กลุ่ม รถบรรทุก นัดหารือ 8 ม.ค. นี้ เล็งยกระดับร้องรัฐหลังราคานํ้ามันดีเซลไต่ระดับสูง

5 ม.ค. 65

สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยนัดสมาชิก รถบรรทุก หารือ 8 ม.ค.นี้หวังกำหนดท่าทียกระดับการเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาลต่ออีกระลอกหลังดีเซลขึ้นต่อเนื่องทะลุ 29 บาทต่อลิตร ขณะที่ผู้ประกอบการ 2 แสนคันหยุดวิ่งแล้ว ด้านชาวสวนปาล์มทวงสัญญาก.พลังงานอย่าลืมดีเซลเกรดเดียวให้ได้แค่สิ้นมี.ค.นี้เท่านั้น

ทั้งนี้ นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์ฯได้เตรียมนัดสมาชิกเบื้องต้นวันที่ 8 มกราคม 2565 เพื่อหารือถึงปัญหาระดับราคาน้ำมันดีเซลที่กลับมาเพิ่มขึ้นสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงระดับ 29.04 บาทต่อลิตรซึ่งส่งผลต่อต้นทุนรถบรรทุกเพิ่มขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้เคยร้องขอไปยังกระทรวงพลังงานให้ช่วยตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 25 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 1 ปีแต่รัฐปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ดังนั้นสมาพันธ์ฯคงจะกำหนดท่าทีในการยกระดับการเคลื่อนไหวอีกครั้ง

“เราคงจะต้องหารือสมาชิกก่อนว่าจะมีจุดยืนอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าปีที่ผ่านมาเราเองก็เรียกร้องรัฐบาลในการดูแลราคาดีเซลให้อยู่ระดับ 25 บาทต่อลิตร และได้เจรจากับกระทรวงพลังงานสหพันธ์ฯเองก็ยอมรับได้หากจะอยู่ที่ระดับ 27 บาทต่อลิตรแต่กระทรวงพลังงานรับปากว่าจะพยายามดูแลไม่ให้เกิน 28 บาทต่อลิตรซึ่งสุดท้ายก็ทำไม่ได้จึงต้องมาหารือกันแต่จะเป็นอย่างไรขอให้รอการหารือก่อน” นายอภิชาติกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสมาชิกที่มีรถบรรทุกอยู่ประมาณ 4 แสนคันได้หยุดวิ่งไปแล้ว 50% หรือประมาณ 2 แสนคันโดยจะมีผลถึง 15 ม.ค.นี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ทำให้งานลดต่ำลงและยังไม่อาจทนการแบกรับภาระต้นทุนดีเซลที่สูงขึ้นต่อเนื่องได้ แต่การช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมจึงจะจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทรัคทาวเวอร์ไฟนอลซีซั่นอีกครั้งแต่รายละเอียดต่างๆขอให้รอก่อน โดยครั้งนี้อาจจะไปเรียกร้องยังกระทรวงการคลังก็เป็นไปได้เพราะเกี่ยวข้องกับการปรับลดภาษีสรรพสามิตดีเซลที่เก็บสูงถึง 5.99 บาท และยังไม่สามารถปรับลดลงมาได้ และท้ายสุดหากไม่เป็นผลถึงที่สุดแล้ว สหพันธ์ฯ อาจจะขึ้นราคาขนส่ง

ด้าน นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทยกล่าวว่า สมาพันธ์ชาวสวนปาล์มยังคงติดตามสถานการณ์ราคาปาล์มใกล้ชิดโดยยอมรับว่าขณะนี้ราคาปาล์มทะลาย ณ ลานเท เฉลี่ยกว่า 9 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงอย่างมากเนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยวแต่ปกติระดับราคาจะอยู่เฉลี่ย 5-6 บาทต่อกก.เท่านั้นซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลผลิตมาเลเซียผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกลดต่ำและความต้องการตลาดโลกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตจะมีขึ้นในช่วงมี.ค.-พ.ค.65 ยังคงเชื่อว่าระดับราคาปาล์มทะลายภาพรวมปี 2565 เฉลี่ยน่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 6 บาทต่อกก.

“หากสถานการณ์ต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะโอมิครอนไม่ระบาดรุนแรงไปมากกว่านี้ก็เชื่อว่าราคาปาล์มปีนี้จะอยู่ในระดับสูง ดังนั้นกรณีที่กระทรวงพลังงานได้ปรับสูตรดีเซลโดยลดสัดส่วนการผลมไบโอดีเซลที่มาจากปาล์มน้ำมันเหลือเป็นเกรดเดียวคือ B7 (ดีเซลผสมไบโอดีเซล7%)เพื่อช่วยเหลือราคาดีเซลให้ถูกลงเพื่อลดผลกระทบการขนส่ง ซึ่งได้รับปากกับพลังงานไปแล้วว่าขอแค่สิ้นมี.ค.นี้ เท่านั้นจากนั้นจะต้องหันมาใช้สูตรเดิมคือ มีทั้ง B7 B10 และB20 “นายมนัสกล่าว

อนึ่ง การปรับลดสูตรดังกล่าวหากมองระดับราคาปาล์มที่สูงจึงยอมที่จะช่วยเหลือได้แต่หากระดับราคาตกต่ำทางชาวสวนปาล์มก็อาจต้องทบทวนได้เช่นกัน ดังนั้นหากรัฐจะมีมาตรการใดๆ เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมันจำเป็นต้องหารือกับภาคเกษตรกรปาล์มก่อนด้วยเนื่องจากที่ผ่านมารัฐกำหนดนโยบายโดยไม่ได้หารือกับภาคเกษตรกรใดๆ เลยและการเปลี่ยนนโยบายไปมาทำให้ไม่มีเสถียรภาพ และเป็นปฏิปักษ์ต่อความยั่งยืนของปาล์มน้ำมันตลอดห่วงโซ่การผลิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ครม.ไฟเขียว 2 หมื่นล้าน ตรึง ราคานํ้ามัน ดีเซลไม่เกิน 30 บาท
- หอการค้าไทย เผย ราคานํ้ามัน สูงถึงปีหน้า ทำใจสินค้าขึ้นราคาตาม
- กบง. มีมติใช้เงินกองทุนกด ราคานํ้ามัน ดีเซล ให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส