กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะขาม ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถเบนซ์หรูเฉี่ยวชนรถจักรยนยนต์ 2 คัน บนถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ขาเข้าเมือง บริเวณหน้าตู้ยามตำรวจสายตรวจ ในเขตพื้นที่หมู่ 7 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย
โดยชายที่ได้รับบาดเจ็บ กระเด็นเข้าไปอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง นอนร้องโอดครวญและตะโกนถามหาภรรยาที่ซ้อนท้ายมาด้วยกันตลอดเวลา และไม่ทราบว่าภรรยาของตัวเองได้เสียชีวิตแล้ว สภาพขาหักเป็นแผลฉกรรจ์ทั้ง 2 ข้าง ทราบชื่อต่อมา น.ส.อังคณา คีรีรักษ์ อายุ 26 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บ
ล่าสุดวันที่ 26 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บนถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ขาเข้าเมือง ซึ่งเป็นถนนทางตรง 2 เลน ผู้ใช้รถใช้ถนนค่อนข้างขับรถเร็ว เนื่องจากเป็นถนนทางตรง ทีมข่าวพบเศษซากรถจักรยานยนต์บางส่วนตกอยู่ริมถนน
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังวัดโป่งโรงเซ็น อยู่ในพื้นหมู่ 7 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ภายในวัดถูกจัดให้เป็นสถานที่ตั้งศพของ นางสาวอังคณา คีรีรักษ์อายุ 26 ปี ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
นายกฤษณะ นภาการ อายุ 32 ปี สามีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. คนขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นภรรยา ส่วนตนเป็นคนซ้อน พอมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นมีอาบังขายโรตีอยู่ข้างทาง จึงจอดเรียกเพื่อที่จะซื้อโรตี ซึ่งตนลงจากรถไปสั่งเมนู ในขณะที่นางสาวอังคณา กำลังนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงโครม รถเบนซ์น่าจะชนกับรถจักรยานยนต์ของภรรยา ก่อนจะกระแทกร่างตนปลิวกระเด็นไปด้วย ส่วนรถเบนซ์ก็ชนรถโรตีปลิวเหมือนกัน
"ตอนที่ผมได้สติ ก็ร้องตะโกนเรียกหาภรรยา จนได้สติขึ้นมาที่โรงพยาบาลจึงทราบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว อาการบาดเจ็บของผมขณะนี้หมอบอกว่าแขนข้างขวาหัก และมีอาการช้ำภายในร่างกาย ซึ่งจะต้องไปตรวจเช็กอีกครั้งว่ามีเลือดคั่งหรือไม่ เบื้องต้นใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท และครอบครัวยังไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคนขับรถเบนซ์ ผมคิดว่าก่อนเกิดเหตุคนขับรถเบนซ์น่าจะหลับในหรือไม่ และก็อยากให้รับผิดชอบทุกอย่าง เพราะผมเสียภรรยาไปแล้ว และยังมีลูกอีก 2 คนที่ต้องดูแล" สามีผู้เสียชีวิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.วัลลภ พูลผล ตำรวจสภ.มะขามเจ้าของคดี ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นตนได้สอบปากคำคนขับรถเบนซ์ ทราบชื่อนายอดุล ปาระชาติ อายุ 50 ปี ชาวต.สามไถ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นให้การว่า ขณะเกิดเหตุขับรถเบนซ์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นของนายจ้างมาจาก อ.โป่งน้ำร้อน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองจันทบุรี เพื่อนำรถไปให้นายจ้าง
แต่เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุเป็นที่มืด ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง และไม่ทันสังเกตว่ามีรถจักรยานยนต์คู่กรณีทั้ง 2 คัน ขี่อยู่ข้างหน้าจึงพุ่งชนท้ายเข้าเต็มแรง ก่อนที่รถเบนซ์จะเสียหลักไถลตกข้างทาง ห่างจากจุดที่ชนระยะกว่า 100 เมตร ด้วยความตกใจจึงรีบหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ และรีบโทรแจ้งให้นายจ้างทราบ ก่อนที่จะถูกนายจ้างตำหนิและให้รีบกลับมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบก่อนที่จะมีการแจ้งข้อหา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีโอกาสได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บ และในส่วนของพยานหลักฐาน ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
