หมูแพง ทำเดือดร้อนหนัก ร้านอาหาร ผู้ค้า หลายพื้นที่ทั่วไทย แห่ขึ้นราคา-เปลี่ยนไปใช้เนื้อสัตว์อื่น โอดไม่ทำก็อยู่ไม่ได้ วอนหน่วยงานเร่งแก้ไข สงสารผู้บริโภค
จากสถานการณ์ราคาเนื้อ หมูแพง ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารหลายรายต้องปรับตัว ทั้งการขึ้นราคาสินค้า หรือเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบอื่นแทนหมู เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่าน ใน จ.ชลบุรี ราคาหมูสามชั้นมีราคาสูงถึงกิโลกรัม 220 บาท จากเดิมราคาประมาณกิโลกรัม 130-160 บาท ส่งผลให้อาหารที่ทำจากหมูเป็นหลัก ต้องมีการปรับราคาสูงขึ้น บางรายถึงกับต้องเลิกเอาหมูมาประกอบอาหารสำหรับขายอาหารตามสั่งหรืออาหารถุง
นายวุฒิชัย ก่อเกิดเกียรติ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านข้าวหมูแดงนายดอกไม้ ร้านชื่อดังของ อ.เมืองชลบุรี มีถึง 3 สาขา กล่าวว่า ตนเองขายข้าวหมูแดงมานานกว่า 40 ปี ขณะนี้ราคาหมูสามชั้นราคากิโลกรัมละ 220 บาท อดีตเคยซื้อประมาณกิโลกรัมละ 120-130 บาท ตอนนี้ราคาขึ้นก้าวกระโดดไปเลย อาจกล่าวได้ว่าขึ้นรายวัน ทำให้เดือดร้อนทั้งคนกินคนขาย หากขายแพงก็ไม่มีคนกิน ไม่ขึ้นราคาก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน จึงได้มีการปรับราคาขึ้นมาอีก 5 บาท จากปกติ 40 บาทเป็น 45 บาท พิเศษ 50 บาทเป็น 55 บาท
นายวุฒิชัย กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาอยากให้รัฐบาลมีความจริงใจกับประชาชน อย่าให้นายทุนเอาเปรียบประชาชน หมูแพงนั้นเป็นเพราะนายทุนเอาเปรียบประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลปล่อยให้เอาเปรียบประชาชน ส่งผลให้ร้านค้า และประชาชนอยู่ไม่ได้ ประกอบกับช่วงนี้หมูเกิดโรคระบาดตายจำนวนมาก แม้กระทั่งคนฆ่าหมูยังไม่อยากทำงานเลย เพราะฆ่าแล้วขายไม่คุ้มทุน ช่วงปีใหม่หยุดทีเดียว 9 วัน ในอดีตไม่เคยเจอ
นางอังคณา ตึกประเกล็ด แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง อาหารถุงกล่าวว่า ช่วงนี้ราคาหมูแพงเกินไป จึงเลี่ยงทำอาหารที่ใช้เนื้อหมู ใช้เนื้อไก่ เนื้อปลามาทำแทน เพราะราคาถูกกว่า หรือพะแนงหมูชาวบ้านจะซื้อถุงละ 30 บาท แต่ตนเองจะต้องขายถุงละ 50 บาท จึงตัดปัญหาไม่ทำขายดีกว่า ไม่ต้องมาทะเลาะกับลูกค้า
ทางด้านเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.ชลบุรี คนหนึ่งกล่าวว่า จ.ชลบุรีถือว่ามีเล้าหมูจำนวนมาก มีแม่หมูประมาณ 50,000 กว่าตัว ปรากฏว่าเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ระบาดในหมู ทำให้เหลือแม่หมูไม่ถึง 5,000 ตัว ส่งผลให้หมูในพื้นที่ จ.ชลบุรี ไม่สามารถผลิตลูกหมูออกสู่ตลาดได้ ส่งผลให้หมูมีราคาแพงในขณะนี้
ขณะที่ จ.ตรัง นายสัมพันธ์ ยิ้วเหี้ยง หรือโกสุย อายุ 51 ปี รองประธานชมรมผู้ประกอบการหมูย่าง จ.ตรัง และ เจ้าของร้านหมูย่างโกสุย เปิดเผยว่า ราคาหมูสดขึ้นราคาสูง ทำให้ผู้ประกอบการหมูย่างจำเป็นจะต้องปรับราคาหมูย่างขึ้น จากราคาเดิม กก.ละ 420 บาท มาเป็น กก.ละ 500 บาทก็ตาม โดยขณะนี้ราคาหมูหน้าฟาร์ม ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 97 – 98 บาท
นายสัมพันธ์ กล่าวด้วยว่า รู้สึกกังวล สงสารผู้บริโภคแต่ในฐานะผู้ประกอบการก็ต้องเอาตัวรอด หากยังคงราคาเดิมไว้ เท่ากับเราฆ่าตัวตาย โดยตั้งแต่ตนเริ่มจำความได้ กว่า 50 ปี ครั้งนี้หนักสุด ไม่เคยเจอราคาหมูสูงขนาดนี้ นอกจากนี้ยังกังวลว่าการที่หมูขึ้นราคาอาจจะทำให้ผู้ประกอบการบางรายหยิบฉวยโอกาสตรงนี้แหล่เนื้อให้บางลง ลดคุณภาพของหมูย่างลง ซึ่งอาจะทำให้ความเป็นดั่งเดิมของหมูย่างหายไป ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับลูกค้า ว่าทางร้านไม่ได้ฉวยโอกาสขึ้นราคาช่วงปีใหม่ โดยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยควบคุมราคาหมูย่างให้ชัดเจน และสนับสนุนชาวบ้านที่เลี้ยงหมูตามบ้าน ช่วยรับซื้อหมูของเขา จะทำให้ผลประกอบไม่ไปตกอยู่กับนายทุนรายใหญ่
ด้าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ นางสาวบุญตา เอกรักษา แม่ค้าขายอาหาถุงในตลาดนัด อ.บ้านด่าน เปิดเผยว่า ปกติจะขายอาหารหลากหลาย ใช้เนื้อหมูเป็นเมนูหลัก เช่นลาบหมู, แกงผะแนงหมู ,ต้มแซบเครื่องในหมู เป็นต้น โดยจะหลีกเลี่ยงการใช้เนื้อวัว เพราะมีราคาแพงถึง กก.ละ 320 บาท ต่างจากเนื้อหมูตอนนั้นราคาเพียง 110-120 บาท/กก. แต่ตอนนี้เนื้อหมูราคาพุ่งถึง กก.ละ 220 บาท ใกล้แตะเท่ากับราคาเนื้อวัว
นอกจากนี้ราคาผักสดทุกชนิด ต่างปรับราคาขึ้นตามเนื้อหมูเหมือนกันทุกชนิด จึงปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร จากที่ใช้เนื้อหมู หันมาใช้เนื้อวัว กับเนื้อเป็ด แทนบ้าง เพราะเนื้อวัวถึงแม้จะแพงกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อปรุงเสร็จจะมีสภาพฟูขึ้น ดูแล้วได้ปริมาณมากกว่าเนื้อหมู ยอมรับบางครั้งรู้สึกดีใจที่วันไหนตลาดนัดปิด เพราะขายไปแล้วแทบไม่ได้กำไร เพราะขายกับข้าวราคาเพียงถุงละ 20-30 บาทเท่านั่นไม่กล้าปรับราคาเพิ่มขึ้นเกรงจะไม่มีคนซื้อ
