นิติฯ ซวยคนจ่อปลดงัดคลิปโต้ขวางญาติ แม่ค้าแฉยามหื่นชอบเมา โมเมสาวมีใจ (คลิป)

"รปภ.หื่น ขืนใจสาวในคอนโด" กรณีนายมนตรี ใหญ่กระโทก อายุ 39 ปี หัวหน้า รปภ. ก่อเหตุข่มขืน น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ลูกบ้านที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมย่านบางแค เมื่อกลางดึกรอยต่อระหว่างคืนวันที่ 3 ม.ค. ถึงวันที่ 4 ม.ค. 65

วันที่ 6 ม.ค. 65 เวลา 10.00 น. นายปกครอง อรรจนากร อายุ 50 ปี ผู้จัดการนิติบุคคลคอนโดฯ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อนำไฟล์กล้องวงจรปิดไล่เรียงลำดับเหตุการณ์มายื่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงความบริสุทธิ์ใจ

นายปกครอง กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ญาติผู้เสียหายกลุ่มแรกเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเวลา 01.28 น. มีการพูดคุยกับ รปภ.ป้อมหน้า เนื่องจากญาติแจ้งห้องไม่ตรงกับตึกที่เกิดเหตุ จากนั้นเวลา 01.38 น. ญาติกลุ่มที่สองประมาณ 6 คน เข้ามาที่คอนโดฯ จนมีการประสานทราบว่าลูกบ้านถูกกระทำชำเรา เวลา 01.39 น. ช่างประจำอาคารจึงพาญาติผู้เสียหายขึ้นไปบนห้องทันที

ก่อนที่ญาติกลุ่มที่สาม เข้ามาในเวลา 01.43 น. แต่ขณะนั้น รปภ. แจ้งว่าไม่สามารถพาขึ้นไปได้แล้ว เพราะไม่มีคีย์การ์ด เนื่องจากคีย์การ์ดอยู่กับช่างอาคาร ซึ่งอยู่ด้านบนอาคารกับญาติกลุ่มแรก จึงมีการทำร้ายร่างกาย รปภ. เกิดขึ้น

ตนยืนยันว่าทางคอนโดไม่มีการกีดกันหรือประวิงเวลา ซึ่งตนก็นำคลิปวิดีโอทุกอย่างมายืนยันตามไทม์ไลน์ ส่วนที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับทางนิติบุคคลด้วยนั้น ก็ขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เบื้องต้นก็เข้ามาชี้แจงตามลำดับ

ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังคอนโดที่เกิดเหตุ พบว่าวันนี้ยังคงมีชุดรักษาความปลอดภัยของบริษัทเดิมทำหน้าที่อยู่ ทีมข่าวทราบรายงานว่า มีกลุ่มผู้อยู่อาศัยภายในคอนโดฯ รวมทั้งเจ้าของร่วมต่างเกิดความไม่พอใจ เบื้องต้นล่ารายชื่อเพื่อที่จะให้นิติบุคคลรวมทั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยชุดปัจจุบันออกโดยทันที

ช่วงค่ำวันนี้ก็มีการประชุมระบบออนไลน์กับกลุ่มผู้เช่าอาศัย และเจ้าของร่วมที่เป็นเจ้าของห้อง เพื่อที่จะมีการชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และในวันนี้นิติบุคคลรวมทั้งชุดรักษาความปลอดภัยที่เข้ามาปฎิบัติงานอยู่ปฏิเสธให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยอนุญาตให้เฉพาะผู้จัดการคอนโดฯเป็นผู้ตอบคำถามรายละเอียด

ทีมข่าวย้อนเส้นทางของนายมนตรี ผู้ต้องหา หลังจากที่มีการก่อเหตุและหลบหนี กล้องวงจรปิดหลังคอนโดจับภาพวินาทีที่นายมนตรีปีนรั้วข้ามไปที่พื้นที่ส่วนบุคคลที่ปลูกต้นกล้วย จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ว่าง มีรั้วรอบขอบชิด และมีทางออกทางเดียวคือแคมป์คนงานที่อยู่ใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก เป็นจุดเดียวที่ไม่ต้องผ่านบ้านคน ไม่ต้องผ่านจุดที่มีกล้องวงจรปิด สามารถที่จะเรียกแท็กซี่หรือรถสาธารณะโดยสารออกไปได้โดยทันที

หากดูจากภาพมุมสูงจะเห็นเป็นลักษณะทางถนนดิน ตำรวจคาดการณ์ว่านายมนตรีใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อหนีออกจากคอนโดฯ ไปโผล่ที่กำแพงใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก ปีนรั้วออก และหลบหนีออกจากพื้นที่

นางอัมพร ขาวดา อายุ 47 ปี แม่ค้าขายผลไม้ กล่าวว่า ทุกครั้งที่ตนเองมาขายผลไม้ที่หน้าคอนโด จะเจอกับผู้เสียหายแวะเวียนมาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เป็นการซื้อผลไม้ตามจำนวนของพนักงานรักษาความปลอดภัย ซื้อไปฝาก มักถามตัวเองเสมอว่า "พวกพี่พนักงานรักษาความปลอดภัยออกมาซื้ออะไรกินแล้วหรือยัง" เมื่อตนเองตอบว่ายัง ผู้เสียหายก็จะเป็นคนซื้อและนำไปแจกให้กับทุกคน ผู้เสียหายเป็นคนที่จิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ดูแลพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างดี หลายครั้งคิดว่าการที่ดูแลคนที่ปกป้องตัวเองได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายคนที่ได้รับการดูแลอย่างดีจะกลายเป็นผู้ต้องหาไปทำร้ายเขาเอง

ช่วงระยะหลังตนเองสังเกตพฤติกรรมของนายมนตรี มักจะมาสอบถามและพูดคุยกับตนเองบ่อยครั้งมากขึ้น คำพูดก็ดูแปลก ทำนองว่า "วันนี้ผู้หญิงคนนั้นมาซื้อผลไม้ให้พวกผมอีกแล้วใช่ไหม" ตนเองก็รีบพูดสวนกลับไปว่า "เขาซื้อให้เพราะเขาอยากให้ทุกคนได้กินอิ่ม อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย และอย่าไปเผลอคิดอะไร เนื่องจากไม่ได้ซื้อให้มนตรีเพียงคนเดียว แต่ซื้อให้พนักงานรักษาความปลอดภัยทุกคน"

สำหรับพฤติกรรมของนายมนตรีในช่วงระยะหลัง หลังจากที่พนักงานรักษาความปลอดภัยเริ่มลาออกกันเยอะ นายมนตรีก็จะพยายามควงกะในช่วงกลางคืนมากขึ้น ตนเองก็ไม่รู้เหตุผลว่าการเลือกกะกลางคืนมีวัตถุประสงค์อะไรหรือไม่ หรือเป็นเพราะกลางคืนทำอะไรสะดวกมากขึ้น จึงเลือกที่จะอยู่กลางคืนมากกว่ากลางวัน ที่สำคัญตัวของนายมนตรีก็มักจะเป็นคนแอบนำเหล้าขาว เหล้าดองยา แอบติดตัวมาดื่มกินเวลาเข้าเวรกลางคืน ตนเองจึงไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลที่กินเหล้าเข้าไปแล้ววันดังกล่าวเกิดอารมณ์ทางเพศหรือไม่ แต่เท่าที่เคยพูดคุยและเจอหน้าบ่อย ๆ เจ้าตัวเป็นคนพูดเพราะสุภาพ และไม่เคยมีพฤติกรรมบ้ากาม ยอมรับว่าตกใจ ไม่คิดว่านายมนตรีจะไปก่อเหตุ