จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. ตรวจสอบห้องนอนด้านหลัง พบศพนางอัมรินทร์ สุวรรณากาศ อายุ 68 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ศีรษะด้านซ้าย 1 นัด เสียชีวิต
ข้างกันพบศพนายสุวรรณ ปิ่นทอง อายุ 53 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่กลางศีรษะด้านขวา 1 นัด เสียชีวิต บริเวณปลายเท้าพบอาวุธปืน แบบแม็กกาซีน ยี่ห้อซิก ซาวเออร์ ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 กระบอก นั้น
วันที่ 2 ธ.ค. 61 ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านเดียว มีรั้วรอบมิดชิด และจากการสังเกตพบว่า มีผู้อาศัยอยู่ภายในบ้านตามปกติ และจากการสอบถาม พบว่า มีญาติของผู้ตายทั้ง 2 คน พักอาศัยอยู่ แต่ยังอยู่ในอาการช็อก โศกเศร้าเสียใจ และทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยญาติบอกเพียงว่า เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งครอบครัวไม่ได้ติดใจสาเหตุการตายของแต่อย่างใด ซึ่งมีจดหมายลาตายเขียนเอาไว้ และจะนำร่างของทั้ง 2 ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิด
นอกจากนี้
นางหยก (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน ระบุว่า นายสุวรรณ หรือวัน ผู้ตาย เป็นคนที่มีบุคลิกทั่วไป แต่มักไม่ยิ้มทักทายกับเพื่อนบ้านเท่าไร เวลาออกมาทำธุระซื้อของเสร็จก็รีบกลับบ้าน และทุกครั้งที่เจอกัน ก็ไม่เคยเห็นผู้ตายแสดงความเครียดให้เห็น ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเหตุยิงกันครั้งนี้เกิดจากอะไร แต่ตนฟังจากหลานของผู้ตาย เล่าว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจเกิดจากความเครียด ความกดดัน ทำให้ผู้ตายจบชีวิตลง
ส่วน นางอมรินทร์ แม่ของผู้ตาย ตนก็เคยเจอเวลาเดินผ่านไปหน้าบ้าน แต่ผู้ตายเป็นคนป่วย จึงต้องอยู่ติดกับบ้าน ตนเองจึงมีโอกาสได้แวะเข้าไปทักทายบ้าง และทุกครั้งที่มีการจับไม้จับมือผู้ตายก็จะร้องไห้ขึ้นมา อาการคล้ายกับคนดีใจ ไม่ค่อยได้เจอเพื่อนฝูง หรือออกไปไหนภายนอก ส่วนสาเหตุของการจบชีวิต ตนเชื่อว่าไม่ใช่เป็นเพราะปมหนี้สิน เนื่องจากที่บ้านของผู้ตายเป็นคนที่มีฐานะ