จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชาคริษ พูลเพิ่ม โพสต์ภาพเห็บจำนวนหนึ่ง พร้อมข้อความระบุว่า "นักเรียน บอกคันหู ครูก็ อืมๆ ?? สักพักนักเรียนแอบเอาดินสอทิ่มเข้าหูตัวเอง เพราะว่าคัน เลือดไหลสิครับ เลือดไหล ไม่หยุด พาไปหาหมอ หมอตรวจพบว่า มีเห็บอยู่ในรูหู 10 กว่าตัว ทั้งข้าง พอคุณครูแจ้งมา ครูอีกท่าน ไปดูที่หูของน้องเด็กชายคนนี้ กรี๊ด ที่หูมีเห็บหมาเหมือนกัน. ฝากผู้ปกครองดูแลเด็กๆเรื่องความสะอาด ด้วยนะครับ เล็บ มือ เท้า สุนัข รักได้ แต่อย่าคลุกคลีมากเกิน. อันนี้เป็นวิทยาทาน แลกประสบการณ์นะครับ เรื่องจริงที่ควรเฝ้าระวัง"
วันที่ 16 ธ.ค. 61 ที่โรงเรียนเทศบาลตำบลหนองม่วง ต.หนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี
นายชาคริษ พูลเพิ่ม คุณครูสอนภาษาไทย ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ขณะที่ตนกำลังสอนหนังสืออยู่ น้องบูม (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ป.3 เดินมาบอกตนว่าคันหู ตนนึกว่าเด็กพูดเล่น เพราะว่าเป็นเด็กผู้ชายมาบอกคันหู จึงบอกให้เด็กเกา และเมื่อน้องบูมนำดินสอมาแหย่ที่หูเพื่อเกา ก็พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากหูจำนวนมาก
จากนั้น ตนจึงประสานครูประจำชั้นให้พาน้องบูมไปโรงพยาบาลหนองม่วง โดยแพทย์แจ้งว่า ในรูหูของเด็กมีเห็บ ส่วนเลือดที่ไหลออกมานั้นเกิดจากการที่ตัวเห็บแตก และเลือดไหลออกมา นอกจากนี้พบว่าในหูมีเห็บอีกว่า 10 ตัว และเมื่อมาส่องหูอีกข้างหนึ่งก็พบว่ามีเห็บเช่นกัน
นายชาคริษ กล่าวอีกว่า หลังตนทราบเรื่องว่า น้องบูมมีเห็บอยู่ในหู ตนจึงคิดว่าน้องบีม (นามสมมติ) น้องสาวของบูม ซึ่งเรียนอยู่ชั้นอนุบาลก็อาจจะมีเห็บด้วยเหมือนกัน ซึ่งเมื่อลองสังเกตที่หูของน้องบีมก็พบว่ามีเห็บในหูเหมือนกัน ตนจึงรีบส่งตัวน้องบีมไปที่โรงพยาบาลหนองม่วงด้วยอีกคน
ขณะนี้ตนยังไม่ได้คุยกับครอบครัวของเด็ก แต่ทราบมาว่า เด็กค่อนข้างฐานะยากจน และอาศัยในบ้านปูนชั้นเดียว การดูแลเอาใจใส่อาจยังไม่ดีพอ เพราะทุกครั้งที่น้องทั้ง 2 คน มาโรงเรียน เสื้อผ้าก็จะมอมแมม ไม่ค่อยสะอาดเหมือนกับเด็กคนอื่น
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่หมู่บ้านชอนขุด ต.ชอนสารเดช อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านของแม่เลี้ยงน้องบูม โดยลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสิ่งของวางอยู่หน้าบ้านจำนวนมาก เช่น กองเสื้อผ้า ตามพื้นพบว่า มีเห็บเดินอยู่บ้าง
ซึ่งระหว่างสัมภาษณ์พบว่า มีเห็บไต่ขึ้นเสื้อของแม่เลี้ยงน้องบูมด้วยเช่นกัน อีกทั้งพบในบริเวณบ้านอีกจำนวนมาก
นางลักขณา ทองเผือก แม่เลี้ยงของบูมบีม กล่าวว่า บ้านของตนเลี้ยงสุนัข 3 ตัว และปกติจะอาบน้ำให้บ้าง เวลาที่ลูกเลี้ยงทั้ง 2 คนเวลานอน ก็จะให้นอนที่พื้นปูนและกางมุ้ง ก่อนหน้าที่ครูที่โรงเรียนจะพบเห็บในหูน้อง เวลานอนน้องก็มักจะบอกว่าคัน เหมือนมีอะไรเดินอยู่ในหู และเจ็บหู ตนเคยใช้ไฟฉายส่องแต่ก็ไม่พบอะไร นอกจากนี้เด็กทั้ง 2 คน ยังเคยบอกตนด้วยว่า คันตามตัว ตนก็ยังสงสัยว่าเป็นตุ่มอะไร
หลังทราบเรื่อง ตนก็รู้สึกตกใจที่เห็บมาอยู่ในหูของลูก และไม่เข้าใจว่าเข้าไปอยู่ได้อย่างไร อีกทั้งเป็นเห็บตัวใหญ่จึงทำให้รู้สึกกลัว และตนยืนยันว่าไม่ได้คิดจะต้องเลิกเลี้ยงสุนัขแต่อย่างใด เพราะ ตนเองต้องไปทำงาน บ้านไม่มีคนอยู่ หากมีสุนัขไว้เฝ้าบ้านก็อุ่นใจ แต่จากนี้จะหยอดยาให้สุนัขเพื่อรักษาให้เห็บน้อยลง
นางลักษณา กล่าวต่อว่า รู้สึกกลัวว่าเห็บจะเข้ามาอยู่ในหูของลูกเลี้ยงอีก แต่ก็จะพยายามดูแลกันไป เท่าที่ทำได้ ทั้งหมาและลูกเลี้ยง นอกจากนี้ หลังจากเด็กทั้ง 2 คน ได้รับการรักษาแล้ว เด็กก็มีอาการปกติดี ไม่ได้มีอาการซึมเศร้าแต่อย่างใด