จากกรณีเหตุการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต บนถนนซอย 2 ชุมชนชายทะเล ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนที่จะรุดเข้าไปที่จุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายวันลี แดงทับ อายุ 66 ปี นั่งพิงกำแพงบ้านเสียชีวิตอยู่ริมถนนภายในซอยบ้าน
เบื้องต้นพบว่าถูกของมีคมแทงที่ใต้ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจ เป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายเพียร อัมพร อายุ 70 ปี อาชีพก่อสร้าง ซึ่งทั้งคู่เองเป็นเพื่อนบ้านกัน ห่างไม่ถึง 10 เมตร
ล่าสุด วันที่ 13 ธ.ค. 64 ทีมข่าวได้ลงไปพื้นที่จุดเกิดเหตุ ตำรวจนำตัวนายเพียร ผู้ก่อเหตุลงพื้นที่แผนประกอบรับคำสารภาพ โดยทางนายเพียรได้มีการชี้จุดในส่วนของบริเวณจุดที่แทงนายวันลี ซึ่งเป็นบริเวณหน้าบ้าน รวมไปถึงจุดที่ทางผู้ก่อเหตุระบุว่าเป็นปมชนวนในเรื่องของการแย่งที่จอดรถกัน
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองใช้เวลาในการทำแผนเพียง 20 นาที เนื่องจากตลอดระยะเวลาทำแผนนั้น ทางนางวันลี ภรรยาของผู้เสียชีวิตออกมาตะโกนพร้อมร้องไห้ประมาณว่า "โหดเหี้ยมเกินมนุษย์แล้ว ฟันไม่พอยังไปแทงเขาอีก เขาวิ่งหนีตายมาหากู แต่มึงตามไปฆ่าเขา มึงไปฆ่าเขาทำไม" ก่อนที่ทางเพื่อนบ้านจะเข้ามาช่วยระงับสติอารมณ์ และนำตัวไปพักภายในบ้าน
นายเพียร ผู้ต้องหา เปิดใจว่า ตนยอมรับสารภาพ สาเหตุที่ลงมือฆ่านั้นมาจากที่ตนกับทางผู้ตายทะเลาะกันมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้ โดยฟางเว้นสุดท้ายที่ลงมือทำ เพราะว่าทางผู้ตายไม่ให้ตนจอดรถในพื้นที่บ้านของเขา เขาบอกว่าไม่ให้ตนจอด ให้เอารถไปจอดที่อื่น เพราะมันคือที่ของเขา
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองได้มีการตั้งข้อหากระทำโดยเจตนาให้ผู้อื่นถูกฆ่าถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำตัวฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้
นางคำกอง ฉิมพาลี อายุ 63 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณ 7 โมงเช้า สามีกำลังจะจัดของเพื่อไปทำสวน ต่อมาตนเองเลยเดินไปซื้อของให้สามีที่ร้านขายของช่ำในบริเวณใกล้เคียง ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร โดยทางผู้ตายเองพอออกมาหน้าบ้านก็เห็นว่ารถ 3 ล้อของผู้ก่อเหตุมาจอดไว้ในบริเวณพื้นที่ของบ้านตน ลักษณะกีดขวาง ด้วยความเมาประกอบกับค่อนข้างโมโห ทางผู้ตายเลยตัดสินใจเดินไปหาบ้านผู้ก่อเหตุเพื่อให้เลื่อนรถ และถามว่า "ทำไมต้องนำรถมาจอดในพื้นที่บ้านของตน" หลังจากนั้นทั้งคู่มีปากเสียงกัน ก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธแทงเข้าไปบริเวณราวนมด้านซ้าย ขณะที่ทางผู้ตายเองก็พยายามจะวิ่งไปหาตนที่ร้านขายของชำ แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ฟุบล้มลงหมดลมหายใจในจุดเกิดเหตุ
ที่ผ่านมา ทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุเองสนิมกัน ถึงขั้นที่นั่งดื่มเหล้าด้วยกันเกือบทุกวัน ไม่คิดว่าจะถึงขั้นฆ่ากันตายได้ ขณะที่ในลักษณะนิสัยทางผู้ก่อเหตุเองมักจะเป็นคนปากร้าย ชอบบ่น ชอบพูดเหน็บแนม ขณะที่ทางผู้ตายเองก็จะเป็นคนหัวร้อน ไม่ยอมคน ซึ่งทั้งคู่เองมักมีปากเสียงกันบ่อยครั้งทุกครั้งที่กินเหล้า ยืนยันว่าปมปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องของที่จอดรถ ไม่มีปัญหาอื่นแน่นอน และทั้งคู่เพิ่งจะมีปากเสียงกันได้ไม่นาน
ด้านนางสาวนิดหน่อย (นามสมมติ) ลูกสาวคนก่อเหตุ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์จังหวะที่พ่อของตนก่อเหตุ จะได้ยินแค่เสียงจะโกนประมาณว่า "มึงเก่งนักเหรอ" ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าเป็นการตะโกนด่ากันทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เลยไม่ได้ออกมาดู มาทราบอีกทีก็ข่วงที่ตำรวจเข้ามาที่บ้านและจับกุมพ่อของตนไป
ยก่อนหน้าจะเกิดเหตุ 1 วัน ช่วงประมาณ 7 โมงเช้าของเมื่อวาน ตนยังเห็นว่าทางพ่อของตนกับทางผู้เสียชีวิตเองยังคงตั้งวงกินเหล้ากันตามปกติ ไม่ได้มีท่าทีจะขัดคอ หรือมีเรื่องราวมีปากเสียงชวนให้ทะเลาะกันแต่อย่างใด อีกทั้งที่ผ่านมาทางพ่อของตนหรือคนก่อเหตุเองไม่เคยทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียวกับคนตาย ทั้งคู่ดูสนิทกันจนไม่คิดว่าพ่อของจะมาก่อเหตุครั้งนี้ได้ ปมปัญหาตอนนี้ทางครอบครัวเองก็นังไม่ทราบว่าเรื่องราวทั้งหมด ส่วนหนึ่งยอมรับว่าทั้งคู่เมากันจริง
