กยศ. มอบของขวัญปีใหม่สู้ภัยโควิด ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ ชูลดต้น-ดอกเบี้ย เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.65
วันที่ 29 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เผย กยศ. ได้จัดเตรียมของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุน โดยคณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและให้โอกาสผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2564 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2565
โดยมาตรการลดหย่อนหนี้ ประกอบด้วย
- 1.ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
- 2.ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
- 3.ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ดังนี้
- สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา
- สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ www.studentloan.or.th โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี - 4.ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)และ
- 5.ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นของขวัญปีใหม่ที่กองทุนมอบให้แก่ผู้กู้ยืมเงิน โดยกองทุนขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านร่วมกันสู้เพื่อให้ผ่านสถานการณ์โควิดไปด้วยกัน ผู้กู้ยืมเงินสามารถดูรายละเอียดช่องทางการชำระหนี้เพื่อรับสิทธิตามมาตรการดังกล่าวได้ที่ www.studentloan.or.th โดยตรวจสอบยอดชำระได้ที่แอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์บัญชีทางการ กยศ. (Line Official Account กยศ.) หรือโทร. 0 2016 4888
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กยศ. ชี้แจงการโอนเงินค่าครองชีพ เร่งโอนที่เหลือทั้งหมดภายใน 30 ธันวาคมนี้
- ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. กยศ. ฉบับใหม่ อาจให้ทุนการศึกษาแทนการให้กู้ยืม ขยายโอกาส-ลดความเหลื่อมล้ำ
- กยศ. เตรียมจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ พบผิดนัดชำระ 2.3 ล้านคน