จากกรณีไฮโซสาว "ฟ้า จิลมิกา" นักธุกิจชื่อดัง เผยภาพผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง โดยเป็นภาพการออกกำลังด้วยท่วงท่าโยคะท่ายาก ซึ่งบางภาพเป็นภาพเปลือย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

วันที่ 3 ธ.ค. 61 จิลมิกา เฉลิมสุข หรือ ฟ้า กล่าวว่า กรณีภาพถ่ายโยคะเปลือย เป็นงานศิลปะ โดยเมื่อต้นเดือนก่อน มีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่ ติดต่อมาบอกว่า ตอนนี้กำลังทำวิทยานิพนธ์จบปีที่ 4 เป็นการถ่ายภาพมัดกล้ามเนื้อ และต้องบิดตัว ทั้งนี้การถ่ายก็ไม่ได้เป็นมีรีทัชภาพรอยแผลเป็นบนร่างกายทั้งหมด ซึ่งเมื่อพูดคุยเนื้อหาของงานแล้ว จึงเกิดรู้สึกว่า ประเทศไทยยังไม่มีงานศิลปะแบบนี้ มีแต่ที่ต่างประเทศเท่านั้น จึงได้ตอบตกลงว่าจะร่วมถ่ายในครั้งนี้ โดยยอมรับว่าไม่ได้ขออนุญาตที่บ้าน เพราะหากขอคงไม่ให้ถ่าย เนื่องจากเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่เมื่อภาพออกมาแล้ว ครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไร

ฟ้า จิลมิกา เล่าต่อว่า ประมาณกลางเดือน พ.ย. ตนบินไปที่เชียงใหม่ เพื่อถ่ายภาพที่คณะฯ โดยก่อนถ่ายจะมีการตกลงกันว่าให้น้องปี 4 จัดแสงให้เสร็จ และตอนถ่ายจะมีแค่ตนกับช่างภาพเพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งช่างภาพก็เป็นผู้หญิง ถ่ายกันตั้งแต่ 10.00 - 16.00 น. ภาพที่ออกมาก็รู้สึกประทับใจมาก

หลังจากเผยแพร่ภาพออกไป ตนเห็นคอมเมนต์ต่าง ๆ แล้ว แต่เลือกที่จะไม่สนใจ เนื่องจากคิดว่างานที่ถ่ายเป็นงานศิลปะ แต่หากคนมองว่าเป็นเรื่องเพศ ก็คงอยู่ที่ความคิดของแต่ละคนที่ถูกสั่งสอนมา แค่หอยทาก หรือแค่ซาลาเปา 2 ลูก หากเป็นคนที่มีความคิดแต่เรื่องเพศ ก็จะมองของพวกนี้เป็นเรื่องเพศได้ ตนไม่สามารถห้ามความคิดของคนพวกนี้ได้ ซึ่งหากตนจะถ่ายเซ็กซี่จริง แค่ชุดว่ายน้ำก็คงพอแล้ว แต่ที่ถ่ายไม่เห็นอะไรเลยด้วยซ้ำ เห็นเพียงท่าทางการเล่นโยคะ และไม่เห็นอวัยวะส่วนที่ส่อไปทางเพศได้เลย

ฟ้า จิลมิกา ยืนยันว่า เหตุที่โพสต์ภาพดังกล่าว ไม่ได้หวังกระแส หรืออยากดัง เพราะตอนนี้ก็ดังอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องออกมาถ่าย แล้วให้คนด่าแบบนี้ เพราะไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเองสักเท่าไร แต่อยากให้ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องศิลปะ

ทั้งนี้ ตนเองฝึกเล่นโยคะมา 2 ปีแล้ว ตนตื่นมาตั้งแต่ 04.00 น. ทุกวัน เพื่อฝึกเล่นจนสามารถที่จะบิดตัวได้ และการออกกำลังกายโยคะก็เพื่อเป็นการฝึกสมาธิ และมีสติ จะได้ไม่ต้องไปนึกถึงคอมเมนต์พวกนั้น และตนขอย้ำว่าอยากให้มองงานชิ้นนี้เป็นศิลปะ ไม่ใช่เรื่องทางเพศ และการโฆษณาแต่อย่างใด