ผัวหลอนยาระแวงเมียคบชู้ ท้าสาบานยิงต่อหน้าพระ ญาติแฉซ้อมลูก 4 ขวบก็ไม่เว้น (คลิป)

10 ธ.ค. 64

จากกรณีเหตุการณเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 20.30 น. สามีทราบชื่อนายสมศักดิ์ จันทร์เผือก อายุ 35 ปี ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด 380 จำนวน 1 กระบอก ยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยและโหนกแก้มของ นางกนกพร ชมชื่น อายุ 29 ปี ภรรยา จนได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือด

652633

และได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเข้าที่บริเวณท้ายทอย 1 นัด แต่เนื่องจากวิถีกระสุนเฉียด ทำให้ลูกกระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ ผู้ก่อเหตุมีเพียงแค่เลือดไหลออกมา จากนั้นก็ใช้อาวุธปืนยิงบริเวณกำแพงบ้านไปหลายนัด

881133

ล่าสุด วันที่ 10 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้คลิปสำคัญเป็นเหตุการณ์วินาทีก่อนที่นายสมศักดิ์จะก่อเหตุคว้าปืนยิงเมียต่อหน้าลูกน้อยและหลาน คลิปเหตุการณ์นี้หลานสาวที่มาช่วยเลี้ยงลูกของทั้งคู่ถ่ายคลิปไว้ได้ พบว่านายสมศักดิ์ถือปืนยืนคุยกับนางกนกพร ที่กำลังอุ้มลูกชายคนเล็กอยู่ด้วย ลูกก็ร้องไห้ เมื่อเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันเสียงดัง

836145685817

จากนั้น ก็พากันไปจุดธูป 1 ดอก แล้วก็ท่อง "นะโม ตัสสะ" สั่งให้เมียพูดตาม ซึ่งระหว่างนั้นทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันสลับกับการเอ่ยปากสาบาน โดยนางสาวกนกพรเอ่ยปากสาบานว่า "ถ้ากูมีคนอื่นขอให้กูตายภายใน 3 วัน 7 วัน แต่ถ้ากูไม่ได้มีใคร ขอให้คนที่สาปแช่งกูได้รับผลกรรม ติดคุกไปเลย ตายไปไม่ดีพ่อ คนแบบนี้ มันต้องอยู่ในตาราง" แล้วนายสมศักดิ์เริ่มหน้าเสีย สั่งให้เมียพูดตามตน บอกว่าเมียไม่ตั้งใจสาบาน ซึ่งขณะนั้นลูกทั้ง 2 คนยังเดินวนไปวนมาอยู่ และลูกสาวคนโตก็เข้าไปกอดนางสาวกนกพรด้วย

875470

โดยนายสมศักดิ์เอ่ยคำสาบานต่อหน้าพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า "ข้าพเจ้าแต่งงานแล้วจะมีแค่นางสาวกนกพรคนเดียว จะไม่มีคนอื่นเลย หากใครเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า ถ้าหากข้าพเจ้าเอาคนอื่นเข้ามาทำร้ายคนอื่น ทำให้ครอบครัวต้องไม่มีความสุข ขอให้ข้าพเจ้าฉิบหายแต่เพียงผู้เดียว"

จนสุดท้าย นายสมศักดิ์สั่งให้นางสาวกนกพรกล่าวคำสาบาน ก่อนที่จะเอ่ยปากบอกว่า "งั้นกูยิงเลย" แล้วก็ลุกขึ้นออกไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

228276

นางสาวปภัสรินทร์ วิริยะกนกพงศ์ อายุ 22 ปี น้องสาวของนางสาวกนกพร บอกว่า ตนกับพี่สาวสนิทกันมา มีปัญหาอะไรจะโทรคุยกันทุกเรื่อง เขาเป็นคนอัธยาศัยดี สนุกสนาน แต่ที่ผ่านมาพี่สาวผิดหวังเรื่องความรักมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน 2557 ได้มาเจอกับนายสมศักดิ์มีการคบหาดูใจกันมาเรื่อย ๆ แต่งงานกันเมื่อปี 2559 มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 4 ขวบ คนเล็กเป็นผู้ชายอายุ 2 ขวบกว่า จากนั้นเมื่อต้นปี 2564 ก็ย้ายออกจากบ้าน แล้วมาซื้ออาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเป็นบ้านอยู่กันแบบครอบครัว ทั้งคู่ทำงานที่เดียวกัน เป็นบริษัทเร่งรัดหนี้สินภาคสนาม

ที่ผ่านมาตนเห็นว่าทั้งคู่มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่ตลอด เพราะพี่สาวตนมารู้หลังแต่งงานว่านายสมศักดิ์เล่นยาเสพติด เนื่องจากมีอาการหลอน ระแวงโดยไม่มีสาเหตุ แต่พี่สาวไม่ยอมบอกตน นายสมศักดิ์ระแวงว่าพี่สาวตนไปเล่นชู้กับชายที่ชื่อนายสอง ซึ่งไม่มีจริง

cg1

จากนั้นเริ่มเห็นความผิดปกติในบ้าน คือนายสมศักดิ์ซื้อกล้องวงจรปิดมาติดในบ้านทุกซอกทุกมุมทุกชั้น ติดเครื่องดักฟังทุกชั้น รวมถึงในรถด้วย แล้วเวลาจะดูหรือฟังก็ต้องดูในโทรศัพท์เขาเท่านั้น ไม่เคยมีใครได้เห็นภาพ บวกกับตนก็เห็นว่านายสมศักดิ์เริ่มมีอาการหลอน คิดไปเองว่าเมียมีชู้กับผู้ชายที่ชื่อสอง แล้วเอะอะโวยวายบอกว่าเมียกับไอสองคุยกันตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล ยาวมาจนมัธยม และบอกว่าเห็นไอสองไปมาหาสู่กับเมียอยู่เรื่อย ๆ

277138

จนกระทั่งอาการของนายสมศักดิ์เริ่มแปลก คือพี่สาวตนพูดอะไรที่มีคำว่า "สอง" ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข ตัวหนังสือ พอพูดก็ทะเลาะกันทันที ทุกครั้งจะเป็นต่อหน้าลูกเสมอ พอทะเลาะกันนายสมศักดิ์จะหัวรุนแรงอารมณ์ร้อน เอารถออกไปขับชนเสา ชนฟุตพาทจนรถพังเสียหาย ตนก็เลยเริ่มมั่นใจว่านายสมศักดิ์ต้องติดยาแน่นอน หนักไปกว่านั้นยังทำร้ายร่างกายเมียและลูกอีก

717876

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 พี่สาวตนกับลูกสาวคนโตโดน นายสมศักดิ์ทุบตีเพราะหลอนเรื่องคนชื่อสอง จนตาเขียวบวม ปากแตก ใบหน้าพังยับเยิน เต็มไปด้วยคราบเลือด ไม่กล้าออกไปไหน เพราะอับอาย ส่วนลูกก็ปากแตก ปากบวมไปหมด

416929

ทั้งนี้ มีการสั่งห้ามให้พี่สาวตนออกจากบ้าน ไม่ให้คุยกับผู้ชาย แม้กระทั่งเพื่อนบ้านหรือคนส่งของ มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่สาวออกไปรับพัสดุจากคนส่งของซึ่งเป็นผู้ชาย แล้วนายสมศักดิ์เห็น ก็โมโห เอามีดฟันตู้เย็น ฟันตู้กับข้าว ทำลายข้าวของ ผลักพี่สาวตนไปโดนขอบโต๊ะ จนทำให้เลือดออกในช่องท้อง นอนโรงพยาบาลอยู่หลายคืน

742092

นางตุ้ย ยายของผู้บาดเจ็บ อายุ 70 ปี บอกว่า ตนก็รับลูกของทั้งคู่มาเลี้ยงดูก่อน เพราะบ้านอยู่ไม่ไกลกัน และที่ญาตินายสมศักดิ์เข้ามาวันนี้ เขาก็ขอโทษและสอบถามที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมด ซึ่งหลังจากคุยกันเสร็จตน เขาก็ขอเอาเด็ก 2 คนกลับไปเลี้ยงดูที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ตนมองว่ายังไม่สมควรที่จะเอาไปตอนนี้ เพราะวันที่เกิดเหตุหลังจากนางสาวกนกพรรู้สึกตัว คำแรกที่เขาถามกับตนคือ "ลูกหนูล่ะ ลูกอยู่ไหม" ตนก็เลยบอกว่าปลอดภัยดี อยู่กับตน แล้วสั่งกับตนไว้ว่าถ้าญาติของนายสมศักดิ์มาขอรับไป ก็ไม่ต้องให้ตนก็รับปากไว้ จึงต้องทำตามที่เขาสั่งบอกกับญาตินายสมศักดิ์ไปว่าอยากถามแม่เด็กกับพ่อเด็กก่อนว่าเขาสองคนจะเอาอย่างไรกันต่อ ตนไม่มีสิทธ์ที่จะตัดสินใจยกเด็กให้กับใครโดยพละการ เขาก็ยินยอม

ส่วนนางสาวกนกพร เบื้องต้นพ้นขีดอันตรายแล้ว สามารถสื่อสารได้ เพราะหมอผ่ากระสุนตรงโหนกแก้มไปแล้ว เหลือรอผ่าอีก 1 จุดคือท้ายทอย แต่ก็ยังงดเยี่ยมไม่มีกำหนด เช่นเดียวกับอาการของนายสมศักดิ์ก็ยังอยู่ระหว่างรอการผ่าตัดกระสุน และแพทย์งดเยี่ยมเช่นกัน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส