"รปภ.หื่น ขืนใจสาวในคอนโด" กรณีนายมนตรี ใหญ่กระโทก อายุ 39 ปี หัวหน้า รปภ. ก่อเหตุข่มขืน น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ลูกบ้านที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมย่านบางแค เมื่อกลางดึกรอยต่อระหว่างคืนวันที่ 3 ม.ค. ถึงวันที่ 4 ม.ค. 65
ล่าสุด วันที่ 6 ม.ค. 65 รายงานจากชุดสืบสวน ระบุว่า นายมนตรีหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าไม่ไกลจากบ้านแม่ ก่อนเข้ามอบตัว ตลอดทั้งวันได้ติดต่อกับพี่ชายผ่านทางโซเชียลฯ หลังจากนั้นช่วงประมาณ 15.30 น. พี่ชายได้พาตัวนายมนตรีออกมาจากหลังบ้าน พามอบตัวกับตำรวจสืบสวนที่เฝ้าตรึงกำลังอยู่ที่บ้านแม่ของนายมนตรี
ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พาตัวนายมนตรีมาสอบปากคำเบื้องต้น พร้อมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ใช้เวลาสอบปากคำเบื้องต้นกว่า 3 ชั่วโมง ต่อมาทางครอบครัว พี่สาวของผู้ต้องหาเดินทางมาที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
จากนั้นนายมนตรี ใหญ่กระโทก ผู้ต้องหา เดินออกมาจากห้องประชุม ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากที่เบียดเสียด และพยายามถาม สาเหตุการก่อเหตุ รวมถึงอยากกล่าวขอโทษหรือสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำหรือไม่ เจ้าตัวไม่พูดอะไร นอกจากกล่าวคำว่า "ขอโทษ" พร้อมกล่าวว่าสำนึกผิดต่อการกระทำของตัวเอง
พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ออกมาจากห้องประชุม เปิดเผยว่า การคุมตัวนายมนตรีในวันนี้เรียกว่าเป็นการจับกุม ไม่ใช่การมอบตัว แม้ว่าเจ้าตัวจะติดต่อกับญาติเพื่อให้ตำรวจเข้าไปรับตัวก็ตาม แต่เนื่องด้วยนายมนตรีมีหมายจับ จึงถือว่าเป็นการจับกุม ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่มีปฏิบัติการกดดันและปิดล้อมจนกระทั่งเจ้าตัวต้องยอม
สำหรับชนวนเหตุนั้น เบื้องต้นนายมนตรีให้การว่าเป็นการแอบชอบนางสาวน้อย ผู้เสียหาย มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในวันหนึ่งกล่าวมีการซ่อมกุญแจห้องโดยมีการเรียกช่าง จึงสบโอกาสดังกล่าวเพื่อก่อเหตุ ยอมรับสารภาพด้วยท่าทีที่สลด และการก่อเหตุในวันดังกล่าวของนายมนตรีอยู่ในอาการเมาสุรา ประกอบกับมีเรื่องของการเสพยาเสพด้วย
หลังจากนั้น นางสุวรรณแม่ของนายมนตรี ผู้ต้องหา เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อเข้าไปเยี่ยมลูกชายในห้องประชุม ซึ่งอยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวน จากนั้นแม่ออกมาได้พูดว่าอยากขอโทษผู้เสียหายที่ลูกก่อเหตุเช่นนี้ พร้อมพูดกับทีมข่าวว่า ดีใจที่ลูกชายมอบตัว และขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนที่เข้าไปพบลูกชายได้พูดอะไรกันหรือไม่ แม่ตอบว่าไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไป
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บช.น. สนธิกำลังร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จัดชุดไล่ล่าปิดล้อมผู้ต้องหา พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สังหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกับ ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เข้าปิดล้อมพื้นที่บ้านของนายมนตรี
หลังจากได้รับแจ้งว่าผู้ต้องหาเดินทางกลับมาที่บ้านแม่ ที่บ้าน ม.15 บ้านหนองเรือ ต.ทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และขับขี่รถจักรยานยนต์ของแม่ออกจากบ้าน เพื่อไปซุกซ่อนอยู่ที่เพิงพักแห่งหนึ่งใกล้กับเขตแนวป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภาคตะวันออก
โดยเจ้าหน้าที่พบร่องรอยรถจักรยานยนต์ และสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้ที่หลังสวนลำไยของนายชัชวาลย์ ไชยชาติ หรือ เป้ง ซึ่งเป็นเพื่อนของนายมนตรี เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังดักซุ่ม และติดตามตัวตลอดทั้งคืน
เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา โดยพันตำรวจเอก จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผู้กำกับกองสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำทีมกำลังทั้งตำรวจท้องที่ ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ตำรวจนครบาล ทหารกองกำลังบูรพา จำนวนเกือบ 200 นาย ปิดล้อมป่ารอบสวนพฤษศาสตร์ 100 ปี มีทั้งชุดเดินเท้า สุนัขตำรวจพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ประเภทสะกดรอย ตามกลิ่น เพศผู้อายุ 3 ปี และสุนัขทหารกองกำลังบูรพา พันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ประเภทสะกดรอย อายุ 3 ปี เพศผู้ พร้อมพารามอเตอร์ 3 ลำ และโดรน กดดันในพื้นที่อย่างหนัก
ทีมข่าวลงพื้นร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ทหารกองกำลังบูรพา ทหารพรานที่ 13 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และสุนัขทหาร ดมกลิ่นจากเสื้อยืด สีขาว ที่คนร้ายสวมใส่ และแกะรอยค้นหา พื้นที่สวนลำไย 15 ไร่ พื้นที่บริเวณป่า 500 ไร่ จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ประชุมและวางแผน ระดมกำลังค้นหาเบาะแสผู้ต้องหาในพิกัดรัศมี 15 ไร่ โดยระหว่างเส้นทางการเดินทางมีบางจุดที่สุนัขหยุดนิ่ง สัมผัสถึงกลิ่นของผู้ต้องหา สันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะเคยหลบมาตามเส้นทางป่า ระหว่างการค้นหา จุดสิ้นสุดอยู่ที่พื้นที่ป่า ยู่ห่างจากหลังบ้านของแม่นายมนตรี ประมาณ 500 เมตร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานกำลังระดมกำลัง วางแผนเพื่อหาพิกัดและจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านเพื่อนของนายมนตรี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ นายมนตรีก็หลบหนีแล้วมาที่ จ.สระแก้ว และมีการดื่มเหล้าย้อมใจด้วย ก่อนที่จะหลบหนีเข้าป่าไป ซึ่งตนก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน
นางสุวรรณ เหลานาคำ อายุ 65 ปี แม่ของผู้ต้องหา ยอมรับกับทีมข่าวว่า เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับทั้งคืน เพราะเครียด แต่ก็ต้องทำใจ เพราะลูกชายก่อนทำไม่คิดถึงหน้าตน ลูกชายเป็นคนดีกับครอบครัว ส่งเงินให้ทุกเดือนไม่ขาด แต่ก่อนลูกชายเข้าไปหาของป่ากับเพื่อน ตนไม่แน่ใจว่าลูกชายจะคุ้นชินเส้นทางหรือไม่ เพราะข้างในเป็นป่าลึกเดินเข้าไปนิดเดียวก็หลงได้
เมื่อวาน 5 ม.ค. 65 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าอยู่ที่บ้านตลอด ตนพยายามติดต่อลูกชาย ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนอยากให้ลูกชายยอมมอบตัว และยืนยันว่าหากจับกุมตัวได้แล้ว ทางครอบครัวจะไม่ประกันตัว ทำผิดต้องยอมรับผิด และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
นางหน่อย (นามสมมติ) อายุ 43 ปี พี่สาวของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนทราบเรื่อง ตอนนี้สภาพจิตใจแม่แย่จนร้องไห้ นอนไม่หลับทั้งคืน กินข้าวไม่ลงตั้งแต่เมื่อวาน ทางครอบครัวก็เครียด ได้แต่บอกให้แม่ทำใจ เพราะตอนนี้เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ
ทางครอบครัวพยายามติดต่อนายมนตรีแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้ ตนอยากให้น้องชายมอบตัวไม่ต้องขัดขืน พูดความจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร สังคมจะได้รับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร มีอะไรให้พูดคุยกัน ส่วนหากจับได้จะประกันตัวหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ตนขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย