ศาลเชียงใหม่ สั่งปรับรองอธิบดีผู้พิพากษาฯ เมาแล้วขับ 14,500 บาท

6 ม.ค. 65

6 ม.ค. 65 ศาลเชียงใหม่ สั่งปรับรองอธิบดีผู้พิพากษาฯ เมาแล้วขับ 14,500 บาท วานนี้ (5 ม.ค.) พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงเชียงใหม่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ชาญศักดิ์ สมประโยชน์ จำเลย ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ฐานการกระทำความผิด 4 ข้อหา คือ

1.เป็นผู้ขับขี่รถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย
2.เป็นผู้ขับขี่รถในทางชื่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร
3.เป็นผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุรา
4.ฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานสอบสวนที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่เมาสุราตามมาตรา ๑๔๒ วรรคสอง

ทั้งนี้ ศาลแขวงเชียงใหม่ประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ 229/2565 ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลจึงมีคำพิพากษาเป็นคดีอาญาหมายเลขแดง 226/2565 ว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (2) (4), 78 วรรคหนึ่ง, 142 วรรคสอง, 154 (3), 157, 160 วรรคหนึ่ง, 160 ตรี วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานขับรถขณะเมาสุรากับฐานขับรถโดยประมาท เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

พิเคราะห์พฤติการณ์เกี่ยวกับการกระทำความผิดกับความเสียหาย ซึ่งปรากฏตามคำฟ้องว่าจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ ถือว่าจำเลยสำนึกผิดและบรรเทาผลร้ายแล้ว ฐานขับรถขณะเมาสุรา ปรับ 18,000 บาท ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควรฯ ปรับ 10,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ปรับ 1,000 บาท

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานขับรถขณะเมาสุรา คงปรับ 9,000 บาท ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควร คงปรับ 5,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร คงปรับ 500 บาท รวมปรับ 14,500 บาท และให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย มีกำหนด 6 เดือนนับแต่วันมีคำพิพากษา ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ข้อหาอื่นให้ยก

อย่างไรก็ตาม คดีนี้หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว หากพนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์คำพิพากษา คดีก็จะถึงที่สุด แต่หากมีการอุทธรณ์คำพิพากษา ก็ต้องรอผลการพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ต่อไป

ขณะที่ในการดำเนินการในส่วนอื่นนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมอยู่ระหว่างรอรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากต้นสังกัดของชาญศักดิ์ ซึ่งเมื่อได้รับแล้วจะต้องพิจารณารายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบกับผลของคดีข้างต้นว่าจะต้องดำเนินการทางวินัยต่อไปหรือไม่อย่างไร
ซึ่งหากข้อเท็จจริงอยู่ในข่ายที่จะต้องดำเนินการทางวินัยอย่างไร ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ต่อมาเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ (6 ม.ค. 65) พ.ต.ท.สันติคำใสรองผู้กำกับหัวหน้างานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ได้กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ว่า คดีนี้หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานตรวจสอบหลักฐานที่ นายชาญศักดิ์ฯ ผู้ถูกกล่าวหา ได้เข้าไปใช้บริการร้านอาหารแห่งหนึ่งและขับรถมาตามเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อรวบรวมไว้ในสำนวน จากนั้นจึงได้เชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่ง นายชาญศักดิ์ฯ ก็ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทางพนักงานสอบสวนจึงได้สรุปสำนวนเสนอให้อัยการฟ้องต่อศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่และศาลได้มีคำพิพากษาตามคำเผยแพร่ในเอกสารของสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ซึ่งคดีนี้ในชั้นสอบสวนถือว่าสิ้นสุดแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เมาแล้วขับ โทษหนักคุก 10 ปี! ตำรวจจัดเต็มปีใหม่ ตั้งด่านเข้มทั่วประเทศ
- ปีใหม่ ผ่านไป 3 วัน เมาแล้วขับ 7 พันราย ทำผิดกฎหมายเกือบ 2 แสนคน
- แฉยับ เสธ.ต่อ กร่างอ้างเบื้องสูง เหยื่อโชว์ภาพขอกินฟรี - ผบ.ทร.ขอธำรงวินัยรับผิด (คลิป)

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส