พ่อเลี้ยงเดนมนุษย์ซ้อมลูก 6 ขวบ ของแข็งแทงทวาร ยายป้องแม่แท้ ๆ ไม่ตี (คลิป)

กรณีเด็กชายวัย 6 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงอายุ 26 ปี ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ลำตัว แผ่นหลัง ช่วงก้น และสะโพก รวมถึงอวัยวะเพศ มีบาดแผลเชียวช้ำจนม่วงไปทั้งตัว ซ้ำยังถูกกักขังให้อยู่แต่ในบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

ล่าสุดวันที่ 15 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จึงได้พบกับนางชุน ชาวบ้านที่อยู่ละเเวกใกล้เคียง เปิดเผยว่า ช่วงกลางคืนวันอาทิตย์ (12 ธ.ค.64) เวลาประมาณ 20.00 น. ตนได้ยืนเสียงเหมือนเด็กถูกทำร้ายร่างกายประมาณ 1 ชั่วโมง เด็กพูดว่า “พอเเล้ว ๆ พอได้เเล้วครับ อย่าทำน้องเลยครับ” ก่อนที่เพื่อนข้างบ้านอีกคนจะวิ่งมาบอกตนว่า หากเด็กถูกทำร้ายแบบนี้ต้องตายเเน่นอน ๆ 

จากนั้นในช่วงเช้าของวันจันทร์ (13 ธ.ค.64) พ่อเลี้ยงของเด็กออกไปทำงานขับรถบรรทุกส่งของ ส่วนเเม่ของเด็กออกไปขายปลาที่ตลาดนัด เวลาประมาณ 14.00 น. เพื่อนบ้านเเละตนจึงไปแอบมองดูที่หน้าบ้านล็อกประตูไว้ พร้อมกับตะโกนถามว่า “น้อง ๆ จะกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่จะซื้อมาให้” น้องฟาฮัดก็ตอบว่า “ป้าครับ ผมเดินไม่ได้ ป้าครับมาช่วยผมด้วย ผมเจ็บ” เเต่น้องไม่ร้องเลยใจเเข็งมาก ๆ 

ทั้งนี้ ตนจึงวิ่งไปหลังบ้าน ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อก เมื่อตนเข้าไปก็เจอกับสภาพของน้องฟาฮัด นอนเปลือยมีผ้าห่มคลุมเอาไว้ ช่วงล่างตั้งเเต่เอวลงไปถึงขา มีรอยเเดงทั้งหมด ส่วนที่บั้นท้ายจะมีรอยเเผล เเละมีพวกยา อุปกรณ์ทำแผลวางไว้ ตอนที่เห็นตนร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ เเทบจะเป็นลมตรงนั้น ส่วนเด็กเมื่อเห็นตนก็ร้องไห้ออกมาทันที 

หลังจากนั้น ตนก็รีบโทรศัพท์ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเเละประสานตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยเหลือเด็ก ก่อนจะนำส่ง รพ.พัทลุง เเละเท่าที่ทราบมาจากการเอกซเรย์ น้องฟาฮัดเคยขาหัก เเละไม่ได้รับการรักษา ตอนนี้กระดูกของน้องกำลังสมานเเล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ พ่อเเม่ของเด็กก็ยังไม่ได้เข้ามาที่บ้านหลังนี้อีกเลย

"แม่ลูกคู่นี้ ย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าประมาณวันที่ 25 พ.ย.64 มาจากจังหวัดพัทลุง เเต่พื้นเพ เป็นชาวนครศรีธรรมราช ตัวพ่อเลี้ยงจะมานาน ๆ ครั้ง เท่าที่เห็นประมาณ 5 ครั้งได้ เเต่เวลามาทีไร น้องฟาฮัดใบหน้าจะเปลี่ยนสี จากที่เคยร่าเริงสดใสเปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัว ระแวง ก็ไม่เเน่ใจว่าพ่อเลี้ยงทำร้ายเด็กหรือไม่ เพราะเวลาพ่อเลี้ยงมาที่บ้านจะปิดประตูบ้านเสมอ ถามว่าเเม่ของเด็กรู้เรื่องด้วยหรือไม่ อาจจะรู้เรื่องเพราะเขาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เเละคืนวันอาทิตย์ เเม่เด็กก็อยู่ในบ้าน" ชาวบ้าน เล่าให้ฟัง 

นอกจากนี้ นางชุน ยังกล่าวด้วยว่า จากที่ตนเคยถามน้องฟาฮัด บอกตนว่ามักจะโดนเเม่ตีด้วยไม้เเขวนเสื้อประจำ พร้อมกับหัวเราะออกมา เเต่เมื่อถามถึงพ่อเลี้ยง น้องจะเลี่ยงไม่ตอบคำถาม เเละไม่พูดชื่อพ่อเลี้ยง ส่วนอีกเรื่องที่ตนเพิ่งเอะใจ ในระหว่างวันที่ 7-8 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา พ่อเลี้ยงของเด็กเข้ามาที่บ้าน เเละเมื่อวันเสาร์ (11 ธ.ค.64) ที่ผ่านมา น้องฟาฮัด มาเล่นน้ำในกะละมังหลังบ้านของตน ตอนนั้นพ่อเเม่น้องไม่อยู่บ้าน ตนก็ถามน้องว่าจะอาบน้ำหรือไม่ น้องตอบว่าไม่อาบ เเละไม่ยอมนั่งเก้าอี้ หรือนั่งลงกับพื้นเลย อาจเป็นไปได้ที่น้องเจ็บบริเวณบั้นท้าย

ส่วนอีกประเด็น คือ เวลาพ่อเลี้ยงคนดังกล่าวมาที่บ้าน ตนมักจะเห็นว่าชอบตนด้วยสายตากรุ้มกริ่มไม่น่าไว้ใจอีกด้วย เท่าที่ตนทราบมาชายคนนี้มีภรรยาอยู่เเล้ว ลูกอีก 2 คน ที่ยังไม่เลิกรากัน เเต่มาคบกับเเม่ของน้องฟาฮัด ตนยอมรับว่าหลังจากเจอเหตุการณ์นี้ รู้สึกหดหู่มาก ๆ ไม่คิดเลยว่าเด็กตัวเล็ก ๆ จะโดนทำร้ายขนาดนี้ ตนรับไม่ได้ เพราะตนก็เป็นเเม่คนเหมือนกัน ตอนนี้ตนยังไม่ได้ไปเยี่ยมน้องฟาฮัด เพราะอยู่ในช่วงงดเยี่ยม ตนอยากฝากบอกน้องฟาฮัดว่า "เป็นห่วงมาก ๆ นะลูก ตอนนี้ป้าช่วยได้เเค่นี้ ขอให้น้องกลับมาเเข็งเเรงไว ๆ นะ" 

ในวันเดียวกัน ทีมข่าวได้ติดต่อโทรศัพท์ไปยัง นางสาวฟา อายุ 20 ปี แม่ของน้องฟาฮัด แต่นางสาวฟา แจ้งว่ายังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ตนกำลังเฝ้าลูกชายอยู่ที่ รพ.พัทลุง รอให้เรื่องทุกอย่างชัดเจนเเล้วจะออกมาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง

ขณะเดียวกัน ที่สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ทีมข่าวได้พบกับนางอุไรวรรณ (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ยายของน้องฟาฮัด เปิดใจว่า ขณะนี้อาการของหลานชายดีขึ้นเเล้ว แพทย์ได้ให้ยาลดอาการเจ็บปวด เเต่สภาพจิตใจของตน ลูกสาว เเละหลานชายยังย่ำเเย่มาก ๆ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ตนยังคงรับไม่ได้ ซี่งเรื่องที่หลานถูกทำร้าย ตนก็เพิ่งมาทราบจากข่าวเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.64)

สำหรับบาดแผลของหลานชาย เเน่นอนว่าต้องมีคนทำร้าย เเต่ตนยังไม่ยืนยันว่าจะใช่พ่อเลี้ยงหรือไม่ เเต่ยืนยันได้ว่าลูกสาวของตนไม่ได้ทำร้ายหลานเเน่นอน ตนไม่ได้เข้าข้างลูกสาว เเต่เท่าที่สังเกตลูกสาวของตนตั้งเเต่คลอดน้องฟาฮัดมา ไม่เคยตีหรือทำร้ายหลานเลย มีเเต่จะตามใจซื้อของเล่นที่หลานอยากได้ให้ทุกอย่าง ตนอยากขอให้สังคมฟังความทั้ง 2 ข้างก่อน อย่าเพิ่งตัดสิน เเละอย่าเพิ่งด่ากัน ไม่มีเเม่คนไหนไม่รักลูก อยากให้เข้าใจเเละเห็นใจครอบครัวของตนด้วย

ทั้งนี้ ลูกสาวของตนเคยคบกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพ่อของน้องฟาฮัด เเต่เลิกรากันไปนานเเล้ว กระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ลูกสาวเจอกับลูกเขยในเฟซบุ๊กเเละมีการคบหาดูใจกันมาตั้งเเต่ตอนนั้น ซึ่งตนเเละลูกสาวตอนเเรกก็ไม่ทราบว่า ผู้ชายคนนี้มีครอบครัวเเล้ว มาทราบภายหลัง เเต่ลูกสาวของตนก็รักเขาไปแล้ว ตนจึงห้ามอะไรไม่ได้ เเละตนก็ไม่ได้รู้จักกับลูกเขยคนนี้เป็นการส่วนตัว เพราะเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด

"การที่หลานถูกทำร้ายขนาดนี้ หนูมองว่าเกินเหตุไป เด็กเล็กไม่ควรถูกตีหรือทำร้ายขนาดนี้ เพราะหนูก็เลี้ยงหลานชายคนนี้มาตั้งเเต่เล็ก ๆ หลานชายไม่ดื้อไม่ซน เลี้ยงง่ายว่าง่าย เรียนเก่ง เป็นเด็กไม่ก้าวร้าว พูดเพราะร่าเริง มีปัญหาอะไรก็จะบอก ซึ่งเมื่อช่วงเดือน พ.ย.64 ที่ผ่านมา ลูกสาวของบอกว่าบ้านที่อยู่คับเเคบ เเละอยากจะย้ายออกไปอยู่ห้องเช่ากับลูกชาย หนูก็โอเคที่จะให้หลานไปอยู่ที่บ้านเช่า" ผู้เป็นยาย กล่าวให้ฟัง 

อย่างไรก็ตาม หลังจากย้ายไปอยู่ที่บ้านเช่าเเล้ว ลูกสาวก็จะพาหลานกลับมาหาตนบ้าง ซึ่งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ลูกสาวพาหลานมาหา ตนก็ยังไม่เห็นร่องรอยบาดแผลอะไรเลย หลานชายก็ไม่เคยพูดอะไรถึงพ่อเลี้ยงว่ามีการทำร้ายร่างกายหรือไม่ เพราะลูกสาวของตนมีเรื่องอะไรก็จะไม่บอกค่อยเล่าให้ตนฟัง ตนจึงอยากขอสังคมว่าด่าอย่าวาลูกของตนให้กระทบกระเทือนจิตใจเลย ตนกลัวว่าลูกสาวจะคิดสั้น เพราะตอนนี้ก็เครียดมากพออยู่เเล้ว ตนไม่อยากให้ลูกสาวคิดมากไปมากกว่านี้ รอให้ความจริงปรากฏออกมาดีกว่า อย่าเพิ่งสรุปว่าลูกสาวของตนเป็นคนทำร้ายหลานชาย