พลิกคดีไอ้หนึ่งพ่อเลี้ยงโฉดขืนใจลูก ญาติแฉขี้คุกติดยา อึ้งถอนเงินเกลี้ยงแบงก์หนี (คลิป)

30 ธ.ค. 64

กรณีนายสรายุทธิ์ ทวีเกิด อายุ 50 ปี ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ว่าลูกสาวอายุ 11 ปี หรือ น้องส้ม (นามสมมติ) ถูกสามีใหม่ของอดีตภรรยาลวงไปข่มขืน ซึ่งขณะนี้ทั้งคู่กำลังพาเด็กหลบหนี และไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 64 

311013

ล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการขอนุมัติหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อออกหมายจับ นายหนึ่ง หรือ นายคนึง พันธ์ฮวบ อายุ 35 ปี ข้อหา “พรากผู้เยาว์เด็กไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร ” อีกทั้งทางด้านนางสาว อารีย์ ขันธนกร แม่น้องส้ม โดยได้นำพาน้องส้ม (นามสมมติ) อายุ 11 ปี หลบหนีพร้อมสามีใหม่ ไม่นำตัวน้องเข้ามาส่งมอบกับพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา

242186

พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งหาเบาะแสของพ่อเลี้ยงคนดังกล่าวไปยังในพื้นที่จังหวัดอ่างทองและสิงห์บุรี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานหรือบ้านพัก แต่ยังไม่พบตัวพ่อเลี้ยง แม่ และเด็ก คาดว่าอยู่ระหว่างการหลบหนี เนื่องจากเช็กระบบการเงินแล้วได้ข้อมูลว่าถอนเงินออกจากบัญชีไปทั้งหมด เหลือติดบัญชีเพียง 10 บาท ซึ่งน่าจะใช้เป็นทุนในการหลบหนี ตนจึงได้ให้พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับนายคนึง ผู้ต้องหา ในข้อกล่าวหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร ส่วนในเรื่องข่มขืนต้องรอได้ตัวเด็กกลับมาก่อน ถึงจะส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาล หากมีหลักฐานเพิ่มเติมจะแจ้งข้อหาข่มขืนและกระทำอนาจาร

997731

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบริเวณตลาดแห่งหนึ่ง ใกล้ที่ทำการไปรษณีย์วัดตูม ต.วัดตูม อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทีมข่าวพยายามสอบถามชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ใกล้เคียงบ้าน โดยได้นำรูปภาพ รถยนต์ และรูปภาพของ นาย หนึ่ง ให้กับแม่ค้าในพื้นที่ตรวจสอบ โดยแม่ค้าระบุว่าไม่เคยเห็นชายคนดังกล่าวแวะเวียนเข้ามาในตลาดแห่งนี้ เนื่องจากลูกค้าค่อนข้างเยอะเลยจำหน้าตาไม่ได้

ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางมายังตลาดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ตำบลบางมัญ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จึงได้พูดคุยกับ นางสาวประณอม สมศักดิ์ อายุ 66 ปี แม่ค้าตลาดเทศบาลสิงห์บุรี ระบุว่า ตนได้ยินข่าวที่พ่อเลี้ยงขืนใจลูกสาววัย 11 ขวบ พร้อมขับรถหลบหนีไปกับแม่แท้ ๆ ของเด็ก

192079

เมื่อทีมข่าวพยายามนำรูปภาพของ นายหนึ่ง และรูปภาพรถให้ดู แม่ค้ายืนยันว่าไม่เคยพบเห็นบุคคนดังกล่าวมาก่อน ตนค้าขายของในตลาด เปิดร้านช่วงเย็นช่วงกลางคืน ก็ยังไม่เคยเจอบุคคลในภาพ โดยลูกค้าก็เป็นลูกค้าใกล้เทศบาล และลูกค้าแถวบ้านตน จากข่าวที่เห็นนั้นตนรู้สึกใจหายเป็นอย่างมาก เมื่อช่วงวันนี้ตนยังนั่งคุยกับเพื่อนว่าสงสารเด็กที่พ่อเลี้ยง และแม่เด็กไม่ดี อยากสาปแช่งที่ไม่รักลูก เด็กอายุเพียงแค่ 11 ขวบ ไม่รู้เดียงสา อยากให้แม่เด็กนำลูกไปตรวจ ส่งคืนครอบครัว หากไม่สามารถเลี้ยงได้ด้วยตัวเอง ส่วนตัวในฐานะที่เป็นแม่คน ไม่ยอมให้ลูกโดนทำร้ายโดยเด็ดขาด จะเอาเรื่องถึงที่สุดแน่นอน

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังเทศบาลเมืองจังหวัดสิงห์บุรี ตำบลบางพุทรา อำเภอเมืองสิงห์บุรี ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายหนึ่ง อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา และนางสาว อารีย์ ขันธนกร แม่น้องส้ม

727459

จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ พวงคำ อายุ 61 ปี หัวหน้าพนักงานดูแลความสะอาดเก็บกวาดถนน เทศบาลเมืองสิงห์บุรี เล่าให้ว่า ทั้ง 2 คนทำงานเป็นพนักงานเก็บกวาดถนนโดยนายหนึ่งทำงานมาประมาณ 4 - 5 เดือน และได้ออกจากงานไปก่อน เมื่อเดือน กันยายน 64 ที่ผ่านมา เนื่องจากนายหนึ่งอ้างว่ามีปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับโรคกระดูกทับเส้น ปวดหลัง ทำงานไม่ไหว จึงได้ขอลาออกไปก่อน ส่วนพฤติกรรมและลักษณะนิสัย ก็เป็นคนเงียบ ๆ เก็บตัว อารมณ์โกรธฉุนเฉียวก็มีบ้าง

510802

ส่วนทางด้านนางสาวอารีย์ ยังคงทำงานอยู่ที่แห่งนี้ ตนเห็นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.64 เขาก็เดินทางมาทำงานตามปกติ ก่อนเลิกงานและกลับไป โดยขณะนี้ตนพยายามโทรหาเเพื่อจะตามมาทำงาน โทรติดจริงแต่ไม่มีใครรับสายและไม่สามารถติดต่อได้แล้ว จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มาทำงานเลย

"ผมยอมรับว่าทราบข่าวแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่า นายหนึ่ง จะไปทำอะไรอยู่ที่ไหน เนื่องจากออกจากงานที่แห่งนี้มานาน ก็ตัดขาดการติดต่อไป ส่วนตัวจากที่มองก็ไม่ได้ดูเป็นคนเจ้าชู้ แต่ก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะมีพฤติกรรมในการกระทำเช่นนั้นหรือไม่" นายประสิทธิ์ กล่าว 

779836

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จึงได้พูดคุยกับ นางยุวรรณดา พันธ์ุไทย อายุ 59 ปี ป้าของผู้ต้องหา เล่าให้ฟังว่า นายหนึ่ง เคยพักอาศัยในพื้นที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ เรียนหนังสือที่จังหวัดสิงห์บุรี กระทั่งเมื่อ 10 ปีก่อนมีสาเหตุที่นายหนึ่งต้องออกไปจากบ้านหลังนี้ เนื่องจากขโมยพระเครื่องของแฟนตนที่สะสมมานาน อีกทั้งเป็นของที่มีมูลค่าทางจิตใจ แต่หลานชายปฏิเสธ 

267086

ต่อมานายหนึ่ง เริ่มมีเงินซื้อสร้อยทอง ซื้อข้าวของเครื่องใช้ให้ผู้หญิง ตนจึงทราบทันทีว่าเขาขโมยพระไปอย่างแน่นอน จึงตัดสินใจไล่ออกจากบ้านและตัดขาดการติดต่อกัน กระทั่งทราบข่าวว่าติดคุก ภายหลังจากออกจากคุก เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ในปี 62 นายหนึ่งกลับเข้ามายังบ้านของตน เพื่อขอทะเบียนบ้านไปทำบัตรประชาชน ตนก็ได้ถ่ายเป็นสำเนาให้ 

"ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ ป้าก็ยังตกใจ เนื่องจากลูกชายก็โทรมาหาว่า เหตุใดไม่ย้ายชื่อของนายหนึ่ง ออกจากทะเบียนบ้าน เพราะสร้างเรื่องเกิดขึ้นอีกแล้ว แต่เนื่องด้วยป้าไม่ได้ติดต่อกับนายหนึ่ง มานานกว่า 10 ปี ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ป้ามองว่าพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นไปได้ที่เขาจะกระทำอนาจารเด็ก เพราะอยู่ที่ไหนก็มีแต่ปัญหาสร้างแต่เรื่องให้เสมอ ๆ เข้าคุกออกมาก็กลับเข้าคุกใหม่" นางยุวรรณดา กล่าวทิ้งท้าย 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส