เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ผู้กองไทร รองสว.(สอบสวน) สังกัดตำรวจภูธรภาค 9 ให้ข้อมูลว่า ตนไม่อยากให้เรื่องราวของตนเป็นแค่เรื่องตลกขบขัน แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับชาวบ้าน ว่าให้ระมัดระวังเรื่องการกู้เงินนอกระบบ เพราะนอกจากจะมีดอกเบี้ยสูงแล้ว ก็อาจจะถูกระรานจากแก๊งเงินกู้ได้ ซึ่งตอนนี้ตนและชุดสืบสวนกำลังขยายผลและสืบสวนเพื่อตามจับแก๊งเงินกู้ดังกล่าว
โดยคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 2 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งทำงาน ก็มีสายปริศนาโทรเข้ามา และอ้างว่าตนถูกสาวรายหนึ่ง นำชื่อและเบอร์โทรไปค้ำเงินกู้ ซึ่งเมื่อตนได้ฟังดังนั้นก็เล่นตามน้ำไปเพื่อที่จะหลอกฟังข้อมูล จึงทราบว่าหญิงรายนี้เป็นหนี้ 8,800 บาท และไม่ยอมใช้หนี้คืน ซึ่งผู้กู้ได้เอาเบอร์โทรศัพท์ของตนไปใส่เป็นคนค้ำประกัน อ้างว่าตนเป็นหลาน ตนก็พูดตามน้ำไป
โดยแก๊งเงินกู้เร่งให้ตนจ่ายดอกเบี้ย 500 บาท ไม่เช่นนั้นจะตามมาทำร้าย และจะแจ้งตำรวจที่ตนไม่จ่ายหนี้ ตนก็พยายามพูดคุยต่อรองว่าจะเข้าไปจ่ายที่ออฟฟิศ ซึ่งแก๊งเงินกู้อ้างว่าออฟฟิศอยู่ย่านพระราม 3 แต่ปฏิเสธที่จะให้เข้าไปที่ออฟฟิศ เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 จึงแนะนำให้ตนแอดไลน์เพื่อจะส่งช่องทางการโอนเงินให้ และโอนเงินให้เขา 500 บาท ซึ่งตนก็เออออแกล้งทำตาม เขาจึงวางสายไป
ผ่านไป 1 ชั่วโมง เวลา 10.00 น. แก๊งเงินกู้โทรกลับมาอีกครั้ง และโวยวายใส่ตนว่าทำไมถึงยังไม่แอดไลน์ ตนก็พูดตามน้ำไปอีกว่า ต้องรอเงินจากการทำงาน แก๊งเงินกู้ก็ขู่ตนว่าถ้าไม่โอนเงิน จะนำข้อมูลของตนผู้กู้ไปประจาน หลังจากนั้นก็วางสายไป ซึ่งตนก็ยังแซวว่าแก๊งเงินกู้พูดไม่ชัด และถามว่าร้องเพลงชาติได้หรือไม่ ซึ่งทางแก๊งเงินกู้ก็น่าจะโมโหและบอกว่า “มึงอย่าเล่นมุกกับกู ร้องเพลงชาติถอยหลังยังได้” ตนก็พูดแซว ๆ และพูดตามน้ำไปว่าไม่มีเงินจะโอนให้ เพราะมีเมีย 4-5 คน เลี้ยงไม่ไหวแล้ว แต่ถ้ามีเงินจะรีบโอนให้แน่นอน
"เขาก็ยังบอกว่าให้ผมเอาเมียไปขัดดอก ผมก็พูดล้อเล่นกับเขา แต่พูดเออออว่าจะโอนเงินให้ เขาจึงยอมวางสายไป จนกระทั่งเวลา 13.00 น. แก๊งเงินกู้ได้โทรกลับมาอีกรอบ และบอกว่าไม่ต้องโอนเงินให้แล้ว เพราะผู้กู้จ่ายเงินคืนมา 2,000 บาทแล้ว หลังจากนั้นก็วางสายไป" ผู้กองไทร กล่าว
