เปิดวงจรปิดก่อนตาย โจ๋กินก๋วยเตี๋ยวฉุนมองหน้า ดักแทงมีดปักอก เพื่อนโต้ท่อดังเบิ้ลเครื่องพิสูจน์ (คลิป)

กรณีที่ครอบครัวของนายธีรโชติ รัฐถาทอง ผู้เสียชีวิตได้มาร้องเรียนว่าลูกชายถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนลูกชายได้รับบาดเจ็บช่วงก้น เหตุจากคู่อริที่นั่งอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยว เข้าใจผิดว่าผู้เสียชีวิตมองหน้า แล้วเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ใส่ (อ่าน : แทงทะลุปอด! แม่วอน ตร.จับโจ๋เลือดร้อนฆ่าลูก ไม่นึกปมมองหน้าเบิ้ลเครื่อง เอาถึงตาย)

วันที่ 17 ธ.ค. 61 นายเอ (นามสมมติ)  อายุ 16 ปี คนซ้อนท้ายรถนายธีรโชติ รัฐถาทอง ผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะนั้นนายธีรโชติขับขี่รถจักรยานยนต์แต่งท่อ ส่วนตนเป็นคนซ้อนท้าย ไปที่ ต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ก่อนจะถึงจุดหมาย ก็ผ่าน ถ.เศรษฐกิจ ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี ขณะนั้นตนมองทางไปเรื่อย ๆ เมื่อมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยว ก็เผลอมองสบตากับคู่กรณี และขี่รถจักรยานยนต์ไปเรื่อย ๆ จนเมื่อเสร็จธุระ ได้ขี่กลับผ่านทางถนนเส้นเดิมอีกครั้ง เมื่อมาถึงฝั่งตรงข้ามถนนบ้านสวน 11 ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนกับร้านก๋วยเตี๋ยว ประมาณ 170 เมตร เห็นมีคนซุ่มอยู่ตรงพุ่มไม้เกาะกลางถนน ใต้สะพานรางรถไฟ พร้อมกับตะโกนเรียกพวกตนว่า “เห้ย” จากนั้น นายธีรโชติจึงขับรถย้อนศรเพื่อไปดู เพราะนึกว่าเป็นเพื่อน แต่เมื่อไปถึงก็เห็นชายที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวคนเดิม วิ่งออกมาจากพุ่มไม้ แล้วถีบรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะถามว่า “มึงมองหน้าทำไม ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว” ขณะนั้นพวกตนจึงได้ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟัง ใช้มีดพกสั้นแบบหยัก แทงเข้าที่ลิ้นปี่ของผู้ตาย ก่อนที่จะหันมาเตะตน แล้วใช้มีดแทงเข้าที่ก้นด้านขวา เมื่อหันไปก็ไม่เห็นเพื่อนตนอยู่ที่จุดเกิดเหตุแล้ว ขณะนั้นมีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา จึงได้ให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

นายเอ เล่าต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นหน้า และไม่เคยมีเรื่องกับคนก่อเหตุมาก่อน ส่วนเรื่องการเบิ้ลรถ ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุไม่มีแน่นอน เพราะเป็นการขี่เพื่อชมวิวเท่านั้น แต่คาดว่าผู้ก่อเหตุอาจหาเรื่องเพราะพวกตนไปมองหน้า ไม่ได้เกี่ยวกับรถ แต่ยอมรับว่ารถของผู้ตายมีการแต่งท่อ และเสียงดัง เพราะผู้ตายมีใจรักเรื่องรถ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้ ก็อยากจะทำร้ายคนก่อเหตุเช่นกัน เพราะรู้สึกเสียใจที่เพื่อนถูกทำร้ายเช่นนี้

ด้าน นางแมว (นามสมมติ) แม่ของนายธีรโชติ รัฐถาทอง ผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ลูกสาวของตนโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายเสียชีวิต เมื่อเห็นสภาพศพลูก พบว่ามีรอยแผลอยู่ช่วงลิ้นปี่ หลังจากนั้นได้สอบถามนายโอ๊ต เพื่อนของลูกชาย ทราบว่าสาเหตุมาจากการมองหน้า ตนก็รู้สึกสงสัยว่าเหตุใดแค่มองหน้า ผู้ก่อเหตุจึงทำร้ายถึงขึ้นเสียชีวิต เพราะโดยปกติแล้วลูกของตนเป็นคนพูดจาไพเราะ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ส่วนเรื่องการแต่งรถ ลูกชายก็เอาเงินจากการทำงานไปแต่ง ยอมรับว่าเสียงรถลูกดัง และเคยเตือนแล้ว แต่ลูกบอกว่าหากรถเบาเครื่องก็จะดับ แต่ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าการก่อเหตุอาจจะมาจากสาเหตุใด

ทั้งนี้ ตนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ถ้าลูกตนต้องเสียชีวิตเพียงเพราะเรื่องการมองหน้าคน ก็รู้สึกเสียใจ และอยากให้ผู้ก่อเหตุมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว พร้อมกับอยากถามว่า แค่มองหน้าถึงขั้นฆ่าลูกของตนเลยหรือ

จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่ถนนเศรษฐกิจ พบว่าจุดที่คนร้ายมานั่งทานก๋วยเตี๋ยว อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ จุดดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ และมีกล้องของเทศบาลติดตั้งอยู่ จากจุดที่คนก่อเหตุนั่งทานก๋วยเตี๋ยว อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 170 เมตร พบว่าถนนดังกล่าวเป็นช่อง 2 จราจร โดยมีเกาะกลาง ซึ่งจุดที่คนก่อเหตุดักรอ คือเกาะกลางถนนที่มีต้นไม้อยู่ และอยู่ใต้สะพานทางรถไฟ

ต่อมา ทีมข่าวได้รับภาพกล้องวงจรปิดจากร้านในละแวกใกล้เคียง เป็นภาพขณะที่ผู้ตายขับขี่รถย้อนศร บนถนนเศรษฐกิจเพื่อไปหาผู้ก่อเหตุ ในช่วงเวลาประมาณ 20.50 น.

ส่วนกล้องวงจรปิดอีกตัว เป็นภาพเงาของชายคนหนึ่ง ที่วิ่งข้ามถนนไปอยู่ฝั่งถนนบ้านสวน 11 คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ในช่วงเวลา 20.51 น. ต่อมาทีมข่าวได้มาดูเส้นทางภายใน ซ.บ้านสวน 11 ที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี พบว่าเป็นซอย ซึ่งเป็นหลังบ้านของคน ข้างทางเป็นป่ารกทึบ แต่มีบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีกล้องวงจรปิดอยู่ แต่เมื่อไปสอบถามเจ้าของบอกว่า กล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกช่วงเวลาดังกล่าวไว้ได้