครัวได้รับอันตราย รวมถึงศาลพ่อปู่แขกข้างบ้าน อายุมากกว่า 50 ปี ที่คอยช่วยเหลือ" เจ้าของบ้าน กล่าว
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านคนขับรถ โดยญาติระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการเจรจากันจบไปแล้ว ซึ่งคนขับรถไม่ได้มีโรคประจำตัว แต่เกิดจากอุบัติเหตุ และก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ขณะนี้ทางภรรยาก็ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยครอบครัวก็ได้เข้าไปขอโทษนางส้มจีน ผู้บาดเจ็บ อีกฝ่ายก็เห็นใจ ไม่ได้ติดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงขอจบเรื่องแค่เท่านี้
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทราบชื่อคนขับรถ นายจักรภัทร อายุ 56 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนางจินดาภา อายุ 56 ปี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เบื้องต้นคดีเป็นเรื่องความประมาทหลังเกิดเหตุครอบครัวคนขับรถได้เข้าเจรจาและชดใช้เยียวยากับผู้บาดเจ็บแล้ว ซึ่งฝ่ายคนเจ็บก็ไม่ได้ติดใจเอาความ
