รวบแก๊งรถทัวร์แสบ สร้างประตูลับเชื่อมห้องเก็บสัมภาระ ฉกทรัพย์ผู้โดยสาร

19 ธ.ค. 61
สืบเนื่องจาก วันที่ 14 ธ.ค. 61 Mr.Drendan Hawryluk อายุ 26 ปี สัญชาติแคนนาดา แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยว่า มีการใช้เงินในบัตรเครดิตของตน โดยที่ตนเองเป็นผู้ใช้ ซึ่งสถานที่ใช้บัตร อยู่ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวนเงินที่ใช้ไป 6,253 ดอลลาร์สหรัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจึงพาตัว Mr.Drendan Hawryluk เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ได้รวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวพร้อมกับพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องจนเพียงพอนำไปสู่การขอหมายจับบุคคลจำนวน 3 คน ต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี
บรรยากาศการแถลงผลจับกุม ผู้ต้องหาดัดแปลงห้องเก็บสัมภาระรถทัวร์ เพื่อชิงทรัพย์ผู้โดยสาร
Mr.Drendan Hawryluk ผู้เสียหาย
จากนั้น 17 ธ.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ร่วมกับ กองกำกับสืบสวนภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ สถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี สามารถติดตามจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้แก่ นางสาวชญาดา แก้วสุขแสง นายเอกพันธ์ กลางณรงค์ และนายสนชัย หูเขียว ส่งพนักงานสอบสวน
นางสาวชญาดา ผู้ต้องหา
นายเอกพันธ์ และนายสนชัย ผู้ต้องหา
โดยจากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายกลุ่มนี้มีเจตนาต้องการลักทรัพย์โดยเฉพาะ เมื่อเจอเป้าหมายชาวต่างชาติก็จะนำกระเป๋ามาเก็บในห้องที่ถูกดัดแปลงไว้ เมื่อรถจะออกก็จะมีเด็กรถเข้าไปในห้องทางด้านท้ายรถรื้อค้นทรัพย์สินขณะรถวิ่งอยู่ เมื่อเสร็จภาระกิจก็จะเปิดประตูที่ทำกลอนเพิ่มจากด้านในห้องเก็บของใหม่ ขึ้นไปในห้องโดยสารได้ทั้งที่รถเคลื่อนที่
กลอนประตูลับภายในห้องเก็บสัมภาระ
วันที่ 19 ธ.ค. 61 พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.3 ทท. บช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงผลจับกุมพร้อม พาผู้สื่อข่าวสำรวจรถของกลาง คือ รถโดยสารสายสุราษฎร์ - เกาะสมุย สีฟ้าขาว ที่ถูกดัดแปลงทางออกประตูฉุกเฉินด้านท้ายรถให้กลายเป็นห้องเก็บสัมภาระเพิ่ม พร้อมทำล็อกกุญแจจากภายนอกรถ ส่วนประตูทางออกฉุกเฉินที่เชื่อมในห้องโดยสารจากที่ต้องเปิดจากในห้องโดยสาร ก็ทำเป็นกลอนล็อกให้เปิดจากห้องเก็บของใหม่ที่ทำขึ้นได้ เพื่อความสะดวกในการขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
รถโดยสารสายสุราษฎร์ - เกาะสมุย สีฟ้าขาว ของกลาง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำของกลุ่มขบวนการดังกล่าว เป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทย ก่อให้เกิดความเสียหายในสายตาและความรู้สึกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเสียหายอย่างมาก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ