ผัวโหดทืบเมียดับหึงนุ่งกระโจมอกขายข้าว แม่ทรุดกอดโลง หลาน 4 ชีวิตกำพร้า (คลิป)

เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 1 ธ.ค. 64 ที่ร้านขายกับข้าวตามสั่งไม่มีชื่อ หมู่ 8 ต.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่กู้ภัยพรานพิทักษ์กำลังให้ความช่วยเหลือปั๊มหัวใจผู้บาดเจ็บ เป็นหญิงในสภาพนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว อาการหมดสติจากการถูกทำร้ายร่างกาย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ศิริพร ทัพมา อายุ 35 ปี แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตในเวลาต่อมาในที่เกิดเหตุ

วันที่ 2 ธ.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมายังบ้าน ม.8 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ลักษณะบ้านเป็นตึกแถว 3 ชั้น มีชั้นลอย ขายอาหารตามสั่ง

นางทองคำ ยิ่งภักดี อายุ 80 ปี แม่ของนายนิวัฒน์ ยิ่งภัคดี อายุ 48 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวาน 1 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 22.00 น. ทั้งคู่ได้ซื้อเบียร์มานั่งดื่มกันบริเวณหน้าร้าน จากนั้นได้มีปากเสียงกัน ตนไม่รู้ว่าเรื่องอะไร จากนั้นลูกชายได้นำเบียร์ที่เหลืออยู่ก้นแก้วสาดใส่หน้าลูกสะใภ้ ลูกชายตนวิ่งไปเพราะจะหนีลูกสะใภ้ ลูกสะใภ้จะตามขึ้นไป ตนจึงห้าม เพราะตอนนี้อารมณ์ร้อนกันทั้งคู่ ลูกสะใภ้ตอบตนว่าไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด

ลูกสะใภ้พูดต่อกับตนอีกว่า "อยู่ไม่ได้แล้ว จะกลับบ้านไปหาพ่อหาแม่" ตนจึงพูดว่า "ใจเย็น ๆ นะ ลูกตั้ง 3-4 คน" จากนั้นลูกสะใภ้จึงขึ้นไปบนห้องเพราะจะอาบน้ำ หลังอาบน้ำเสร็จได้กลับลงมาที่เดิม เพื่อรอออร์เดอร์ลูกค้าจากเดลิเวอรี่ แต่ลูกสะใภ้สวมใส่ผ้าขนหนูรัดอกลงมาเพียงตัวเดียว แล้วทะเลาะกันตามประสาผัวเมีย ลูกสะใภ้จึงได้เดินหนีกลับขึ้นไปห้องพักชั้น 2 และสั่งให้ส่งข้อความทางโทรศัพท์ไปหานางสาวพลอย ลูกเลี้ยง ว่าให้ไปเก็บจานล้างจาน ลูกชายจึงไม่พอใจ เนื่องจากลูกสาวจะสอบแล้ว แต่ไปใช้งานลูก

ซึ่งนายนิวัฒน์กับนางสาวศิริพร อยู่กินกันมา 10 กว่าปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ชื่อด.ญ.พิม 10 ขวบ, ด.ช.พอใจ 8 ขวบ, ด.ญ.งาม 6 ขวบ และนายนิวัฒน์มีลูกติด อีก 1 คน ชื่อนางสาวพลอย อายุ 21 ปี ต่อมาลูกชายตนจึงได้เดินตามขึ้นไป เรื่องเลยบานปลาย จนลูกชายลงมือชกและกระทืบลูกสะใภ้ ตนได้ยินเสียงดังโครม ก่อนที่ลูกชายจะลงมาและขับรถยนต์กระบะหนีไป ตอนที่น้องพลอย หลานสาวคนโตขึ้นไปดูเห็นว่าลูกสะใภ้ชักและหมดสติ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือ

ส่วนเรื่องที่ลูกสะใภ้ใส่กระโจมอก และลูกชายเกิดความหึงหวงนั้นไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าลูกชายและลูกสะใภ้ไม่มีปัญหาชู้สาว รักกันดี เพียงแต่ลูกชายของตนเป็นคนเสียงดังโวยวาย เวลาทะเลาะกับลูกสะใภ้จะชอบไล่ให้ลูกสะใภ้ไป พอลูกสะใภ้จะไปเข้าจริง ๆ ก็จะตามกลับมา แต่ลูกชายของตนไม่เคยลงไม้ลงมือ ตนไม่เคยเห็น เมื่อไม่นานมานี้ประมาณเดือนพฤศจิกายน ลูกสะใภ้ก็ได้พาหลานกลับบ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อไปหาพ่อและแม่

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวลูกชายได้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน ตนยังไม่ได้คุยกับลูกชาย ตนไม่มีอะไรจะพูดกับลูกชายเพราะมันพลาดพลั้งไปแล้ว พูดได้ก็ไม่เหมือนเดิม ตนไม่แน่ใจว่าจะเดินทางไปร่วมงานศพของลูกสะใภ้ไหวหรือไม่ เนื่องจากอายุเยอะ และมีปัญหาด้านสุขภาพ อยากฝากบอกครอบครัวของลูกสะใภ้ เนื่องจากพ่อแม่ลูกสะใภ้มีลูกสาวคนเดียว ทางฝั่งตนขอโทษ ตนรักลูกสะใภ้เหมือนลูกคนหนึ่ง รักทั้งลูกสะใภ้และหลาน ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน

ต่อมาทีมข่าวเดินทางมาพบกับครอบครัวของนางสาวศิริพร ทัพมา อายุ 35 ปี ผู้เสียชีวิต มารับศพที่โรงพยาบาลนครปฐม บรรยากาศเป็นได้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ บรรดาญาติและครอบครัวร้องไห้ โดยเฉพาะนางพิทักษ์ ผู้เป็นแม่

นางพิทักษ์ ทัพมา อายุ 60 ปี 0808874928 แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อวาน 1 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 23.00 น. ตนเพิ่งจะทราบเรื่องจากพลอย อายุ 21 ปี ลูกติดของสามีของลูกสาวโทรมาบอกตนว่าลูกสาววูบไป เเต่เขาไม่ได้บอกว่ามีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกัน เขาบอกว่าลูกสาวต้องปั๊มหัวใจ เเต่ทำมา 30 นาทีเเล้ว เเต่ก็ไม่รู้สึกตัวเลย ตนตกใจมาก พอถามหลานคนเล็กเขาก็บอกว่ามีการทำร้ายร่างกาย มีการตีกันจริง เเต่ไม่ได้รุนเเรง

ทั้งนี้ ตนเป็นชาวสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ลูกสาวพาหลานไปหาตนที่สุราษฎร์ธานี ตนมีลูก 2 คน คนนี้เป็นคนที่ทำมาหากินเก่ง นิสัยดี คอยส่งเงินให้ตนใช้ไม่ขาดมือ ลูกสาวคบหาดูใจกับผู้ชายคนนี้มานานเเล้ว ตนทราบว่าลูกเขยเป็นคนอารมณ์ร้อนเเละใช้เเต่อารมณ์ อยากได้อะไรต้องได้ นอกจากนี้ ลูกเขยคนนี้ยังเคยมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายลูกสาวของตนเเละหลานชาย ทั้งเตะทั้งต่อย จนอยู่กันไม่ได้ ตนต้องมารับลูกเเละหลานกลางดึก ซึ่งโดยปกติเเล้วลูกสาวจะไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ตนฟังมากนัก เพราะรู้อยู่เเล้วว่าตนมีอาการป่วยทางจิตเวช

ซึ่งเมื่อวานนี้ช่วงประมาณ 13.00 น. ตนได้คุยโทรศัพท์กับลูกสาวครั้งสุดท้าย ตนถามลูกว่าดอกหน้าวัวเเยกหรือยัง ส่งมาให้ลูก เมื่อวานก่อนก็ส่งดอกไม้มาให้อีกตระกร้าหนึ่ง ตนบอกให้ลูกไปแยกดอกไม้เอาเอง พอตอนกลางดึกตนก็มาทราบข่าวร้าย

นอกจากนี้ ลูกสาวมักจะบอกทุกครั้งเวลาคุยโทรศัพท์ว่า "รักเเม่นะ รักพ่อด้วย" ตนไม่คิดเลยว่าเมื่อวานจะเป็นโทรศัพท์สายสุดท้ายจากลูกสาว ส่วนเรื่องลางสังหรณ์ก็เคยมีอยู่ตอนที่ตนคุยโทรศัพท์กับลูกสาว 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวบอกกับตนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า "เเม่เเค่นี้ก่อนนะ ไม่รู้อะไรกันนักหนา" เเต่ลูกสาวก็ไม่ได้บอกตนว่าหงุดหงิดโมโหเรื่องอะไร เพราะเขากลัวตนรู้เเล้วจะเครียดจนนอนไม่หลับ

ส่วนเรื่องหลาน ตนคงจะดูแลไม่ไหว เพราะไม่ค่อยมีเงิน เเต่น้องของคนก่อเหตุ เขาเป็นคนมีเงิน เขาจะมารับหลานไปเลี้ยงเอง ซึ่งฝั่งครอบครัวของคนก่อเหตุก็มีการบอกตนว่าเสียใจ เพราะเขามีพี่น้องกัน 2 คน เเต่เขาบอกจะรับผิดชอบให้ "ส่วนคนก่อเหตุตนบอกเลยว่าตอนนี้ไม่อยากเเม้เเต่จะเห็นหน้า เกลียดมาก อยากให้มันโดนประหารชีวิต ไม่อยากเห็น เเละไม่ให้มาขอขมาลูกด้วย"

โดยตนได้กลิ่นยาฉีดศพของลูกสาวลอยมา ตนอยากจะบอกกับลูกว่า ลูกเหนื่อยมามากเเล้ว ลูกตัวเล็กนิดเดียว เเต่ทำทุกอย่างให้เขาได้กินอิ่ม นอนหลับ ตนอยากให้ลูกพักผ่อน หลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงลูก ไม่ต้องห่วงเเม่ ลูกเเม่เป็นคนดี ทำดี ลูกต้องได้เกิดชาติหน้าแบบดี ๆ