เผด็จศึกโจรสาวสุดแสบ ร้านทองใช้รถล่อจับ เจ้าตัวลั่นเข็ดแล้วใช้สลิปโกงของ (คลิป)

จากกรณีเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ลงคลิปประจานมิจฉาชีพ หญิงวัย 23 ปี ก่อเหตุหลอกเอาสลิปโอนเงินปลอมมาหลอกสั่งสินค้า ซึ่งทางเจ้าของร้านได้วางเเผนโดยการติดต่อไปยังหญิงรายนี้ หลอกล่อว่าเป็นผู้โชคดี ได้รับรางวัลจากทางร้านเป็นรถจักรยานยนต์มูลค่า 58,000 บาท หญิงรายนี้จึงเดินทางมาที่บริษัทเพื่อหวังจะรับของรางวัล

จากนั้นในคลิปทางเจ้าของร้านได้ถามเรื่องสลิปพร้อมนำหลักฐานมาแสดงให้ดู จนมิจฉาชีพรายนี้ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ นำสลิปของคนอื่นมาสั่งซื้อสินค้า หญิงรายนี้อ้างว่าเพิ่งทำครั้งแรก ขอโอกาสจากเจ้าของร้านไม่ให้ดำเนินคดี แต่เจ้าของร้านไม่ยอม ได้ต่อว่า พร้อมแจ้งตำรวจให้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยเเพร่ออกไป ถูกวิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลฯ ความคิดเห็นก็แตกต่างกันไป บางส่วนเห็นด้วยกับเจ้าของร้านว่าควรประจารมิจฉาชีพ เพื่อไม่ให้คนแบบนี้มีที่ยืนในสังคม แต่บางส่วนกลับเห็นต่างรู้สึกสงสารมิจฉาชีพ โดยมองว่าหากเป็นการกระทำผิดฉ้อโกง ก็ควรให้กฎหมายจัดการ แต่การถ่ายคลิปประจานเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ

ล่าสุด วันที่ 15 ม.ค. 65 น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ ตั๊ก ผู้บริหารห้างเพชรทองเคทูเอ็น เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 โดยก่อนหน้านั้นทางบริษัทมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม พร้อมจัดโปรโมชันกล่องสุม ราคา 988 บาท มีแจกทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยมิจฉาชีพรายนี้ก็ได้ส่งสลิปการโอนเงินมายังเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งทางบริษัทก็จัดส่งสินค้าไปให้

หลังจากนั้นก็มีลูกค้าอีกราย ซึ่งเป็นเจ้าของสลิปตัวจริงทักมายังเพจเฟซบุ๊กว่าโอนเงินเเล้ว แต่ยังไม่ได้ของ ทางทีมงานก็ตรวจสอบ จนกระทั่งทราบว่ามีคนนำสลิปของลูกค้าคนดังกล่าวมารับของไปเเล้ว จึงทราบวิธีการของมิจฉาชีพที่แอบไปเอาสลิปของลูกค้ารายอื่น ๆ ที่อยู่ตามคอมเมนต์ของโพสต์ต่าง ๆ สวมรอยส่งมายังเพจว่าสลิปดังกล่าวเป็นของตัวเอง ตอนนี้ทางบริษัทถูกมิจฉาชีพโกงในลักษณะนี้เป็น 100 ราย

หลังจากนั้น ทีมงานจึงทักไปหามิจฉาชีพหลายคน หลอกล่อว่าได้รับของรางวัลเป็นรถจักรยานยนต์ 1 คัน จนกระทั่งมิจฉาชีพรายนี้ได้ติดต่อกลับมา เดินทางมาที่บริษัทเพื่อหวังจะรับของรางวัล เเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป ตอนแรกตนก็ชวนพูดคุย ถามเรื่องสลิป เนื่องจากชื่อไม่ตรงกัน มิจฉาชีพก็อ้างว่าจ้างร้านค้าโอนให้ เเต่เมื่อถามว่าร้านค้าที่โอนอยู่ที่ไหน มิจฉาชีพตอบไม่ได้ จนสุดท้ายก็ยอมรับว่าปลอมสลิปของคนอื่นมา จากนั้นจึงได้เเจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาฉ้อโกง โดยทางตำรวจมีการนำตัวส่งศาลเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ศาลสั่งปรับ 10,000 บาท ถือว่าเรื่องคดีจบไปเเล้ว

"ส่วนการโพสต์คลิปลงเพจ วัตถุประสงค์อยากทำให้ทุกคนเห็น ไม่ว่าเงินที่โกงจะเล็กน้อยเเค่ไหน เเต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์โกงใคร ต้องการให้เป็นเคสตัวอย่าง สำหรับคนที่คิดจะโกงเเม่ค้าออนไลน์ พอถูกจับได้ก็อ้างจน ความจนไม่ใช่ข้ออ้างในการโกงใคร ทำไมไม่มองถึงเจ้าทุกข์ที่เขาโดนโกงบ้างว่าเขารู้สึกอย่างไร"

ส่วนกรณีโซเชียลฯ บางส่วนแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าการลงคลิปประจานทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งส่วนตัวยอมรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เพราะทำธุรกิจด้านออนไลน์ ย่อมต้องเผชิญกับคอมเมนต์ที่หลากหลายอยู่เเล้ว แต่ขอให้เเสดงความคิดเห็นอยู่ในความเหมาะสม เพราะหากใครคอมเมนต์ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ฝ่ายกฎหมายก็พร้อมดำเนินคดีเช่นกัน

ทั้งนี้ ขอชี้เเจงว่าก่อนถ่ายคลิปมีการปรึกษาทนายความเเล้วว่าขณะถ่ายตัวมิจฉาชีพสวมหน้ากากอนามัย อีกทั้งก็ยอมจำนนด้วยหลักฐาน ดังนั้นจึงสามารถถ่ายได้

ทีมข่าวอมรินทร์ ลงพื้นที่ ต.หนองกระโดน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ไปพูดคุยกับ น.ส.ศิรดา (สงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ตนยอมรับผิดกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งตนทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เรื่องนี้ก็ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตตน และยืนยันว่าจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีก

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้หลายคนดูเรื่องของตนเป็นตัวอย่างว่าคนไม่สุจริตนั้นต้องเจออะไรบ้าง ให้ทุกคนดูเป็นบทเรียน แต่ไม่อยากให้ลอกเลียนแบบ