หนุ่มเปิดใจ ถูกสมุนตร. ตี หลังโวยเจอด่านลอย - โรงพักปัดไม่รู้จัก แถมช่วยระงับเหตุ (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นรถ และพยายามขอตรวจปัสสาวะ คนในคลิปจึงถามหาใบอนุญาติตรวจค้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่แสดง ก่อนถูกคนที่มากับเจ้าหน้าที่ทำร้าย พร้อมระบุข้อความว่า ไหนว่าด่านลอยห้ามตั้งทำไมยังเรียกคนยืนฉี่ข้างทางได้ขอดูบัตรปปสก้อไม่มีพอรู้ว่าเรารู้เรื่องกฎหมายบ้างเอาผิดเราไม่ได้ก้อส่งหมาวัยรุ่นรุมทำร้ายเราต่อหน้าตำรวจเเล้วก้อปล่อยไปอ๋อเเบบนี้เองที่เขาเรียกเสือหากินในป่าหมาหากินข้างถนนหมดศรัทธา #หาดูได้ตามเขตสายไหม #แชร์วนไป

วันที่ 9 ธ.ค. 61 จากเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า เจ้าของคลิปเป็นคู่สามีภรรยากัน คือ นายกิตติศักดิ์ สุภาพ หรือนิด อายุ 38 ปี อาชีพช่างก่อสร้าง และนางพเยาว์ สุภาพ หรือมุ้ย อายุ 37 ปี อดีตพนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน กทม. ซึ่งปัจจุบันพักอยู่กับครอบครัวใน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

นายกิตติศักดิ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ (1 ธ.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. พวกตนขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีดำ ขณะที่ขับมาถึงบริเวณโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ก็มีชายสวมเสื้อกั๊กสีดำปักโลโก้คำว่า Police และชายสวมชุดเครื่องแบบตำรวจติดยศร้อยตำรวจเอก ยืนอยู่ริมถนนโบกเรียกให้ตนจอดรถ เพื่อขอตรวจค้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นชายทั้ง 2 ได้ให้ตนตรวจปัสสาวะ โดยมีเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบอีก 2 นาย นำซองพลาสติกเล็ก ๆ มาให้ เพื่อตนปัสสาวะใส่ลงไปเพื่อทดสอบหาสารเสพติด ตนรู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวอาจไม่ถูกต้อง จึงขอดูบัตร ปปส. ของเจ้าหน้าที่ แต่กลับถูกข่มขู่ หลังจากโต้เถียงกันได้ไม่นาน ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ริมถนน ก็มีชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาจอด คนหนึ่ง เป็นวัยรุ่น ลักษณะรูปร่างสูงใหญ่ ผมสั้นรองทรง สวมเสื้อสีขาว กางเกงสามส่วนสีน้ำเงิน เดินอ้อมมาทางด้านหลัง แล้วเข้าทำร้ายตน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนวิ่งหลบหนีไปได้ประมาณ 50 เมตร ก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ทั้งเตะและกระทืบ ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะแตก แขนและขาทั้ง 2 ข้าง มีแผลถลอก กระทั่งกลุ่มวัยรุ่นหยุดทำร้าย และเดินผ่านหน้าตำรวจ ไปที่รถจักรยานยนต์ แล้วขี่ออกไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้คุมตัวกลุ่มวัยรุ่นไว้แต่อย่างใด ซ้ำยังต่อว่าอีกว่าพวกตนก่อความวุ่นวาย ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ก่อนจะปล่อยตัวให้เดินทางกลับเพื่อมาทำแผลที่ถูกทำร้ายที่ห้องพัก

นายกิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ ในวันรุ่งขึ้นก็ได้เดินทางกลับบ้านที่ จ.ราชบุรี โดยไม่ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม และที่สำคัญคือ กลัวไม่ปลอดภัย เนื่องจากถูกข่มขู่ว่า อย่ามาวุ่นวาย เด็กแถวนี้มันฆ่าเอาง่าย ๆ นะ

ต่อมา ทีมข่าวเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณซอยคลองถนน หลังกองทัพอากาศดอนเมือง เขตสายไหม กทม. จุดเกิดเหตุเป็นถนน 2 เลนสวนทางกัน ซึ่งจุดตั้งด่าน เป็นช่วงที่ถนนมีเว้าสำหรับจอดรถข้างทางได้ ยาวประมาณ 200 เมตร

จากนั้น นางสะอาด (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า วันเกิดเหตุ (1 ธ.ค. 61) ตนอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงคนวิ่งไล่กันมา พร้อมได้ยินคนพูดว่า "จับเลย"  ตนจึงเดินออกมาดู พบ ผู้เสียหาย (นายกิตติศักดิ์) วิ่งมือคว้าถูกถังขยะหน้าบ้านตนกระเด็น ก่อนจะข้ามถนนและล้มลง จากนั้นมีเด็กวัยรุ่น ลักษณะคล้าย จิตอาสา คอยโบกรถให้ด่าน วิ่งเข้ามาจับชายที่ล้มและชกผู้เสียหาย จากนั้นมีอีกคนที่วิ่งตามมา และเข้ามารุมชก พร้อมกับกระทืบผู้เสียหายด้วยเช่นกัน ตนเห็นผู้เสียหายนอนใช้แขนทั้ง 2 ข้าง กุมศีรษะไว้ เนื่องจากถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมกระทืบไม่ยั้ง ตนจึงตะโกนลงมาจากบ้าน บอกว่า “ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ เขาทำอะไรผิด มียาเสพติดหรือ” จากนั้นหันไปเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สวมเครื่องแบบ ตนจึงตะโกนถามไปอีกว่า "ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ ผู้เสียหายไปปล้น หรือจี้ใครมา ถึงทำกันขนาดนี้" แต่ก็ไม่มีใครตอบอะไร

จากนั้น ตำรวจที่สวมเครื่องแบบก็เรียกพวกที่รุมกระทืบให้เดินกลับไป ไม่นานนักแฟนของผู้บาดเจ็บ (นางพเยาว์) เดินมา ตนจึงสอบถามว่ามียาเสพติดหรือไม่ ผู้หญิงก็ยืนยันว่าไม่มี และไม่รู้เรื่องว่าเหตุใดจึงมีการทำร้ายร่างกายกันเช่นนี้ ต่อมา คนเจ็บเดินหลบไปนั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ สภาพเลือดอาบใบหน้า และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินนำน้ำมาให้ 1 ขวด กับผ้าเช็ดหน้า 1 ผืน ให้เช็ดเลือดออก ตนจึงตะโกนไปบอกคู่ผัวเมียว่า "ไม่ต้องเช็ด ให้ถ่ายคลิป ถ่ายรูปเอาไว้ ให้คนเข้ารู้บ้างว่าเจ้าหน้าที่ สน.สายไหมมีพฤติกรรมแบบนี้" นางสะอาด กล่าวต่อว่า ตนไม่รู้ว่าวัยรุ่นที่กระทืบเป็นพวกของเจ้าหน้าที่หรือไม่ แต่ตนเห็นว่า เจ้าหน้าที่สามารถสั่งให้กลุ่มคนดังกล่าวเดินกลับไปได้ และไม่เห็นตำรวจเข้ามาช่วยประชาชนที่บาดเจ็บแม้แต่น้อย ตนจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เหตุใดจึงเกิดการทำร้ายร่างกายทั้งที่มีตำรวจอยู่ด้วย ซึ่ง ตนมองว่าการกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสม อีกทั้ง ตนเคยเห็นพฤติกรรมในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่มักจะมาตั้งด่านช่วงวันเสาร์หรืออาทิตย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสวมชุดเครื่องแบบ 3 คน คนสวมเสื้อกั๊ก Police 5 - 6 คน และมีอาสาเป็นวัยรุ่นอีก 2 คน

ด้าน พ.ต.ท.สุวรรณ บุญแสง สารวัตรปราบปราม สน.สายไหม ให้ข้อมูลว่า การตั้งด่านลักษณะนี้ ไม่ใช่ด่านลอย แต่เป็นการตั้งจุดสกัด ว.43 ซึ่งเป็นการตั้งจุดสกัดยาเสพติด อาวุธ ตามแผนของเจ้าหน้าที่ โดยจะอยู่จุดหนึ่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนเคลื่อนที่ไปจุดอื่น ซึ่งต่างจากด่านตามปกติ ส่วนเรื่องที่ไม่ได้ตั้งกรวยหรือป้ายนั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวถนนเล็กและแคบ หากตั้งสิ่งกีดขวางเพิ่มอีก ก็อาจจะจะกีดขวางการจราจรได้ อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของ สน.สายไหม ก่อนหน้านี้ตนได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่ทราบว่า มีการปฏิเสธการขอตรวจปัสสาวะ จากนั้นมีวัยรุ่นเข้ามาทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่เห็นจึงเข้าไประงับเหตุ และยืนยันว่า วัยรุ่นที่ปรากฎในคลิปไม่ใช่พวกเดียวกับเจ้าหน้าที่ เพียงแต่อาสาช่วยทำงานเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีคำสั่งห้ามให้มีอาสาในชุดทำงานแล้ว นอกจากนี้ หากผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ สามารถเข้าแจ้งความกรณีทำร้ายร่างกายได้ที่ สน.สายไหม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการหาคนผิดมาลงโทษต่อไป