ผู้เสียหายเข้าร้องเรียน ทนายรณณรงค์ ถูกแก๊งชาวจีนหลอกลงทุนซื้อเงินสกุลดิจิทัล เสียหายกว่า 170 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.00 น วันที่ 7 ธันวาคม 64 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะตำบลบางตลาดอำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ผู้เสียหายหลายรายเดินทางเข้าร้องเรียน กับนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกแก๊งชาวจีนหลอกให้ลงทุนซื้อเงินสกุลดิจิทัล โดยได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูง ทำให้มีเหยื่อหลงเชื่อแล้วจำนวนกว่า 200 ราย สูญเงินไปราว 170 ล้านบาท หลังจากพบว่าได้ผลตอบแทนกลับมาในอัตราที่สูงเหยื่อทุกรายก็จะลงทุนเพิ่มไปอีกหลายเท่าตัว สุดท้ายถูกใช้เล่ห์อุบายต่างๆ นานา จนไม่สามารถถอนเงินที่ลงทุนออกไปได้ ก่อนจะถูกบล็อก ไม่สามารถติดต่อแก๊งสแกมเมอร์ได้อีกเลย
นายกฤษณ์ นักธุรกิจอสังหาริมรัพย์ กล่าวว่า ตนได้รับการชักชวนจากแก๊งชาวจีน เพื่อซื้อเงินสกุลดิจิทัล ตอนแรกลงทุนไปเพียง 5,000 บาท ได้ผลตอบแทนกลับมาในอัตราที่สูงมาก เลยหลงเชื่อและได้ลงทุนเพิ่มไปอีกหลายครั้ง แรกๆ จะได้เงินตอบแทนกลับมา แต่พอนานเข้า เงินลงทุนที่ลงไปกลับพบว่าไม่สามารถเบิกถอนออกมาได้ตนต้องสูญเสียจำนวนเงินไปถึง 5 ล้าน 8 แสนบาท จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามตัว คนที่หลอกลวงเอาเงินไปมาดำเนินคดีให้ด้วย
ขณะที่คุณโน้ต ซึ่งเป็นครูสาวสอนภาษาในโรงเรียนนานาชาติกล่าวว่า ตนได้รับการชักชวนให้มาร่วมลงทุนซื้อเงินสกุลดิจิทัลจากแก๊งชาวจีน เมื่อเดือนเมษายน 64 ที่ผ่านมา ตอนแรกตนได้ลงเงินไปจำนวน 50,000 บาท ปรากฏว่าได้ผลตอบแทนกลับมาถึง 6 แสนบาท และตนเองก็ได้ถอนออกมาได้จริงๆ ตามที่ได้ลงทุนไป จนกระทั่งถูกแก๊งชาวจีน แนะนำให้ลงทุนเพิ่มไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดเงินไป 5 ล้าน 9 แสนบาท สุดท้ายก็ถูกบล็อกแอคเคาต์ไม่สามารถเบิกถอนออกมาได้ รวมทั้งยังไม่สามารถติดต่อผู้ที่ชักชวนให้มาร่วมลงทุนเนื่องจากถูกบล็อกบัญชีรวมทั้งช่องทางการติดต่อ จึงแน่ใจว่าถูกโกงอย่างแน่นอน พวกตนทั้งหมดจึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากทนายรณรงค์ เพื่อประสานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามตัวแก๊งชาวจีน ที่หลอกให้ลงทุนมาดำเนินคดีให้ด้วย
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า รูปแบบกลโกงก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้มาในรูปแบบแอปหาคู่ เพราะฉะนั้นจะมีระบุข้อมูลส่วนตัวว่ามีเงินเท่าไหร่ ทรัพย์สินมีอะไรบ้าง และก็มีการชวนกันไปลงทุนและเล่นได้ ทีนี้มันมีปัญหาเพราะถอนเงินไม่ได้ พอมันเป็นเว็บไซต์ต่างประเทศกฎหมายในไทยก็เอาผิดยาก จะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันตรวจสอบว่าบัญชีที่มีการโอนหรือถอนออกเป็นใครบ้างจะได้ตามว่าคือใครและขยายผล ซึ่งก็ไม่ง่าย ต้องให้รวมตัวกันและไปหาตำรวจไซเบอร์เพราะตำรวจท้องที่ทำคดีแบบนี้ไม่ไหวมันซับซ้อนเกินไป ถ้าไม่ทำอะไรเลยไม่มีโอกาสได้เงินคืนอยู่แล้ว แต่ถ้าทำอะไรบ้างก็ยังมีโอกาสได้คืน ถ้าเขาอยู่ไทยก็ดำเนินคดีได้หมดทุกคนแต่ถ้าอยู่ต่างประเทศก็ต้องทำใจ กฎหมายไทยไปไม่ถึงเรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนก็ยาก ต้องตรวจสอบในการลงทุนทุกอย่าง เพราะมีความเสี่ยง ถ้าหลวมตัวไปแล้วก็อย่าไปเติมเงินเพิ่มให้เยอะขึ้น โดยที่เจอทั่วไปคือโอนเงินใส่ได้แต่เวลาได้ผลกำไรแล้วมันถอนออกไม่ได้และเราก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าต้องการเทรดเงินจริงๆ ก็พยายามหาที่มันมีหน่วยงานราชการกำกับดูแลมันจะดีกว่า ไม่ต้องมาถูกหลอกลวงในลักษณะนี้ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมาก
