วันที่ 13 ธ.ค.61 น.ส.รัตนา คุ้มตระกูล หรือ มะปราง อายุ 20 ปี ชาวบ้าน ต.สำโรงชัย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ลูกสาวของนายปัญญา คุ้มตระกูล ผู้เสียชีวิต ออกมาเรียนกับสื่อว่าพ่อถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
โดย
น.ส.รัตนา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนกับลูกวัย 2 ขวบ พร้อมกับพ่อแม่ และน้องชาย ออกไปทำธุระที่ตลาด อ.ท่าตะโก โดยนายปัญญา พ่อของตนเป็นผู้ขับรถ เมื่อทำธุระเสร็จ พ่อจึงขับรถกลับบ้าน แต่ระหว่างทาง โดยพ้นสี่แยกไดตาล พื้นที่ ต.โคกดื่อ อ.ไพศาลี มาประมาณ 2 กิโลเมตร พ่อตนได้ขับแซงรถกระบะ วีโก้สีเทา แต่แซงไม่พ้น และเฉี่ยวชนกับกระบะ ขณะนั้นมีเสียงดังเล็กน้อย
หลังจากแซงรถของคู่กรณีไปแล้ว พบว่ามีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว อีกคันหนึ่ง ขับจี้ท้ายมาเรื่อย ๆ ตนจึงให้พ่อจอดรถ ขณะนั้นทุกคนลงมากันหมด รถกระบะสีขาวจอดหน้ารถพ่อตน และมีชายรายหนึ่งลงมาจากรถ พร้อมพูดกับพ่อว่า “ผมเห็นว่าลุงขับเฉี่ยวชนเขา ลุงทำไมไม่จอด”
ขณะที่คุยกับชายรายนี้ได้ไม่นาน รถกระบะคู่กรณีได้มาจอดท้าย และมีชาย 2 คนลงมาจากรถ ซึ่งชาย 2 คน สูงประมาณ 170 เซนติเมตร โดยคนหนึ่งรูปร่างท้วม เป็นคนนั่งข้างคนขับ ส่วนอีกคนรูปร่างผอม เป็นคนขับ ชายรูปร่างท้วมถามพ่อตนถึงประกันรถ จากนั้น พ่อเดินไปดูที่รถคู่กรณี พบว่ากันชนหน้ารถคู่กรณีได้หลุดห้อยลงมา แต่กลับพบว่ามีเชือกสีเขียวห้อยอยู่ พ่อจึงถามกลับว่า รถไปเฉี่ยวชนกับคันอื่นมาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ เนื่องจากเมื่อตรวจสอบความเสียหายที่รถพ่อ ก็มีเพียงร่องรอยเฉี่ยวกันที่ท้ายกระบะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อคู่กรณีได้ยินเช่นนั้นก็ได้ต่อยพ่อตนทันที โดยขณะนั้นไม่ได้สังเกตว่าคู่กรณีได้ใช้อาวุธหรือไม่ แต่เห็นว่าทั้ง 2 คน รุมทำร้ายพ่อเน้นที่บริเวณศีรษะ แม้ตนกับแม่จะห้ามก็ไม่มีใครฟัง
เมื่อแม่หันไปเห็นพ่อนอนแน่นิ่ง ก็ได้ตะโกนให้ตนถ่ายทะเบียนรถคู่กรณี เมื่อจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ชายรูปร่างท้วม ก็จะเดินเข้ามาตบ แต่คนในร้านค้าไม้ วิ่งออกมาก่อน คู่กรณีจึงรีบวิ่งขึ้นรถไป และตนอาศัยจังหวะนี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทะเบียนรถไว้ได้
ด้าน
นางสมปอง คุ้มตระกูล ภรรยาของนายปัญญา คุ้มตระกูล ผู้เสียชีวิต เผยว่า วันเกิดเหตุ สามีขับรถมาถึงบริเวณสี่แยก อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ และเร่งเครื่องแซงรถกระบะสีเทาคันหน้า โดยไม่รู้ว่าเฉี่ยวชนกันหรือไม่ แต่ได้ยินเสียงเหยียบสิ่งของที่เป็นพลาสติก ต่อมาได้มีรถกระบะสีขาวมาจอดด้านหน้า แล้วบอกให้สามีไปเจรจากับรถกระบะสีเทาที่เป็นรถคู่กรณี จากนั้นรถกระบะสีเทา ขับตามมาจอดต่อท้าย และมีชาย 2 คน เข้ามาต่อว่าด้วยน้ำเสียงดุดัน ทำนองเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ให้จ่ายค่าเสียหาย
เมื่อสามีไปตรวจสอบความเสียหายของรถ พบกันชนหน้ารถ โดยมีสิ่งของคล้ายเชือกผูกรั้งไว้ พอถามว่า รถไปเฉี่ยวชนกับคันอื่นมาก่อนหรือไม่ ชาย 2 คนรุมทำร้ายสามี ต่อหน้าตนและลูก แม้จะห้ามปราม ก็ยังทำร้ายสามีจนล้มหมดสติ กะโหลกศีรษะแตก จนสุดท้ายสามีก็เสียชีวิต แพทย์แจ้งว่าอาจถูกของแข็งตี ส่วนหน้าอกก็ช้ำใน
ซึ่ง
ร.ต.อ.เอนก ธัญผล รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไพศาลี ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอศาลจังหวัดนครสวรรค์ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว 1 ราย คือ นายวิศรุต อนันทวัน ชาว จ.ร้อยเอ็ด ส่วนคนร้ายที่เหลืออยู่ในระหว่างสืบสวนเบาะแส และหาหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
กล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมันสามารถบันทึกภาพขณะที่รถของนายปัญญาผู้เสียชีวิตขับผ่านในช่วงเวลาประมาณ 16.24 น. โดยด้านหลังของรถนายปัญญา จะเห็นรถกระบะสีขาวขับมาในเส้นทางเดียวกัน
จากนั้น กล้องวงจรปิดบริเวณแยกไพศาลี สามารถบันทึกภาพขณะที่รถกระบะสีเทาของคู่กรณีขับผ่านแยก ด้านหลังเป็นรถของนายปัญญา และรถกระบะสีขาวได้แซงซ้ายรถกระบะของชาวบ้านที่ขับอยู่ คล้ายกับจะตามรถของนายปัญญาให้ทัน
ส่วน กล้องวงจรปิดบริเวณร้านค้าไม้ ซึ่งจะมีกล้องวงจรปิด 2 มุม มุมแรกจะเห็นภาพในระยะไกล มีแนวรั้วบังตอนที่เกิดเหตุ เป็นจังหวะที่รถกระบะคันสีขาวได้ขับมาจอดอยู่ตรงหน้าร้าน ระยะเวลาห่างกันไม่นานรถของนายปัญญา ผู้เสียชีวิต ได้ขับมาจอด ต่อมา เวลา 17.37 น. คนขับรถกระบะสีขาว พูดคุยกับนายปัญญา หลังจากนั้นในช่วงระยะเวลา 17.38 น. ก็จะเห็นมีช่วงชุลมุนกัน ก่อนที่จะมีชาวบ้านในร้านค้าไม้ออกมาช่วยเหลือ ก่อนรถกระบะสีขาวและสีเทาของคู่กรณีก็ได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนอีกมุมหนึ่ง เป็นภาพด้านหน้าประตูรั้วหน้าบ้าน พบว่าช่วงเวลาประมาณ 17.36 น. รถกระบะสีขาวเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้ารั้ว ส่วนรถกระบะของนายปัญญาจะเห็นเพียงช่วงหัวรถ โดยจะเห็นว่าผู้ชายที่อยู่ในรถกระบะสีขาวเดินมาพูดคุยกับนายปัญญา หลังจากนั้นประมาณ 30-40 วินาที รถกระบะของคู่กรณีก็ขับมา หลังจากนั้น ก็มีภาพคล้ายกับมีเหตุการณ์ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น และเห็นกลุ่มผู้หญิงที่ยืนกระโดดคือกลุ่มครอบครัวของผู้เสียชีวิต ที่พยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จากนั้นผู้ชายเสื้อสีขาวก็ขึ้นรถกระบะออกไป โดยมีรถของคู่กรณีขับออกไปด้วยเช่นกัน