พ่อตาฆ่าเขยคลั่ง ลั่นช่วยลูกสาว แฉคลิปอาละวาดตีคนแก่ก่อนตาย (คลิป)

15 ม.ค. 65

จากเหตุการณ์เมื่อช่วง 20.00 น. ของวันที่ 14 มกราคม 2565 เกิดเหตุยิงกันภายในบ้าน หมู่ 4 บ้านหนองบัว ต.สระสมิง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มีผู้บาดเจ็บ 1 รายทราบชื่อ นายเอกชัย ธรรมทอง อายุ 33 ปี นอนฟุบจมกองเลือดอยู่ภายในบ้านเกิดเหตุ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ไทยประดิษฐ์ บริเวณหน้าท้อง 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา

530242

ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของบ้าน อดีตพ่อตาของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายสมพงษ์ พวงจำปา อายุ 57 ปี หลังก่อเหตุก็ได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกู้ภัย และยืนรอมอบตัวอยู่ที่จุดเกิดเหตุด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวสอบสวนที่ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่น ทราบว่าทางครอบครัวของนายสมพงษ์ ได้ทำการยื่นประกันตัวด้วยวงเงิน 500,000 บาทแล้ว

828511

นางสาวนพยงค์ พวงจำปา อายุ 28 ปี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุและเป็นอดีตภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดใจทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองยังคงเสียใจ เพราะพ่อตัวเองก็โดนคดี ส่วนอดีตสามีซึ่งเป็นพ่อของลูก 3 คน ต้องมาเสียชีวิตไป ตนแต่งงานตดทะเบียนสมรสกับนายเอกชัยเมื่อปี 2552 แล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 1 ปี จนมีลูกชาย 1 คน ปัจจุบันอายุ 12 ขวบ ช่วงปี 2553 นายเอกชัยก็เริ่มมีนิสัยเปลี่ยนไป จากที่เคยขยันทำงาน ก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ติดเหล้าติดยา จนถูกดำเนินคดีมาแล้ว 2 รอบ ในข้อหาเสพยาเสพติด เมือ่ปี 2555 และปี 2557 แต่ไม่เคยถูกจำคุก เพราะครอบครัวประกันตัวให้ทุกครั้ง

747675

ต่อมามีลูกด้วยกันอีก 2 คน คนกลางเป็นผู้ชายอายุ 7 ขวบ คนสุดท้องเป็นผู้หญิงอายุ 1 ขวบ 5 เดือน แต่ด้วยพฤติกรรมที่ไม่การเอางานของนายเอกชัยบวกกับเวลาเมาเหล้าเมายาแล้วชอบทำร้ายเมีย ทำร้ายลูก บางทีก็คลั่งจนเอามีดมาจี้คอตน เอาเท้าเหยียบหัวตน ก็เลยทนไม่ไหวจึงขอหย่าเมื่อปี 2560 แต่ก็ยอมรับว่าแม้จะหย่าร้างกันแล้วก็ยังคงไปมาหาสู่ด้วยกันตลอด จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ตนได้ตัดสินใจขอแยกกันอยู่กับนายเอกชัยอย่างถาวร เพราะเห็นว่าเขาเมาเหล้าหนักขึ้นจนมีอาการหลอนอาละวาด แล้วมาเอ่ยปากขู่ฆ่าตนกับครอบครัว ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่และผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่

383075

กระทั่งเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2564 ตนก็ได้มาพบรักใหม่กับนายสายัณต์ จรูญกุล อายุ 26 ปี และเพิ่งผูกข้อไม้ข้อมือกันไปเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2565

cg

จนกระทั่งเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเอกชัยขับรถจักรยานยนต์มาที่บ้าน ตนกับครอบครัวไม่เปิดประตูให้ เขาก็ขับวนไปวนมาอยู่ 2-3 รอบ จนรอบสุดท้ายก็เห็นว่าเอาหมวกกันน็อกที่วางอยู่หน้าบ้านไปทุบหน้าต่างบ้านตน จากนั้นก็เดินมาที่หน้าบ้าน แล้วเขย่าประตูบ้านอยู่สักพัก พร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋าแล้วขู่ว่าจะฆ่าให้หมดทั้งบ้าน ตนซึ่งนอนอยู่กลางบ้านก็ตกใจ จึงรีบพาลูก 3 คนเข้าไปในห้อง แต่ตาทวดกับยายทวดวัย 80 กว่าปีที่ป่วยติดเตียงยังคงนอนอยู่ข้างประตู ทำให้พ่อของตนไม่พอใจ เดินไปเตือนและห้ามแล้ว เพราะในบ้านมีผู้ป่วยติดเตียง เกรงว่าจะกระทบกระเทือน

239638

แต่นายเอกชัยยังดื้อรั้นไม่ยอมไปไหน พ่อได้ไปหยิบปืนไทยประดิษฐ์ใต้ที่นอนออกมาขู่ห้ามไม่ให้นายเอกชัยเข้ามาในบ้าน นายเอกชัยก็พังประตู พ่อจึงยิงไป 1 นัด กระสุนเข้าที่ท้องของนายเอกชัยทำให้ล้มลงที่หน้าบ้านทันที หลังจากสิ้นเสียงปืน ตนและลูกจึงออกมาดู เห็นร่างของนายเอกชัยนอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าบ้าน ยอมรับว่ายังคงเป็นภาพติดตาตัวเองและลูกทั้ง 3 คน แล้วพอมาทราบข่าวเมื่อเช้าว่าเสียชีวิต ตนก็พยายามที่จะอธิบายกับลูกว่า "พ่อหมดเวรหมดกรรมแล้ว พ่อไปดีแล้วนะ หลังจากนี้พอจะไม่มายุ่งวุ่นวายอะไรอีก" พร้อมตั้งใจว่าหลังจากนี้จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูก เลี้ยงดูลูกไปพร้อมกับตายายและครอบครัว ขอให้นายเอกชัยไปสู่สุคติ ตนและครอบครัวขออโหสิกรรมให้กับเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา

416995

นางฝั่น ศรีอรุณ อายุ 81 ปี ยายทวดที่อยู่ในเหตุการณ์เดือนมีนาคม 2564 ที่นายเอกชัยเข้ามาระรานจนตนต้องถือมีดพร้าไปไล่ให้พันบ้าน เพราะสามีคือ นายพา ศรีอรุณ อายุ 83 ปี นอนป่วยติดเตียงอยู่ด้วย เนื่องจากกระดูกขาแตก ไม่สามารถเดินได้มาประมาณ 4-5 ปี เปิดเผยว่า ตัวเองอยู่ในทุกเหตุการณ์ที่นายเอกชัยบุกรุกเข้ามาที่บ้าน อย่างเหตุการณ์เมื่อคืนตนก็นอนเฝ้าสามีอยู่ ซึ่งถ้านายเอกชัยพังประตูเข้ามาได้โดยที่ นายสมพงษ์ไม่ตัดสินใจลั่นไกปืน มีหวังว่าไม่ตนก็สามีที่อาจจะตายแทนเขา เพราะทุกครั้งที่มาก็ขู่ว่าจะฆ่ายกครัวตลอด

761923

ตนยอมรับเลยว่าที่ผ่านมาใช้ชีวิตกันอย่างผวา หลายครั้งที่นายเอกชัยบุกมาตอน 21.00-2.00 น. ด้วยอาการมึนเมา มีแค่ตนกับสามีอยู่บ้านเขาจะขู่ให้ตนเปิดประตูไม่งั้นจะฆ่า หรือไม่ก็ด่าสามีตนโดยไม่มีเหตุผลว่า "ไอ้ค-ย, ไอ้หมา, โคตรพ่อโคตรแม่มึง" แล้วก็เขย่าประตูจนพังไปหลายรอบ บางครั้งตัวเองก็กลัวจนต้องโทรหาตำรวจ แต่เขามักจะหนีกลับไปได้ก่อน หรือแม้กระทั่งบางครั้งตนต้องลุกขึ้นไปดันประตูไว้ ทั้งที่ไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากนัก ที่เห็นว่าตนเคยถือมีดพร้าไล่ให้นายเอกชัยพ้นบ้านไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นการป้องกันตัววิธีเดียวที่ตนสามารถทำได้ สุดท้ายหลังทราบข่าวว่านายเอกชัยเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ก็เสียใจ อยากที่จะขออโหสิกรรม ไม่อยากจองเวรจองกรรมเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา

343314

นายสายัณต์ จรูญกุล อายุ 26 ปี สามีคนปัจจุบันของนางสาวนพยงค์ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว เพราะที่ผ่านมา นายเอกชัยเห็นว่าตนคบหาและแต่งงานกับนางสาวนพยงค์ ซึ่งเขาก็ไม่เคยมาระรานหรือพูดคุยอะไรกับตน ทุกอย่างปกติมาก และยืนยันอีกเหมือนกันว่าตัวเองไม่ได้เป็นมือที่สาม เนื่องจากด้วยระยะเวลาที่ทั้ง 2 คนนั้นเลิกรากันมันก็นานมากแล้ว ต่างคนต่างโสด และผู้ใหญ่ทุกคนก็รับรู้ เห็นดีเห็นงามทั้งหมด

ในเมื่อนายเอกชัยเสียชีวิตไปแล้ว ตนก็จะขอทำหน้าที่สามีที่ดีของภรรยา และเป็นพ่อที่ดีของเด็กทั้ง 3 คน แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกตัวเองก็ตาม และพร้อมจะอยู่กับนางสาวนพยงค์ไปจนแก่เฒ่า

122840

ทีมข่าวเดินทางไปบ้านของนายเอกชัย หมู่ 2 บ้านโนนยาง ต.สระสมิง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ถูกจัดเตรียมเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นางปราศรัย ธรรมทอง อายุ 54 ปี แม่ของนายเอกชัย ผู้เสียชีวิต ยอมรับว่า ลูกชายเป็นคนที่กินเหล้า เมายาหนักมากจริง ถึงขนาดที่เคยโดนจับมาแล้ว 2 ครั้ง ทุกครั้งที่เมาก็จะหาเรื่องทะเลาะกับอดีตภรรยาตลอด จนทำให้อดีตภรรยาทนไม่ไหวต้องหอบลูกกลับไปอยู่บ้านที่เกิดเหตุ แล้วยิ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมา ราบว่าอดีตภรรยาแต่งงานกับสามีใหม่ ตนเชื่อว่าลูกชายก็คงน้อยใจ เพราะได้ยินเพื่อนบ้านพูดแซวลูกชายถึงเรื่องนี้อยู่บ่อย ๆ แต่ลูกชายไม่เคยมาปรึกษากับตนโดยตรง

ส่วนกับเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนที่ลูกชายจะออกจากบ้าน เขาก็ไม่ได้บอกหรือร่ำลาใคร ขับรถออกไปตั้งแต่บ่าย ตนมารู้อีกทีคือหลังเกิดเหตุแล้วว่าลูกชายถูกอดีตพ่อตายิงอยู่ที่บ้านของอดีตภรรยา ยอมรับว่าไม่ติดใจอะไรเลย เพราะรู้ดีว่าลูกชายไประรานอดีตภรรยาและครอบครัวตลอด แต่ไม่เคยระรานชาวบ้านอื่น แล้วยิ่งทราบว่านายสมพงษ์ได้รับการประกันตัว ตนก็ดีใจด้วย เพราะใจจริงก็ไม่อยากให้เขาติดคุก เนื่องจากกลัวว่าหลานทั้ง 3 คนจะไม่มีใครเลี้ยงดู อยากบอกกับดวงวิญญาณของลูกชายว่าไม่ต้องจองเวรจองกรรม ปล่อยให้เขาได้ออกมาใช้ชีวิตปกติ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส