กรณีพี่ชายของนายฟ้า ผู้เสียหาย ร้องสื่อว่าน้องชายถูกนายจ้างขายอุปกรณ์การเกษตร ทุบตีจนมีบาดแผลตามใบหน้า และร่างกาย อวัยะเพศฉีกขาด บังคับให้กินปัสสาวะ และอุจจาระสุนัข ล่าสุด นพ.สุรินท์นาท เจริญจิตต์ ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้าง รพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางดับเบิ้ลยู ยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องของการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าฟรี บอกว่าจะทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาสูสีกับใบหน้าของคนปกติทั่วไป 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้งใบหู ปาก และคิ้วนั้น
วันที่ 12 ธ.ค. 64 ทีมข่าวยังได้ย้อนเส้นทางการหลบหนีครั้งแรกของนายฟ้า เป็นการหลบหนีเมื่อช่วงต้นปี 2564 เดือนมกราคม ตอนนั้นนายฟ้าตัดสินใจหนีออกจากบ้านของเจ๊กั้ง อ้างว่าน้อยใจคนในบ้านจึงหนีออกไปอยู่ที่อื่น ครั้งนั้นได้เดินออกจากบ้านในพื้นที่อำเภออินทร์บุรี มายังพื้นที่อำเภอเมืองสิงห์บุรี และพักอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลกระบือ ก่อนที่เจ๊และนายอ้วนจะตามเจอ แล้วพากลับไปอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ
ที่วัดน้อยเจริญธรรม วัดดังกล่าวมีภาพนิ่งนายฟ้าใสเสื้อสีชมพู ลักษณะตัวเปื้อน ใส่หน้ากากอนามัยสีดำ สภาพหน้าตาค่อนข้างสมบูรณ์ปกติ มีเพียงลักษณะอาการปากบวมด้านล่างเล็กน้อย ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนริมฝีปากล่างใหญ่เพราะเกิดจากก้อนซี๊ด แต่ไม่ได้มีร่องรอยของการถูกทำร้ายมากนัก
นางเดือนเพ็ญ (นามสมมติ) อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่เจอกับนายฟ้า เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 8 พ.ย. ตนเองขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเห็นผู้ชายลักษณะไม่ใช่คนในหมู่บ้านใส่เสื้อสีแดง นอนอยู่ที่ศาลาหน้าหมู่บ้าน จึงได้มีการแจ้งให้กับผู้ใหญ่บ้านประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ มีลักษณะหน้าตาปูดบวม
โดยตัวของนายฟ้าบอกกับเจ้าหน้าที่ว่ากำลังจะเดินทางกลับบ้านในจังหวัดลพบุรี โดยจะไปขึ้นรถที่ บขส. แต่ก็ไม่บอกเหตุผลว่ามาจากไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสานไปยังโรงพักพื้นที่ละแวกใกล้เคียงเกี่ยวกับค้นหา จนกระทั่งมีการแจ้งไปยังเจ๊กั้ง ซึ่งหลังจากที่เจ๊รู้ว่ามีการเจอตัวนายฟ้าแล้ว จึงได้มีการส่งให้นายอ้วนคนสนิท ไปรับตัวจุดที่ตำรวจสายตรวจเจอ
แม่ชีพัชรา แม่ชีประจำวัดน้อยเจริญธรรม พาทีมข่าวไปดูห้องน้ำซึ่งอยู่ริมรั้วของวัด เป็นลักษณะห้องน้ำสาธารณะ 5 ห้อง เป็นห้องที่นายฟ้าพักอาศัยอยู่ระหว่างที่หนีออกจากบ้านมานอนซ่อนตัวอยู่ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าของต้นมกราคม นายฟ้าได้ถือหมอนสีขาวหนึ่งใบ กอดเอาไว้ที่อก เดินเข้ามาขอความช่วยเหลือที่วัด ให้เหตุผลว่าเกิดจากความน้อยใจคนในบ้าน จึงหนีออกมาขอพักชั่วคราวที่วัด
ตอนนั้นเป็นช่วงที่อากาศหนาวจึงได้เอาผ้าห่มให้ 1 ผืน จากนั้นเจ้าตัวก็ได้ช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดวัด แลกกับข้าวก้นบาตร หลังจากนั้นก็เห็นว่านายฟ้าเดินเงียบหายไป คิดว่าเดินทางกลับบ้านไปแล้ว จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นหมาเห่าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ จึงให้เด็กวัดและชาวบ้านไปดู จึงทราบว่าตัวของนายฟ้าไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปนอนค้างอยู่ในห้องน้ำทั้งคืน
หลังจากนั้น จึงได้มีการประสานไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ตามหาผู้ปกครองของนายฟ้า จนกระทั่งช่วงสายของวันดังกล่าว มีคนในครอบครัวอ้างว่าเป็นญาติ โดยมีเจ๊กั้งและนายอ้วนขับรถกระบะสีดำมารับตัวที่วัด บอกว่าเป็นญาติที่ประกาศตามหาจึงเดินทางมารับตัวกลับบ้าน ซึ่งท่าทีของนายฟ้าในวันนั้นไม่ได้มีการขัดขืน มีเพียงแค่บอกว่ายังน้อยใจอยู่ สุดท้ายเจ๊และนายอ้วนก็มีการเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งขึ้นรถออกไปด้วย
ถัดมาเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีสายโทรศัพท์จากเจ๊โทรมาหาตนเองอีกครั้ง โทรมาสอบถามว่า "เจอเบาะแสของนายฟ้ามาพักอาศัยอยู่ที่วัดบ้างหรือไม่ เพราะหนีออกจากบ้านอีกแล้ว" แต่การหนีออกจากบ้านครั้งนี้ตัวของนายฟ้าไม่ได้มาอาศัยอยู่ที่วัด โดยย้อนกลับไปเมื่อต้นปีเห็นสภาพของนายฟ้า เหมือนมีรอยช้ำเขียวเล็กน้อย หน้าตาปูดบวมไม่มาก
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายอ้วน หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายฟ้า โดยพบว่าบ้านของนายอ้วนหลังจากทราบว่ามีทีมข่าวเดินทางมาติดตามความคืบหน้า ก็ได้เดินกลับเข้าไปในบ้าน พร้อมกับบอกสั้น ๆ ว่า "ไม่มีอะไรพูดแล้ว" อาของนายอ้วนยระบุว่าจะไม่มีการประกันตัว ให้เป็นไปตามขั้นตอนขอวงกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับแล้วเจ๊กั้งนายโหดท่อแป๊บฟาดจู๋เน่า โต้แผลเหวอะหมาขย้ำ ยันแค่ขู่กินขี้ (คลิป)
- หลักฐานมัด! แก๊งเจ๊กั้งทืบ "ฟ้า" สลบคาเท้า แฉน้องถูกจับล่ามน้ำสาดห้ามคนช่วย (คลิป)
- อำมหิต! ลูกจ้างถูกแป๊บตีไข่เน่าตัวเหวอะ เจ๊ลั่นทุบจู๋โด่ใส่หน้า อู้เลี้ยงหมา 30 ตัว (คลิป)
