หนุ่มทะเลาะเมียกระสุนเจาะหัวปริศนา ญาติหิ้วปืนฝังดินอ้างกลัวคุก (คลิป)

7 ธ.ค. 64

จากกรณีหนุ่มวัย 36 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตหน้าบ้านป้าของตัวเอง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านนาสาร เร่งตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายณัฐเชษฐ ศรีสุวรรณ หรือ นายปอน อายุ 36 ปี เบื้องต้นพบบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวา อาจโดนยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างชันสูตรที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเเล้ว

279157280831

ล่าสุด วันที่ 7 ธ.ค.64 นางอาพร ศรีสุวรรรณ อายุ 65 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกมีปัญหากับภรรยาที่มีลูกด้วยกัน 2 ค เมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา และไม่สบายใจจึงออกมาที่บ้านป้า ที่อยู่กับครอบ 3-4 คน ประมาณสามคืนติดต่อกันแล้ว จนเมื่อช่วงเช้าประมาณ 6 โมง พี่สาวได้วิ่งไปตามที่บ้านที่อยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตร ว่าลูกชายเป็นลมเสียชีวิต

867469

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นลูกนอนคว่ำหน้าอยู่ จึงพลิกตัวดูจึงพบแผลและเลือดพุ่ง จึงตกใจ และคิดว่าลูกเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนมูลเหตุยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะลูกไม่ค่อยเล่าให้ฟัง ส่วนที่บ้านป้าก็ปิดบ้านไม่ได้ยินเสียงปืน ที่บ้านตนเองก็ไม่ได้ยิน เพราะตอนที่โดนยิงน่าจะเป็นช่วง 04.40 น. เพราะทราบว่ายังมีการคุยกับคนรู้จักอยู่

539919

เมื่อช่วงเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการขุดปืนที่ถูกฝังไว้ โดยมีนายราเชนทร์ ลูกพี่ลูกน้องของนายณัฐเชษฐ นั่งชี้จุดที่ฝังดิน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายราเชนทร์ขึ้นรถตำรวจ เพื่อไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บ้านนาสารนั้น

577476

โดยนายราเชนทร์ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า เมื่อช่วงเช้าตนเป็นผู้นำอาวุธปืนไปฝังไว้ เนื่องจากกลัวว่าตำรวจจะมาจับตน โดยอาวุธปืนนี้เป็นของผู้ตาย

444196

ซึ่งตอนเช้าตนเจอปืนอยู่ที่กระถางต้นไม้หน้าบ้าน เเต่คนที่ยิงตนไม่ทราบว่าเป็นใคร เเละไม่ได้ยินเสียงปืน ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนยิง เเละไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกับคนตายมาก่อน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวของนายราเชนทร์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บ้านนาสาร

542678

พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กระจะจ่าง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านนาสาร เปิดเผยว่า คาดว่าคดีดังกล่าวน่าจะมีผู้กระทำการยิงนายณัฐเชษฐ เนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนพบวัตถุพยาน ที่เป็นอาวุธปืน ถูกฝังอยู่บริเวณหลังบ้านใกล้ประตูทางออก

222237

ซึ่งนายราเชนทร์อ้างว่าเป็นผู้นำมาฝังไว้ เเละขณะเกิดเหตุ ชาวบ้านในพื้นที่รัศมี 1-2 กม. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เเต่คนในบ้านกลับอ้างว่าไม่ได้ยินเสียงปืน ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบอาวุธปืนที่ถูกฝังว่าเป็นอาวุธสังหารนายณัฐเชษฐหรือไม่

579938

ที่ สภ.บ้านนาสาร นางสาวเเจง (นามสมมติ) ภรรยาของนายณัฐเชษฐ เปิดเผยว่า ตนเองก็เพิ่งเห็นเหมือนกันว่าสามีมีการโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะเชิงเหมือนลาตาย ซึ่งตนก็ไม่รู้มาก่อนว่าสามีจะมีการคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะยังมีลูกเล็ก 2 คนที่ยังเล็กอยู่ และต้องเลี้ยงดูด้วยกัน ซึ่งสามีเป็นคนที่รักลูกมาก

719905

ก่อนหน้าที่สามีจะเสียชีวิตตนได้มีการพูดคุยกับสามีทุกวัน เป็นการพูดคุยเคลียร์ปัญหากันดี มีการโทรหาให้คุยกับลูก ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีการทะเลาะกันจริง ก็กลับมาอยู่บ้าน ส่วนสามีก็ไปอยู่ทึ่บ้านป้าเขา ก็มีการพูดคุยกันดี ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน

ส่วนนายราเชนทร์ ลูกพี่ลูกน้องของสามีที่เป็นคนเอาปืนไปฝังไว้หลังบ้านนั้น ตนก็รู้จักอยู่บ้าง ซึ่งนายราเชนทร์และสามีของตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน สามีของตนไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นเป็นประจำอยู่เเล้ว ส่วนคนที่ตนสงสัยว่าจะเป็นคนฆ่าสามีของตน ตนยังบอกไม่ถูกว่ เป็นใคร ไม่เคยนึกเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขี้น สุดท้ายหากสามีของตนฆ่าตัวตายจริง ตนก็ไม่ติดใจ ถ้าหากเป็นการฆาตกรรมก็ขอให้คนที่ทำออกมารับผิด และได้รับโทษถึงที่สุด

193876

น.ส.นี (นามสมมติ) ลูกพี่ลูกน้องของนายปอน เปิดเผยว่า นายปอนมาพักอาศัยที่บ้านของตนได้ประมาณ 3-4 คืนเเล้ว ด้วยสาเหตุเพราะนายปอนทะเลาะกับภรรยา คาดว่าน่าจะทะเลาะกันเรื่องชู้สาว โดยตนเคยได้ยืนนายปอนคุยโทรศัพท์กับภรรยาพูดประมาณว่า "มึงนี่เลี้ยงไม่เชื่อง เมื่อไหร่จะพอ" ตนก็ได้ถามภรรยาของนายปอนเเล้ว ภรรยาของนายปอนบอกว่านายปอนเข้าใจผิดไปเอง คิดไปเอง ซึ่งนายปอนเเละภรรยาคบหากันมานานประมาณ 10 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกชายอายุ 9 ปี ลูกสาวอายุ 7 ปี

718962

ตอนเเรกทั้งครอบครัวอยู่ด้วยกันที่บ้านของเเม่สามี เเต่เหมือนพอเกิดเรื่องทะเลาะ ภรรยาก็ขอเเยกกันอยู่เพื่อความสบายใจ ภรรยาจึงอยู่กับลูก ๆ ส่วนนายปอนมาอยู่ที่บ้านของตน ที่อยู่ใกล้กับบ้านของภรรยานายปอน โดยพฤติกรรมของนายปอนในช่วง 3-4 วันที่มาอยู่ที่บ้านของตน นายปอนมีลักษณะท่าทางที่ค่อนข้างเครียดตลอดเวลา หน้าดำคร่ำเครียด ไม่ยิ้มเเย้ม มีการคุยโทรศัพท์กับภรรยาตลอดเวลา เเละมีการพูดจาเสียงดัง ซึ่งนอกจากภรรยานายปอน ตนก็ไม่เห็นเขาคุยกับใครอีก เมื่อวานนี้ นายปอนได้พูดกับตนว่าช่วงเย็นของวันที่ 7 ธ.ค.64 นายปอนจะกลับไปทำงาน นายปอนมีบริษัทรถทัวร์เป็นของตัวเอง

จนเมื่อคืนนี้ที่ครอบครัวของตนนั่งกินข้าวกันอยู่ นายปอนก็เดินเข้ามาบอกกลางวงเป็นภาษาใต้ว่า "น้อง ถ้าพี่อยู่รอดผ่านคืนนี้ไปได้ ทุกคนจะสบาย" นายปอนถอนลมหายใจ ก่อนจะเดินเข้าห้องกลับไป จนมารู้เรื่องอีกครั้งตอน 06.30 น. ที่เเม่มาปลุกตนบอกว่านายปอนเสียชีวิตเเล้ว จนตนลุกขึ้นไปดูที่หน้าบ้านก็ปรากฏว่านายปอนเสียชีวิตเเล้ว

598576

นอกจากนี้ เมื่อวานก่อนที่นายปอนจะเสียชีวิต ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กรูปถ่ายคู่กับภรรยา พร้อมกับระบุข้อความว่า “3,657วัน ไม่เคยมีวันไหนลดน้อยลงเลยสักวัน รักทุกคนมาก ๆ ครับ ไม่มีคำไหนมาบรรยายได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากจุดเริ่มต้น จนมาถึงจุดจบ เป็นเรื่อง ธรรมดาของคนเรา ในตอนที่ยังมีโอกาสรักษากันและกันควร รักษากันไว้ รักที่สุดนะ ครอบครัวศรีสุวรรณ ที่ผ่านมามีสุข ทุกข์ ปะปนกันไป แต่ก็พอใจที่เธอมีให้ตลอดมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ไปคือความรัก ให้หมดทุกอย่างที่ให้ได้แล้วในชีวิต เป็นห่วงนะ ดูแลตัวเองกับลูกๆดีๆละ ลักขณา รักแม่ รักน้าสาว มากๆครับ ไม่อยากให้ใครต้องมา เสียใจ และคอยเป็นห่วงอีกแล้วครับ รักทุกคนเป็นห่วงทุกคน ดูแลสุขภาพกันทุกคนนะครับ หลังจากนี้ มีเงินเท่าไหร่ก็ซื้อความรู้สึกที่ผ่านมากลับคืนมาไม่ได้”

982178

โพสต์สุดท้ายก่อนเสียชีวิต ทำนองว่า รักครอบครัง รักทุกคนมากๆ รักภรรยามาก ทุกอย่างที่ให้ไป คือความรัก ขอให้จากนี้ ดูแลลูกให้ดี ไม่อยากให้ใครต้องมาเสียใจเพราะตัวเองอีก มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่สามารถซื้อความสุขกลับคืนมาได้ และโพสต์สตอรี่ในเฟซบุ๊ก "ความไว้ใจ ความรัก อาจดูว่าธรรมดา สำหรับบางคน เเต่บางคนเค้าคิดว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิต ของเค้าเลย"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส