เปิดเบื้องหลังด.ต.ถูกคนร้ายฆ่า ที่แท้ช่วยบัดดี้ เมียมือยิงเครียดคนด่าเป็นต้นเหตุ (คลิป)

กรณีด.ต.อุดม แถมมี ผบ.หมู่ สืบสวน สภ.ชะอำ อายุ 49 ปี ถูกยิงเสียชีวิต หลังเข้าระงับเหตุผัวเมียทะเลาะกัน บริเวณหน้าบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ม.1 บ้านห้วยหิน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยสภาพศพมีบาดแผลถูกยิงบริเวณคางทะลุท้ายทอย พลเมืองดีนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลชะอำ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ นายวิชัย ทวีเดช อายุ 26 ปี ชาว ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ถูกยิงเข้าหน้าอกทะลุปอดอาการสาหัส พลเมืองดีนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลชะอำ สาเหตุเบื้องต้นภรรยาของนายวิชัย ได้โทรแจ้งตำรวจว่า สามีเกิดอาการคลั่งจากยาเสพติด ต่อมา ด.ต.อุดม เดินทางเข้าไประงับเหตุ จนเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยง ผู้ก่อเหตุได้ยิง ด.ต.อุดม ส่วนนายวิชัย ก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส

ล่าสุดวันที่ 12 ธ.ค.64 เวลา 14.00 น. ญาติ ๆ ของด.ต.อุดม ได้เคลื่อนร่างของผู้เสียชีวิตออกจากห้องเย็นที่วัดชะอำ ส่งให้กู้ภัยนำร่างไปผ่าชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งมีภรรยาและลูกชายของด.ต.อุดม มาร่วมส่งร่างขึ้นรถกู้ภัย

ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.กิตติมา อายุ 45 ปี (สงวนนามสกุล) อดีตภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.64) ตนรู้ข่าวว่าสามีถูกยิง เวลาประมาณ 13.00 น. ตอนนั้นตนตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ก็เลยให้น้องชายขับรถไปดูที่โรงพยาบาล ปรากฎว่า สามีก็เสียชีวิตแล้ว พอลูกชายกับลูกสาวรู้ข่าวก็พากันร้องไห้ไม่หยุด ส่วนตัวไม่ค่อยได้เจอกับสามี เพราะว่าได้หย่ากันนานแล้ว จะโทรคุยกันเรื่องลูกเท่านั้น ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน 2 วันก่อนจะเกิดเหตุ สามีพูดแค่ว่า "มีอะไรให้บอกนะ" แล้วก็แยกกันไป ตนยอมรับว่าสามีรักในอาชีพตำรวจและเป็นคนที่บ้างานมาก ๆ ตนไม่คิดว่าจะได้เจอกันเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากนี้ ตนก็คงจะช่วยจัดงานศพสามีอย่างสมเกียรติ เรื่องสิทธิ์ประโยชน์ที่ครอบครัวจะได้รับ ผู้บังคับบัญชาของสามีได้ติดต่อมาแล้ว ส่วนตัวขออโหสิกรรมให้กับนายวิชัย เพราะเมื่อออกจากโรงพยาบาลก็ต้องไปชดใช้กรรมในคุก ทั้งนี้ ศพของอดีตสามี จะตั้งสวดอภิธรรมจำนวน 7 วัน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 19 ธ.ค.64

เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บังบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมด้วยผู้การจังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เมื่อเดินทางมาถึงก็ได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องเช่าที่เกิดเหตุ โดยให้สื่อมวลชนที่มารอทำข่าว เก็บภาพได้แต่ด้านนอกเท่านั้น

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบกับ น.ส.สุจิตรา น้อยสนิท อายุ 20 ปี ภรรยาของนายวิชัย เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มต้นมาจากตนทะเลาะกับนายวิชัย 2 วันติดกัน ในคืนวันที่ 9 - 10 ธ.ค.64 ซึ่งคืนวันที่ 9 นายวิชัย เมาเหล้าและเสพยาบ้าหนักมาก เมาจนหลอนคิดว่าตนไปมีคนอื่น จึงต้องแอบโทรไปแจ้งตำรวจไว้ พอนายวิชัยรู้ว่าตนแจ้งตำรวจ ก็พยายามนำปืนมาจ่อหัวตนและยายที่อยู่ข้างห้อง บอกว่าหากแจ้งตำรวจจะยิงให้ตายทั้งหมด กระทั่งมีตำรวจสายตรวจเข้ามาระงับเหตุ แล้วตนก็เดินทางกลับไปอยู่บ้านแม่

ส่วนวันที่ 10 ธ.ค64 นายวิชัย ก็ตามมารังควานที่บ้านแม่ของตนอีก ตื๊อให้ตนกลับไปที่ห้องเช่า แล้วก็พยายามชักปืนขู่ แต่พี่ชายมาห้ามไว้ทัน จนตำรวจสายตรวจมา นายวิชัยถึงยอมขับรถกลับไปที่ห้องเช่า กระทั่งวันเกิดเหตุ ช่วงเวลา 11.00 น. ตนเห็นท่าไม่ดี คิดว่าหากปล่อยให้นายวิชัย ทำแบบนี้ต่อไป ตนต้องถูกนายวิชัยฆ่าตายแน่ ก็เลยเดินทางไปแจ้งตำรวจที่ สภ.ชะอำ ตอนไปแจ้งความหนึ่งในชุดสืบบอกว่า "เดี๋ยวจะเข้าไปจัดการให้นะ แต่คงจะเข้าไปตรวจยึดเรื่องอาวุธปืนก่อน เรื่องทะเลาะข่มขู่กันเอาไว้เคลียร์กันที่โรงพัก" หลังจากนั้นตนก็กลับมาถึงบ้าน ตำรวจก็โทรมาบอกว่าชุดตำรวจที่เข้าไปจับปืนนายวันชัย ยิงปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ตนรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่านายวันชัย จะกล้ายิงตำรวจ

ส่วนปืนของนายวิชัย ที่ใช้ก่อเหตุซื้อต่อมาจากเพื่อนร่วมงานเมื่อกลางเดือนพ.ย.64 ที่ผ่านมา ในราคา 20,000 บาท อย่างไรก็ตาม ที่สังคมโจมตีว่าตนเป็นต้นเรื่องทำให้ตำรวจตาย ก็ขอบอกตรงนี้ว่า ตนใช้สิทธิ์ในการแจ้งตำรวจอย่างถูกต้อง ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ หากตนไม่ไปแจ้งความ วันต่อไปนายวิชัย อาจจะมาก่อเหตุยิงตนกับครอบครัวก็ได้

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจทุกนายเปรียบเสมือนครอบครัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความดีความชอบปูนบำเหน็จชั้นยศ และดูแลเรื่องสิทธิ์ประโยชน์ของครอบครัวที่จะได้รับ เบื้องต้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบเงินจำนวน 500,000 บาท ส่วนเรื่องศพหลังจากชันสูตรเสร็จก็จะทำพิธีรดน้ำหลวงอาบศพ ในวันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.64) และจัดพิธีสวดอภิธรรมอย่างสมเกียรติ

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตำรวจก็คงจะกลับไปประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อจะถอดบทเรียนให้เป็นตัวอย่างในเหตุการณ์ต่อไป หลังจากนี้ก็คงต้องสอบสวนนายตำรวจทั้ง 3 คนที่ไปกับดาบอุดมว่ารู้หรือไม่ว่าคนร้ายมีอาวุธปืน ทั้งนี้ ตำรวจก็ต้องน้อมรับกับการสูญเสียในครั้งนี้ และจะกลับไปปรับปรุงแก้ไขยุทธวิธีในการเข้าจับกุมคนร้าย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก สำหรับนายวิชัย ทวีเดช อายุ 26 ปี เป็นคนจังหวัดเพชรบุรีโดยกำเนิด เคยมีคดีก่อเหตุ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2555 ในพื้นที่ สภ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และพ้นโทษออกมาเมื่อปลายปี 2557