เช็ก เงินประกันรายได้เกษตรกร ส่วนต่าง ประกันราคาข้าว งวดที่ 11 รอบสุดท้ายของปี โอนแล้ว 1.36 แสนล้านบาท

29 ธ.ค. 64

เงินประกันรายได้เกษตรกร ส่วนต่าง ประกันราคาข้าว งวดที่ 11 กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 31/2564 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง ประกันราคาข้าว ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 (งวดที่ 11 ) คือ

ข้อ 1. ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2564 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 (งวดที่ 11 ) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 17-23 ธันวาคม 2564 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,200.61 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,867.60 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,936.67 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,154.29 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,316.15 บาท

ข้อ 2. การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคา "ประกันรายได้เกษตรกร" กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงิน งวดที่ 11 ในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ดังนี้

- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 3,799.39 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 3,132.40 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,063.33 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,845.71 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,683.85 บาท

ตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ผ่านเว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็คเงินเกษตรกร การเช็คเงินเกษตรกร 2564 เข้าหรือยัง สามารถทราบผลได้ทันที หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ

ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน โดยประกันรายได้ให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 (รอบที่ 1) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เม.ย.- 31 ต.ค. 2564 ยกเว้นภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. 2564 - 28 ก.พ. 2565

ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ติดตามการดำเนินงานโอนเงินช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 แล้ว โดย ธ.ก.ส. รายงานว่า ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงแล้ว 4,473,429 ครัวเรือน เป็นเงิน 83,483 ล้านบาท ส่วนของตัวเลขเกษตรกรที่เหลือ อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลการผลิตจากกรมส่งเสริมการเกษตรรวมถึงข้อมูลบัญชีเงินฝากของเกษตรกรให้ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง

โดย ธ.ก.ส. จะเร่งโอนให้เกษตรกรต่อไป สำหรับเงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 นั้น ธ.ก.ส. ได้โอนเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงแล้ว 4.59 ครัวเรือน เป็นเงิน 53,180 ล้านบาท ทำให้มียอดโอนเงินประกันรายได้และค่าบริหารจัดการคุณภาพข้าวถึงมือเกษตกรทั้ง 2 โครงการแล้ว รวมแล้วกว่า 1.36 แสนล้านบาท

นายธนกร กล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 จะประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน โดยมีเป้าหมายเกษตรกร 4.69 ล้านครัวเรือน สำหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รัฐบาลสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 กับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน

สำหรับคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 11 แล้ว เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2564 โดยกำหนดข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 11,200.61 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,799.39 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,867.60 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,132.40 บาท

ทั้งนี้ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 9,936.67 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,063.33 บาท ข้าวเปลือกเจ้าราคา 8,154.29 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,845.71 บาท และข้าวเปลือกเหนียวราคา 9,316.15 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,683.85 บาท ซึ่งธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของเกษตรกรภายใน 3 วันทำการหลังจากที่ได้มีการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กราคา เงินประกันรายได้เกษตรกร ส่วนต่าง ประกันราคาข้าว งวดที่ 10 จาก กรมการค้าภายใน

เกษตรกรเฮ! ธ.ก.ส. มอบของขวัญปีใหม่ คืนเงินลูกค้าไม่เกิน 1,000 บาท

เงินเข้าวันนี้ (20 ธ.ค.64) ประกันรายได้ชาวสวนยาง ระยะที่ 3 เช็กช่องทางตรวจสอบสิทธิ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม