เคราะห์ซ้ำกรรรมซัด! ตู่ ปิยวดี เผยเหตุผ่าตัดเข่า กายภาพป้องกันขาลีบ เลื่อนแพลนมีลูก

13 ม.ค. 65

มีเหตุให้ต้องเข้าโรงพยาบาลมาตั้งแต่ช่วงปลายที่แล้ว สำหรับ ตู่ ปิยวดี หลังจากมีอาการแพ้ยา ทำให้ความดันตกวูบหมดสติหัวฟาดพื้น จนหินปูนในหูหลุด เกิดอาการวิงเวียนศีรษะโลกหมุน ต้องเข้ารับการรักษาอยู่นานหลายวัน

ล่าสุด ตู่ ปิยวดี ก็เข้าโรงพยาบาลอีกรอบเนื่องจากอาการเข่าบวม เมื่อตรวจพบว่าเข่าร้าว หลังผ่าตัดออกจากโรงพยาบาลยังไม่ทันถึงบ้าน ปรากฏว่ามีเหตุให้ต้องกลับมาแอดมิทที่โรงพยาบาลอีกรอบ เนื่องจากแบคทีเรียลงกระเพาะ

โดย เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565  น้องป็อปคอร์น ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ตู่ ปิยวดี โดยเจ้าตัวเล่าว่าเบื้องต้นนั้น ตัวเองมีอาการเข่าบวมมาก จนมองไม่เห็นตรงสะบ้าเข่า เลยไปหาหมอเพื่อเช็คอาการดู ตอนแรกได้ยาลดบวมมาทาน 1 สัปดาห์ก็ยังไม่หาย เลยต้องพบหมอที่เชี่ยวชาญด้านเข่า เข้าทำ MRI ที่เข่า ผลปรากฏว่าข้อเข่าส่วนล่างใหญ่กว่าส่วนบน เวลาเดินกระดูกล่างก็จะครอบกระดูกบนพอกระทบกันก็จะร้าว คุณหมอเลยตัดสินใจให้ผ่าเข่า เพื่อตัดแต่งกระดูกให้ส่วนล่างส่วนบนเท่ากัน ใช้เวลาผ่าไปรวมๆแล้ว 3-4 ชั่วโมง

ซึ่งอาการของเข่าไม่เท่ากันนั้น พี่ตู่เผยว่าเป็นมาตั้งแต่กำเนิด พอผ่าตัดรักษาแล้วยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงช่วยเดินอยู่ และกระดูกบางส่วนที่เสียไปทำให้คุณหมอต้องตัดออก เลยไม่สามารถวิ่งได้เลย ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็ขอแค่กลับมาเดินได้ปกติก่อน มาสร้างกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง แค่กลับมาวิ่งเล่นกับลูกได้นิดหน่อยก็พอในอนาคต เพราะตนเองตั้งใจจะมีลูก

โดยคุณหมอแจ้งว่าไม่อยากให้ลงน้ำหนักในช่วง 1 เดือนแรก ในตอนผ่าตัดเข่าพี่ตู่เองก็ค่อนข้างกังวลเรื่องแผลที่เข่า เพราะเคยมีประสบการณ์การเย็บแผลที่ไม่ดี แต่โชคดีที่คุณหมอเก่งมาก เย็บแผลเหมือนหมอศัลยกรรม สวยมาก ไม่มีเจ็บเลย แต่ก็ยังต้องกินยาแก้ปวดต่อเนื่อง

ซึ่งในอนาคตก็จะมีปัญหาขาไม่เท่ากัน พี่ตู่เล่าให้ฟังว่าเมื่อขาข้างหนึ่งไม่ค่อยได้ใช้งานก็จะลีบลง ตนเองก็ต้องทำกายภาพเอา ใน 1 วันมี 10 ท่า ท่าละ 300 ครั้งต่อวัน ทำกายภาพวันหนึ้งเป็นชั่วโมง โดยจะทำกายภาพตามที่คุณหมอแนะนำ เริ่มจากบริหารสะบ้า จากตอนแรกก็กลัวจนตอนนี้ขยับคล่องมาก ทำกายภาพทีหนึ่งพี่ตู่เองบอกว่าเมื่อยมาก รู้เลยว่าได้กล้ามเนื้อแน่นอน แต่กล้ามเนื้อขาก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะช่วยพยุงกระดูกได้

สำหรับโอกาสที่จะหายเป็นปกติในการเดินนั้น คุณหมอบอกว่าสามารถหายแบบกลับมาใส่ส้นสูงได้เลย แต่ไม่สามารถวิ่งได้ เพราะสะบ้าหายไป แต่ถ้ากล้ามเนื้อขาแข็งแรงก็จะสามารถกลับมาเดินได้ปกติ

หลังผ่าตัดเสร็จพี่ตู่เองก็ตั้งใจจะกลับมาพักที่บ้าน แต่ยังไม่ทันกลับถึงบ้าน เพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นอีก เจ้าตัวดันปวดท้องหนักจนตัวเย็น เหงื่อไหล มวลท้องจะอาเจียน ต้องหามส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง ส่วนสาเหตุนั้นเกิดมาจากหลังผ่าตัดเข่าต้องกินยาสลายลิ่มเลือดไม่ให้อุดตัน และยาตัวนี้ก็จะระคายเคืองกระเพาะต้องกินคู่กับยาลดกรด

แต่บังเอิญกระเพาะค่อนข้างตอบสนองไว และจังหวะนั้นแบคทีเรียลงกระเพาะพอดี จนทำให้เป็นลมไปเลย ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้เกิดมาจากอาหารดิบ เช่นพวกปลาดิบ ซึ่งอาจจะอยู่มานานแล้วในกระเพาะ พอเจอยาไปกระตุ้นก็เลยเกิดอาการมากขึ้น

การรักษาขั้นต่อไปก็คือต้องส่องกล้องลงกระเพาะแต่ต้องรอหยุดยาสลายลิ่มเลือดก่อน เพราะหมอเกรงว่ากล้องจะไปเสียดสีกระเพาะให้เป็นแผล หากเลือดไหลภายในจะหยุดยากมาก

ทำให้แพลนมีลูกต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอให้เข่าสมบูรณ์ก่อน เพราะยังไม่สามารถรับน้ำหนักตัวได้ แต่ตนก็สอบถามคุณหมออยู่ว่าจะมีลูกได้ไหม คุณหมอก็ตอบชัดว่าถ้าจะมีก็ต้องมี แล้วค่อยมาคุยกับหมออีกทีว่าจะดูแลต่อไปยังไง

ทางพี่ตู่เองบอกว่าตอนนี้มีหมอดูแลทั้งหมด 3 คนเลยทีเดียว ทั้งหมอส่วนของกระเพาะ หมอหัวใจ และหมอเข่า ตนเองก็ขอพึ่งการรักษาทุกทาง ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน ทำกายภาพ รวมไปถึงนั่งสมาธิสวดมนต์ เพราะเคยมีรุ่นน้องทักว่าให้ขออโหสิกรรมให้เจ้ากรรมนายเวร ก็ทำดูเพื่อความสบายใจ

1642060640658

1642060713301

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส