เทพนารายณ์สิงมนุษย์แจงปมสวิงกิ้งหญิงแก่ หวังยั่วมารสะดุ้ง - เหยื่อรับไร้หลักฐาน (คลิป)

17 ธ.ค. 61
กรณี นางแก้ม (นามสมมติ) อ้างว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย ถูกชายที่เป็นร่างทรงหลวงลวงทรัพย์สิน และออกอุบายลวงเข้าโรงแรมเพื่อให้ร่วมเพศในลักษณะที่เรียกว่าสวิงกิ้ง เพื่อจะได้พ้นเคราะห์ ขณะที่ร่างทรงที่ถูกกล่าวหาได้ออกมาปฏิเสธเรื่องราวทั้งหมด (อ่าน : ร่างทรงพ่อปู่โต้จับสาวใหญ่สวิงกิ้ง ยันมี 2 เมียพอ-นางสนมชี้ ถูกเทพองค์ใหญ่เป่าหู)
นางแก้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย
วันที่ 16 ธ.ค. 61 นางแก้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และเซ็นรับรองเอกสารคำให้การ พร้อมภาพถ่ายต่าง ๆ ส่วนด้านของคดี โดย นางแก้ม กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลอะไรมากไปกว่านี้ เพราะตนรู้สึกเครียดมาก เนื่องจากต้องดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงที่โรงพยาบาล สามีก็ป่วยอยู่ที่บ้าน ส่วนคำให้การที่กลุ่มร่างทรงบอกไปว่าไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง หรือสาวกอ้างเป็นเพียงคนทำบายศรี ไม่มีส่วนร่วมนั้น ก็เป็นเรื่องของอีกฝ่ายสามารถจะปฏิเสธได้ เพราะในขณะนั้นตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เนื่องจากอยู่ตัวคนเดียว
ศิวลึงค์ที่สวนของนางแก้ม
ส่วนการสร้างศิวลึงค์ก็ไม่ได้สร้างที่บ้าน  แต่เป็นการสร้างที่สวนของตน ซึ่งตนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนกลุ่มสาวกจะไปหาเงินจากไหนมานั้น ตนไม่รับทราบและไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง
นายแจ็ค (นามสมมติ) ลูกศิษย์ของร่างทรง
ด้าน นายแจ็ค (นามสมมติ) ลูกศิษย์ของร่างทรง เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกศิษย์ของปู่น้องมาประมาณ 10 ปี รู้จักกับเจ้าตัวตั้งแต่เป็นคนขับรถรับจ้างในตลาด ต่อมาทราบว่าปู่น้องเดินทางสายธรรม และเป็นร่างทรง ตนจึงได้เข้าไปศึกษาคำสอนของปู่น้อง และพบว่าเป็นคำสอนที่ดี ไม่ขัดกับหลักของพระพุทธศาสนา เพราะปู่น้องสอนให้ไหว้พระสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ถือศีลกินเจ อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งเมื่อปฏิบัติตามก็ทำให้ชีวิตดีขึ้น จากที่ชีวิตเคยตกต่ำ หาเช้ากินค่ำ เงินไม่เหลือ ก็เริ่มเจริญในหน้าที่การงานและมีเงินมากขึ้น นายแจ็ค กล่าวต่อว่า ตนไม่รู้ว่าเบื้องลึกนิสัยของปู่น้องว่าเป็นอย่างไร หลังจากปู่น้องตกเป็นข่าวก็ค่อนข้างตกใจ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ตนไม่เคยเห็นปู่น้องทำพิธีกรรมเปิดร่างเมียเทพ เพราะพิธีกรรมส่วนใหญ่จะเป็นแค่การรวมตัวกันไหว้ครูเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และแม้ว่าปู่น้องจะมีข่าวเสียหาย แต่ตนมองว่าเราควรสักการะที่องค์เทพ ไม่ใช่ตัวบุคคล แม้ว่าบุคคลจะปฏิบัติเช่นไร ตนก็ยังศรัทธาในองค์เทพเหมือนเดิม อีกทั้งตนเห็นว่าควรนำหลักฐานมาดูกันว่าปู่น้องทำผิดจริงหรือไม่
ปู่น้อง ร่างทรงนารายณ์ (แฟ้มภาพ)
ขณะที่บ้านของนายวิษณุ หรือ ปู่น้อง ร่างทรงนารายณ์ เจ้าตัวแต่งกายด้วยเสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล เมื่อทีมข่าวขอสัมภาษณ์ เจ้าตัวกลับปฏิเสธและไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ โดยอ้างว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่อนุญาต หลังจากนั้นปู่น้องได้นั่งท่าขัดสมาธิเพชร และหลับตาที่กลางบ้าน และจะใช้มือซ้ายจับลูบเท้าขวาตลอดเวลา รวมถึงโยกตัวเบา ๆ จากนั้น เมื่อปู่น้องลืมตาขึ้น ก็บอกว่าตัวเองคือปู่นารายณ์ โดยมีน้ำเสียงเข้มและแก่ขึ้น สำเนียงการพูดเหมือนคนโบราณ แต่ลักษณะคำพูดเป็นภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน ไม่ใช่ภาษาโบราณ และลักษณะท่าทางเริ่มเปลี่ยน โค้งตัวลงเล็กน้อยคล้ายคนแก่ ขณะพูดคุยมักจะหลับตา และกระพริบตาตลอดเวลา กระทั่งเห็นตาขาว โดย ปู่นารายณ์ ให้ข้อมูลว่า "ปู่ไม่อยากให้ร่างของปู่ ไปให้สัมภาษณ์ และไปออกรายการ ปู่ไม่อยากให้มันเป็นประเด็นยืดเยื้อ ส่วนการให้สัมภาษณ์เมื่อวาน (15 ธ.ค.) นั้น เป็นเพียงแค่ต้องการจะแหย่มารให้มันสะดุ้งบ้าง หลังจากนี้มารมันคงจะสติแตก และทำทุกวิถีทางเพื่อเล่นงานและปิดตำหนักปู่" หลังจากนั้น ปู่นารายณ์ก็หยุดพูด แล้วกลับมาพูดจาปกติ แล้วบอกกับทีมข่าวว่า หากปู่นารายณ์ไม่อนุญาต ก็คงให้สัมภาษณ์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะสนทนากัน ปู่นารายณ์จะแทนตัวเองว่าปู่ และเรียกทีมข่าวว่าลูกทุกคำ ไม่มีการพูดคำหยาบ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ