จยย.เมาซิ่งปาดกระบะ ห้าวทุบกระจกเคลียร์ โดนฟันอก

จากกรณี เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 61 เวลาประมาณ 16.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธมีดฟันกันจนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณถนนปัทมานนท์ ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด

โดยผู้เสียหาย คือนายชนะชัย เจริญวัย อายุ 33 ปี ถูกฟันที่บริเวณหน้าอก ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยนายชัยพร ผู้ก่อเหตุ ขับรถยนต์บรรทุกเนื้อไก่ หลบหนีหลังเกิดเหตุ และขอเข้ามอบตัวในที่สุด

ภาพจำลองเหตุการณ์ นายชนะชัยขี่รถจักรยานยนต์ล้มเสียหลัก

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเนื่องจากผู้เสียหายและผู้ต้องหา ขับขี่ยานพาหนะจากสี่แยกไฟแดง จากนั้นผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ขวางหน้า ผู้ต้องหาจึงจอดรถ ผู้เสียหายลงจากรถจักรยานยนต์เดินไปที่ประตูฝั่งคนขับ แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาลงจากรถถืออาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วทั้งคู่จึงต่อสู้กัน ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดฟันผู้เสียหายหลายครั้ง จากนั้นผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปทาง อ.จตุรพักตรพิมาน แล้วหมดสติเสียหลักล้มที่บ้านป่าบาก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กิโลเมตร

โดย นายชนะชัย เจริญวัย ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเลิกงาน ตนขี่รถไปถึงไฟแดง ซึ่งอยู่คนละเลนกับผู้ก่อเหตุ แต่ตนไม่ทราบว่าเหตุใด คู่กรณีจึงเข้ามาต่อว่า ชกต่อย และใช้มีดฟัน ตนจึงพยายามเอามือกำแผลและประคองตัวเองขับรถไปจากที่เกิดเหตุ เพราะต้องการกลับบ้านไปหาพ่อแม่ แต่ระหว่างทางเกิดอาการหนาวสั่นและวูบไป มารู้สึกตัวอีกครั้งก็อยู่ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดแล้ว ขณะนี้อาการป่วยดีขึ้น มีแค่อาการเจ็บที่บาดแผลเท่านั้น ส่วนเรื่องเรียกร้องก็คงจะให้เป็นไปตามกฎหมาย และขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายคู่กรณีเข้ามาดูอาการแต่อย่างใด

ด้านพ.ต.อ.อานนท์ นามประเสริฐ รองผบก. ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ขณะนี้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมส่งฝากขังไว้ที่สถานพินิจแล้ว ส่วนการสอบสวนนั้นอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน แต่แจ้งข้อกล่าวหาแล้วคือ พยายามฆ่า แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะขอรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนอีกครั้ง

ขณะที่นายแพทย์ปฏิบัติการประสาท ศัลยศาสตร์ กล่าวว่า เบื้องต้นที่รับข้อมูลการรักษาที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด มีบาดแผลฉีกขาดที่หน้าอกด้านขวา ไหปลาร้าด้านขวาล่าง ยาวประมาณ 22 เซนติเมตร ลึกไปถึงส่วนของชั้นกล้ามเนื้อ จึงเย็บและให้ยาฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ผลการเอ็กซเรย์ปอด พบว่าปอดฟกช้ำ มีลมรั่วเข้าไปในปอด แต่อาการค่อนข้างดี และอยู่ในความปลอดภัย โดยในวันพรุ่งนี้ก็อาจจะออกจากโรงพยาบาลได้