ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายงัดร้านสำเพ็งหาดใหญ่ ซึ่งเป็นร้านขายส่งสินค้าราคาถูก และสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไปรายใหญ่ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หมู่ 1 ถ.สายเอเชีย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเจาะตู้เซฟได้ทรัพย์สินมีค่าและเงินสดไปเกือบ 10 ล้านบาท เหตุเกิดเหตุเมื่อเที่ยงคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.พิชัย กิระวานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าและสรุปภาพรวมของคดีจากชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และวางแนวทางการสืบสวนเร่งรัดให้มีการติดตามจับกุมคนร้ายโดยเร็วที่สุด
เบื้องต้น พบว่าคนร้ายงัดแผ่นเมทัลชีทเข้ามาเมื่อเวลา 23.42 น. และออกไปในเวลา 00.52 น. ใช้เวลาลงมือก่อเหตุราว 2 ชั่วโมง และเตรียมการมาเป็นอย่างดี พรางตัวมิดชิดใส่ถุงมือ ตัดกระแสไฟฟ้า และเอาเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิดไป 2 ตัว เหลืออยู่ในร้านแค่ 1 ตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักฐานที่พอจะเห็นพฤติการณ์ของคนร้ายขณะลงมือโดยมากัน 5 คน เจ้าหน้าที่กำลังไล่แกะรอยกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่สงสัยว่าคนร้ายจะเข้ามาและขับรถออกไป
ด้านตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ร้านสำเพ็งหาดใหญ่ บริเวณหลังร้านที่คนร้ายตัดแผ่นเมทัลชีทเข้ามา เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมและดูเส้นทางการเข้าออกและหลบของคนร้ายเพื่อแกะรอยตามจับกุม
นางสาวจิราพร คุณนาม หรือ เจ๊ปลา อายุ 40 ปี และนายวิชิต ชุนหสุนทร อายุ 47 ปี หรือ เฮียเอ๋ เจ้าของร้าน ซึ่งในวันนี้ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม เปิดเผยว่า ตนทราบเหตุตอน 8 โมงเช้าของวันที่ 12 ธันวาคม มีพนักงานโทรศัพท์มาบอกว่าร้านและสำนักงานโดนงัด ซึ่งตัวเลขทรัพย์สินที่หายไปที่ชัดเจนตอนนี้ประมาณ 6 ล้านบาท ยังมีทรัพย์สินอีกบางส่วนที่ยังจำได้ไม่หมด เบ็ดเสร็จก็เกือบ 10 ล้านบาท เฉพาะเงินสดประมาณ 1 แสนบาท และมีปืนด้วย 1 กระบอก ส่วนสินค้าในร้านคนร้ายไม่ได้เอาไปแม้แต่ชิ้นเดียว มุ่งตรงไปที่ตู้เซฟอย่างเดียว
ตอนนี้มีคนต้องสงสัยในใจแล้ว 2-3 คน และเชื่อว่าเกลือเป็นหนอนมีคนในแจ้งความเคลื่อนในร้านให้โจรรู้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นฝีมือของอดีตพนักงานหรือช่างที่เข้ามาซ่อมแอร์ซ่อมไฟ เพราะตู้เซฟจะวางไว้ในออฟฟิศมิดชิด และใช้ผ้าคลุมไว้ ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นและวางไว้แบบนี้มา 5 ปีแล้ว ปกติที่ร้านจะมีหลานชายมานอนเฝ้าบ้าง แต่ในคืนเกิดเหตุไม่ได้มา จึงเชื่อน่าจะมีการรายงานความเคลื่อนไหวในร้านให้โจรรู้ ปกติที่ร้านก็จะมีพนักงานเข้าออกตลอดตอนนี้ก็มีอยู่ราว 30 คน ตนอยากฝากไปยังโจร ให้มามอบตัว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา เพราะมั่นใจว่าตำรวจจับกุมได้แน่
หลังจากนี้จะหาวิธีป้องกันโจรมากขึ้น ทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม และติดตั้งสัญญาณกันขโมย และจะไม่เก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในร้านอีกแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ร้านก็โดนขโมยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้ทรัพย์สินไปไม่มาก
นางสาวเสาวลักษณ์ ศรีเจริญ หรือ กุ้ง อายุ 44 ปี พนักงานขายของภายในร้าน เปิดเผยว่า ตนเองทำงานที่ร้านสำเพ็งหาดใหญ่มา 5 ปีเเล้ว ไม่เคยเกิดเจอเหตุการณ์โจรงัดตู้เซฟหรือโจรขโมยของในลักษณะแบบนี้มาก่อน ส่วนเหตุการณ์เมื่อวาน ช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.30 น. ตนมาสแกนนิ้วเข้างาน ก่อนที่เพื่อนพนักงานด้วยกันจะบอกว่าตู้เซฟของเถ้าแก่โดนงัด ตอนนั้นตนก็ตกใจพอสมควร
ซึ่งคนที่เจอว่าตู้ถูกงัดคนเเรกเป็นเลขาของเจ้าของร้าน ที่เดินมาเอาเอกสารภายในออฟฟิศ ก่อนจะโทรเเจ้งเถ้าแก่ให้ทราบ ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ร้านกลับมาเปิดขายของตามปกติ เเละช่วงเย็นของเมื่อวานก็ได้มีการนำเเผ่นสังกะสีมาซ่อมปิดทับส่วนของสังกะสีที่ถูกคนร้ายตัดออกไป เท่าที่ตนทราบมา คนร้ายมีการตัดแผ่นสังกะสีบริเวณด้านหลังร้าน ก่อนจะปีนบันไดเข้ามาภายในร้าน เเละเดินไปงัดประตูออฟฟิศที่อยู่หน้าร้านที่มีตู้เซฟอยู่ เอาทรัพย์สินมีค่าของเจ้าของร้านไปหมดตู้ ซึ่งตอนเช้าที่มาที่ร้าน ตนยังคงมองเห็นร่องรอยคราบดินเลอะเต็มพื้นที่บริเวณร้าน และภายในออฟฟิศที่มีตู้เซฟ
ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีพนักงานลาออกไปบ้าง ซึ่งเป็นการลาออกเอง ส่วนใหญ่จะลาออกไปดูแลพ่อเเม่ ดูแลครอบครัว เเละตนยืนยันได้ว่าไม่มีพนักงานคนใดที่ออกไปทะเลาะกับเจ้าของร้าน หรือเเม้กระทั่งทะเลาะกับพนักงานด้วยกันเอง ตอนนี้ตนยังไม่มีผู้ต้องสงสัยในใจ เเละไม่คิดว่าพนักงานที่ยังทำงานอยู่ในร้านจะมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ส่วนเรื่องตู้เซฟในห้องทำงานของเจ้าของร้าน พนักงานเเทบทุกคนประมาณ 30 คนรู้หมดว่าตู้เซฟตั้งไว้ตรงจุดไหน เพราะต้องมีการเดินเข้าเดินออกภายในออฟฟิศเพื่อส่งเอกสารเป็นประจำ เเต่ไม่มีใครทราบรหัสตู้เซฟ นอกจากเถ้าแก่เเละเจ๊เจ้าของร้าน
