เมียระแวงถ่านไฟเก่าผัวคุ ย่องสาดน้ำกรดรถเละ สาวม่ายยันแค่นัดฉลองปีใหม่ (คลิป)

14 ม.ค. 65

กรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3 ได้เผยแพร่ข้อมูล เรื่องร้องเรียนจากกลุ่ม มี 2 แม่ลูกไปทำลายทรัพย์สินเอาน้ำกรดไปราดทรัพย์สินของผู้อื่นทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย

923648

วันที่ 14 ม.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางมาที่ สน.คันนายาว นางสาวนวรัตน์ ธนาวุฒิ อายุ 44 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 65 นายเกริก เรืองศิลป์ประเสริฐ อายุ 49 ปี แฟนเก่า ได้มาที่บ้านของลูกชายตนที่ จ.นนทบุรี เพื่อตามหาตน และได้โทรศัพท์ไปถามเพื่อนสนิท เพื่อขอเบอร์ติดต่อตน จนเพื่อนเกิดความรำคาญ เพราะโทรมาหลายครั้งหลายหน จึงได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของตนกับนายเกิรกไป

502536

ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 5 ม.ค. 65 นายเกริกได้โทรติดต่อหาตนหลายสาย และได้มีการพูดคุยกันถามตนว่าสบายดีไหม อยากเจอ เพราะไม่เจอมานานแล้ว ตนจึงบอกไปว่าหากเจอก็เจอข้างนอก ไม่อยากให้มาที่บ้าน กลัวว่านางสาวจินตา สะพรั่ง หรือ อ้อม อายุ 38 ปี แฟนของนายเกริก จะรู้แล้วมีปัญหากัน จึงได้นัดเจอที่ห้างบิ๊กซีแถวบ้าน เวลา 14.00 น. ตนไปยืนรอนายเกริกครึ่งชั่วโมง แต่ไม่พบ จึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์กลับ

884643

โดยระหว่างที่ตนกำลังกลับได้งานนวดลูกค้าที่ย่านลาดพร้าว จึงเปลี่ยนเส้นทางไปลาดพร้าว ระหว่างนั้นตนแวะร้านก๋วยเตี๋ยวจึงได้เจอนายเกริกนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่โดยบังเอิญ จากนั้นนายเกริกได้ชวนคุยถามไถ่สารทุกข์ และได้ให้เงินสดจำนวน 4,000 บาทกับตน บอกว่าให้เป็นของขวัญปีใหม่ เพราะไม่ได้เจอตนมา 3 ปีแล้ว และขอกลับไปนั่งที่บ้านของตนเพื่อดื่มเบียร์ด้วย ตนเห็นว่าปีใหม่แล้ว แค่มานั่งและอยู่ด้านล่างไม่ได้มีอะไรเสียหาย ดื่มเสร็จก็แยกย้าย พี่สาวก็อยู่บนห้อง จึงขี่รถให้นายเกริกซ้อนท้ายกลับมาที่บ้าน

321843

ต่อมาตนขี่รถถึงบ้านประมาณ 16.00 น. นายเกริกปวดปัสสาวะจึงลงจากรถของตน และวิ่งไปปัสสาวะที่ใต้ต้นไม้ ขณะเดียวกันตนจอดรถเสร็จ น.ส.จินตา คู่กรณี ปรี่เข้ามาด่าทอด้วยคำหยาบคาย และตบตน ตนจึงสู้กลับระหว่างนั้นก็สู้กันไปมา ส่วนนายเกริกที่กำลังยืนปัสสาวะอยู่นั้นหันมาเห็น จึงได้รีบเดินมาห้ามจับแยกทั้งคู่ น.ส.จินตา ด่าตนว่า อีเมียน้อย และบอกให้นายเกริกกลับบ้าน แต่นายเกริกไม่ยอมกลับ ตนที่สู้ไม่ได้จึงขึ้นไปหยิบมีดที่ปลอกผลไม้บนบ้าน ก่อนจะลงมาไม่พบตัว น.ส.จินตาแล้ว เหลือเพียงนายเกริกที่นั่งดื่มอยู่ ตนจึงไปตามลูกชาย และพี่สาวของตนมาเจรจาให้นายเกริกกลับบ้าน โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยไล่นายเกริก แต่ตำรวจบอกว่าเป็นที่สาธารณะสามารถนั่งได้ ตนจึงปล่อย และออกไปข้างนอกกับเพื่อน

240821

จนกระทั่งช่วงเวลา 00.00 น. เข้าวันที่ 6 ม.ค. 65 นายเกริกยังคงนั่งอยู่ ตนจึงเห็นใจให้ไปอาบน้ำที่ห้อง ตกลงกันว่าหากอาบน้ำเสร็จให้กลับบ้าน พี่สาวของตนอยู่ก็อยู่ที่ห้องด้วย หลังจากที่นายเกริกอาบเสร็จไม่ยอมกลับบ้าน จึงนอนพักที่ห้องของตน โดยมีพี่สาวตนอยู่ด้วย ต่อมาเวลา 02.00 น. น.ส.จินตา ได้มาที่บ้านพักของตนอีกครั้งพร้อมลูกสาว ได้นำน้ำกรดมาราดที่รถของตนและออกไป
และช่วงเช้าของวันที่ 6 ม.ค. 65 นายเกริกได้กลับไป โดยที่ผ่านมาต้นก็ใช้รถเป็นปกติ จนกระทั่งวันที่ 8 ม.ค. 65 ตนต้องใช้รถอีกครั้งเพื่อไปสมัครเรียนคอร์สนวดหน้า ตนสังเกตเห็นรอยแตกบริเวณรถรอบคัน ตนจึงไปขอดูกล้องวงจรปิด

ตนได้แจ้งความไว้ ที่สน.คันนายาว ลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อย ทั้งนี้ตนได้รับความเสียหาย โดยให้ช่างที่อู่รถประเมิณค่าความเสียหายอยู่ที่ 18,000 บาท เพราะต้องเปลี่ยนชุดสีของรถ และความเสียหายทั้งหมดรอบคัน และได้ติดต่อนายเกริกโดยนายเกริกมาดูก็ตกใจไม่คิดว่าจะขนาดนี้ และได้เอ่ยปากจะเบิกฉลากออกสิมที่ทำไว้ 1 แสนบาทมาซื้อรถให้ตน แต่สุดท้ายกลับคำปัดความรับผิดชอบ

สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการหึงหวงเชิงชู้สาว เนื่องจากตนเป็นแม่ม่าย ได้รู้จักกับนายเกริกมาได้ 8 ปี และได้คบหากันส่วน น.ส.จินตาก็เป็นแม่ม่าย โดยระหว่างที่ตนคบนายเกริก ไม่รู้ว่านายเกริกมี น.ส.จินตา อยู่แล้ว เพิ่งจะมารู้หลังคบได้เดือนกว่า ตนยอมรับว่าตนผิด และได้เลิกรากันไป แต่นายเกริกก็มาง้อ

826643

นางสาวปิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า ตอนนั้นตนนั่งอยู่ที่บริเวณอาคาร 3 ตนไม่เห็นเหตุการณ์ช่วงที่ผู้เสียหายและคู่กรณีทะเลาะวิวาทกัน ตนมาเห็นอีกที ตอนที่ผู้เสียหายถือมีดปลอกผลไม้ลงมาจากห้อง และได้ยินผู้เสียหายคุยกับนายเกริกว่ามีการทำร้ายร่างกายกัน โดยผู้เสียหายนำมีดลงมาจากห้องนาาจะถือมาหาคู่กรณี ตอนนั้นตนไม่เห็นคู่กรณี จากนั้นผู้เสียหายได้เดินมาถามตนว่ามีเบอร์ สน. หรือไม่ ตนจึงบอกให้โทรแจ้ง 191 ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายโดนน้ำกรดราดรถตนเพิ่งทราบ โดยเคหะแห่งนี้ไม่ค่อยเกิดกรณีทะเลาะวิวาทกัน สภาพในชุมชนจะต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยสุงสิงกันกับผู้เสียหาย ตนเคยเห็นหน้าเห็นตากันเท่านั้น ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นกับตัวเราคงรู้สึกแย่เสีย ทั้งสภาพจิตใจและทรัพย์สิน ตนอยากให้คุยกันดี ๆ ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง ทั้งนี้ ปัญหามาจากเรื่องชู้สาว ตนอยากฝากสังคมเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นหากซื่อสัตย์ต่อกัน รักเดียวใจเดียว ปัญหาไม่เกิด ครอบครัวมีความสุข

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส