ปะ ฉะ ดะ ต่อหน้าสื่อ! สาวแฉ “ตั้มลาย” มาเฟียคลองเตยรังแก - เมียเดือดกระโจนตบนัว (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “เด็กหลังห้อง” ออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอหญิงสาวพูดถึงเหตุการณ์ที่ตนเองถูกรังแก และทำร้ายร่างกายพ่อแม่และน้องของตน พร้อมกล่าวอีกว่า บุคคลที่ทำร้ายดังกล่าวคือ "ตั้มลาย" ซึ่งทุกคนในคลองเตยรู้จักเป็นอย่างดี แต่ไม่กล้าทำอะไร เนื่องจากกลัวอิทธิพล

วันนี้ 21 ธ.ค. 61 นายณัฏฐ์พัฒน์ สินไชย รองประธานบริษัทที่ตั้มลายทำงานอยู่ เปิดเผยว่า ตั้มลายทำงานมานานหลายปี มีหน้าที่ดูแลงานจัดการตลาด โดยที่ดูแลเรื่องพนักงาน และพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งก็เป็นพนักงานทั่วไป ตนยอมรับว่า ตั้มลายเคยมีปัญหาทะเลาะและมีปากเสียงกับคนในตลาดบ้าง ซึ่งก็เคยเรียกมาพูดคุยและว่ากล่าวตักเตือนแล้ว แต่ทั้งนี้ ตนจะจัดการลงโทษตั้มลาย เฉพาะเรื่องที่มีปัญหาในบริษัทเท่านั้น แต่หากเป็นเรื่องนอกบริษัทตนไม่ขอยุ่งเกี่ยว

จากกระแสข่าวและเรื่องที่ถูกเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ หากเป็นการก่อเหตุนอกบริษัทก็ให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายจัดการ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำงานแล้วทำผิด ก็จะต้องมีการลงโทษพนักงาน ตามมาตรการของบริษัทต่อไป

ด้าน นายเจษ (นามสมมติ) พ่อของเก๋ หญิงในคลิปไลฟ์สด เปิดเผยว่า ตนเคยถูกนาย ตั้มลาย ทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. โดยขณะนั้นกลุ่มตั้มลายเข้ามาหาตนที่ตลาด เพื่อสอบถามถึงกรณีที่ลูกสาวโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงและไลฟ์สดตามที่ปรากฎในข่าว ตนจึงบอกตั้มลายไปว่า "ไม่รู้เรื่อง" จากนั้นตั้มลาย จึงถามกลับมาว่า “เป็นพ่อลูก ไม่รู้ได้อย่างไร” ก่อนจะชกครั้งนึง จนล้มร่วงลงไปที่พื้น แล้วดึงคอเสื้อตนลุกขึ้นมา จากนั้นก็แยกย้างกันไป โดย นายเจษ กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวใด ๆ กับนายตั้มมาก่อน อีกทั้งที่ผ่านมา ลูกชายคนเล็กของตนเคยถูกนายตั้มและพวกทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกัน โดยอีกฝ่ายตามมาตบหน้าถึงที่บ้าน ทั้งยังมีอาวุธปืนมาอีกด้วย

จากนั้น นางสาวสุดทินี แสงดี หรือเก๋ เจ้าของคลิปไลฟ์สด เปิดใจว่า สาเหตุที่ตนออกมาโพสต์คลิปนั้น เพราะอึดอัดใจที่ไม่สามารถทำอะไรตั้มลายได้ เนื่องจาก ตั้มลายเป็นผู้มีอิทธิพลในคลองเตย แต่ตนเห็นว่าหากตั้มลายจะเป็นนักเลง ก็ต้องมีคุณธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ใช่ตามรังแกคนอื่น ซึ่งหลังจากที่ตนโพสต์ไลฟ์คลิปถึงตั้มลาย ก็มีคนในชุมชนในเขตคลองเตย และโลกออนไลน์เข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ตั้มลาย เคยมีเดิมมีฉายาว่า "ตั้มลาย ปากแดง" เนื่องจากปากมีสีแดง แต่ปัจจุบันมีฉายา "ตั้มลาย สกิด ติดทุกเรื่อง" สุดท้ายนี้อยากฝากถึง “ตั้มลาย สะกิด ติดทุกเรื่อง” ว่าให้อยู่อย่างสันติ อย่ายุ่งอย่ารังแกใคร ก่อนจะทำอะไรให้คิดบ้าง เพราะบ้านเมืองนี้มีกฎหมาย

ซึ่งขณะที่ทีมข่าวพูดคุยกับ นางสาวสุดทินีอยู่นั้น ปรากฏว่า ภรรยาและกลุ่มเพื่อนของตั้มลายเดินทางมาที่ปากซอยใกล้บ้านเก๋ โดยกลุ่มเพื่อนของตั้มลายมีท่าทีโมโห รวมถึงตะโกนด่าด้วยคำพูดรุนแรง ก่อนจะเกิดเหตุการณ์รุมทำร้ายร่างกายเก๋ กระทั่งล้มลงไปนอนกับพื้น ทีมข่าวและช่างภาพจึงช่วยกันห้ามเหตุทะเลาะวิวาท ก่อนที่คนในบริเวณใกล้เคียงจะนำตัวเก๋ขึ้นรถจักรยานยนต์เข้าไปแจ้งความที่ สภ.ท่าเรือ

โดย นางขวัญเรือน บุญผ่าย หรือผึ้ง ภรรยาของตั้มลาย ผู้ที่วิ่งเข้ามาจู่โจมทำร้ายเก๋ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนรู้สึกไม่พอใจที่เก๋ โพสต์เฟซบุ๊กด่าพาดพิงถึงตั้มลาย หาว่าตั้มลายเป็นอันธพาล เป็นผู้มีอิทธิพล ซ้ำยังแจ้งความเอาผิดกับตั้มลายเรื่องที่มีการทำร้ายเด็ก 17 ปี ทั้งที่เรื่องดังกล่าวจบลงไปแล้ว ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงมาดำเนินการเอาผิดอีก ตนเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย และตั้มลาย สามีตน เพิ่งออกจากเรือนจำ ถ้าหากมีอิทธิพลจริงก็คงไม่ต้องไปจำคุกถึง 3 ปี คนมีอิทธิพลจะติดคุกได้อย่างไร นอกจากนี้ นางขวัญเรือน ยังเผยว่า สาเหตุที่แท้จริงของกรณีดังกล่าวคือ ปัญหาระหว่างพ่อของเก๋กับตั้มลาย ที่ทำงานอยู่ตลาดเดียวกัน และมีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ ส่วนเรื่องของการรุมทำร้ายเด็กสาววัย 17 ปี สลบคาที่นั้น นางขวัญเรือน เผยว่า เด็กสาว 17 ปี มีโรคประจำตัว คือ หอบหืด ทำให้หมดสติเร็ว และไม่ได้มีการรุมทำร้ายเกิดขึ้น มีเพียงการตีแบบตัวต่อตัว เพราะตนไม่ชอบรุมทำร้าย อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่อยากให้ปัญหา แต่ไม่อยากให้เก๋มาว่าสามีของตน ต่อมา ตั้มลาย เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ตนไม่ใช่มาเฟีย ไม่ได้มีอิทธิพลอะไร เป็นคนธรรมดา ส่วนกรณีที่มีการทำร้ายร่างกายพ่อของเก๋นั้น เนื่องมาจากความขัดแย้งเรื่องโพสต์เฟซบุ๊กของเก๋ที่พาดพิงถึงตน อีกทั้ง ตนไม่ได้ชกพ่อเก๋ เพียงแค่ผลักเท่านั้น ส่วนน้ำสีแดงในปากพ่อเก๋นั้น เป็นเพราะพ่อของเก๋เคี้ยวหมาก จึงอาจมองดูคล้ายเลือด ทีมข่าวเดินทางมายัง สน.ท่าเรือ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนี้ พบว่า เก๋ และตั้มลาย เข้าไปพูดคุยกันในห้องสืบสวน โดยมีพนักงานสอบสวนอยู่ด้วย ล่าสุดทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาต่อ ตั้มลาย แล้ว