ใต้อ่วม! น้ำป่าทะลัก “เอกชัย” โอดรีสอร์ตพังยับหยิบได้แต่ชุดนอน ชุมพรท่วมหนักตลาด 100 ปี (คลิป)

กรณีฝนตกหนักสะสมบนเทือกเขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้มีน้ำป่าไหลลงสู่เบื้องล่างทางน้ำตกกะโรม ลงคลองเขาแก้ว และน้ำตกฝนแสนห่า บ้านคีรีวงลงสู่คลองท่าดี ซึ่งน้ำปริมาณมหาศาลไหลเชี่ยวมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราชอย่างน่ากลัว

โดยน้ำที่ไหลลงคลองเขาแก้ว - คลองช่องลม น้ำไหลบ่าท่วมสะพานและถนนซอยช่องลม หมู่ 2 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา ส่วนพื้นที่รับน้ำด้านล่างตั้งแต่ ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา ต.นาสาร ต.ท้ายสำเภา ต.นาพรุ ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จะรับน้ำในเวลา 4-6 ชม. คาดว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่น้ำป่าเทือกเขาหลวง จากน้ำตกฝนแสนห่า บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา ได้ไหลลงสู่คลองท่าดี คลองท่าใหญ่ จากนั้นพื้นที่รับน้ำต่อไปคือ ต.ท่าดี อ.ลานสกา ต.กำแพงเซา ต.ไชยมนตรี ต.โพธิ์เสด็จ ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง ก่อนไหลเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช ในเวลา 6-8 ชม.

โดยพบว่าใน 1 ชั่วโมง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 3 เมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก รวดเร็วและแรงมาก อาจจะทำให้พื้นที่เบื้องล่างได้รับผลกระทบเร็วกว่าเวลาที่คาดหมายได้ ทั้งยังพบว่ากระแสน้ำได้พัดพาเอาต้นไม้ขนาดใหญ่ลงมาติดอยู่ที่สะพานท่าใหญ่หลายต้น ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก เจ้าหน้าที่ตจ้องนำรถแบ็กโฮมาช่วยเอาต้นไม้ออกจากสะพาน เพื่อให้น้ำไหลสะดวกมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต.โพธิ์เสด็จ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำสุดท้ายก่อนไหลเข่าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช นายวิฑูรย์ หัสภาคย์ นายกเทศมนตรีตำบลโพธ์เสด็จ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ออกสำรวจตรวจสอบแม่น้ำ ลำคลอง ทางน้ำไหล และเตรียมพร้อมในการช่วยเหลืออพยพสิ่งของและประชาชนในจุดเสี่ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ที่บริเวณถนนหมู่ 6 บ้านปากลง ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีกระแสน้ำป่าผ่านถนน ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถสัญจรได้ และเกิดอุบัติเหตุกับชายชรารายหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ตำบลกรุงชิง ไม่สามารถเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาล เนื่องจากกระแสน้ำป่าที่รุนแรง

โดยนายณัฏฐพล พราหมพูน ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอำเภอนบพิตำ ได้เข้าอำนวยการพร้อมกับผู้นำท้องที่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เกี่ยวข้อง โดยได้ใช้สะพานเชือกโยงระห่างสองฝั่งพื้นที่มีกระแสน้ำป่าอยู่ตรงกลางก่อนที่จะโยงผู้บาดเจ็บกับเปลบอร์ด แล้วเคลื่อนย้ายข้ามฝั่งได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะเร่งนำส่งโรงพยาบาล ล่าสุดผู้ประสบเหตุรายนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว

บรรยากาศภายในพื้นที่บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน 2 วัน 2 คืน ส่งผลให้แหล่งต้นน้ำเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้า โดยเฉพาะเทือกเขาหลวง แหล่งต้นน้ำสำคัญของจังหวัด หลังฝนตกปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจนล้นทะลัก ไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนบางส่วน กระทั่งเวลา 18.00 น. ระดับน้ำได้ลดลงและแห้งแล้ว

นายคำ ชาวบ้านคีรีวง หมู่ 3 กล่าวว่า ช่วงเช้าในวันนี้ตั้งแต่เวลา 06.00-10.00 น. น้ำป่าเทือกเขาหลวงทะลักท่วมบ้านของประชาชน บ้านคีรีวงอย่างรวดเร็ว แต่เข้าเพียงระดับ 30% หรือเกือบเท่าหัวเขา ทำให้ข้าวของภายในบ้านไม่รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้คนในครอบครัวก็ได้นำถุงทรายมาวางกั้นไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน และบริเวณโดยรอบ จากนั้นเริ่มขนของขึ้นที่สูงเพื่อเตรียมรับมือหากน้ำป่าไหลมาซ้ำอีก โชคดีที่น้ำมาและไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านมากหนัก โดยสถานการณ์ล่าสุดยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ตลอดทั้งวัน จังหวัดได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้ทุกพื้นที่เสี่ยงอยู่ริมทางน้ำหลาก ให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้

นอกจากนี้ ในพื้นที่ จ.พัทลุง มีน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาบรรทัด อ.กงหรา และ อ.ศรีนครินทร์ ซึ่งน้ำป่าจากน้ำตกโตนแพรทอง ไหลเชี่ยวกราก พัดพาสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ริมคลองและสะพานข้ามคลองของสำนักงานไฟฟ้าพลังน้ำห้วยลำสินธุ์พังเสียหายลอยไปกับน้ำ และมวลน้ำที่ไหลเชี่ยวยังได้ท่วมบ้านพักของ "เอกชัย ศรีวิชัย" ที่กำลังก่อสร้างที่พักและโรงงานใกล้น้ำตกโตนแพรทองได้รับความเสียหาย

ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก "บุญรอบ ศรีวิชัย" โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า "พูดไม่ออกบอกไม่ถูกชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้เศร้ามาก โตนแพรทอง #บ้านโรงงานเสียหาย 100% (ขอบใจเพื่อนรักและลูก ๆ วงสำราญทุกคนนะ) เวลาแบบนี้คือเวลาเติมใจกัน ในรอบ 10 ปีเลยทุกคนบอกไม่เคยเจอน้ำเยอะและแรงขนาดนี้ ในยามทุกข์ ขอบคุณชาวบ้านบ้านโตน ที่ระดมกำลังมาช่วยหุงข้าวมาให้มาช่วยล้างช่วยยกของ ผมน้ำตาไหลขอบคุณจริง ๆ ขอบคุณครอบครัวไอ้เกลอวอนน้องอ้อมแม่อ้อมและลูก ๆ ทุกคน ขอบคุณพี่หลวงขอบคุณน้องพรและที่ไม่ได้เอ่ยชื่อทุกคน กราบขอบพระคุณทุกคนครับ ผมจะไม่มีวันลืมในวัยของผมขนาดนี้ไม่เคยเจออะไรที่น่ากลัวขนาดนี้ ชาวบ้านที่นี่บอกว่าในรอบ 40 ปี ไม่เคยเห็น ผมคิดว่าความทุกข์ความโศกของผมทั้งหมดมันคงถูกพัดพาไปครับ น้ำหมดแล้วจะได้เริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง ขอบคุณทุกกำลังใจอีกครั้งนะครับขอบคุณมาก ๆ" 

จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดชุมพร ตั้งแต่คืนวันที่ 30 พ.ย.64 ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ธ.ค.64 ซึ่งในพื้นที่อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก และอำเภอหลังสวน มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร ชาวบ้านเดือดร้อนจำนวนมาก ซึ่งมวลน้ำจำนวนมากได้ไหลหลากลงสู่ทะเลอ่าวไทย จนล้นข้ามท่วมถนนเอเชีย 41 หลายจุดเป็นอุปสรรคไม่สามารถใช้สัญจรได้

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางลงพื้นที่มาที่ชุมชนตลาดล่าง 100 ปี ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ที่อยู่ติดกับเเม่น้ำสวี เเละมีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ระดับน้ำในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ถือว่าลดระดับลงมากเเล้ว ตอนนี้ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตรจากพื้นถนน

ทีมข่าวสอบถามกับนายวัชรินทร์ บัวสุวรรณ อายุ 60 ปี ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตนอยู่ที่นี่มา 60 ปี อยู่ในบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งอดีตเป็นพื้นที่ของโรงภาพยนตร์เสาวภา ตนมาอาศัยอยู่ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา น้ำไม่ท่วมพื้นที่ชุมชน เเต่ก่อนหน้านี้ก็จะมีบ้าง ซึ่งน้ำมักจะท่วมในช่วงเดือนพ.ย. เหตุการณ์น้ำท่วมในปี 64 ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือน ครั้งเเรกเมื่อวันที่ 10 พ.ย.64 น้ำท่วมนาน 3 วัน จนถึงวันที่ 12 พ.ย.64 ตอนนั้นน้ำท่วมสูงประมาณ 1.5 เมตร บ้านของตนเป็นเป็นชั้นเดียว อยู่ต่ำกว่าระดับถนน ห้องนอนพื้นไม้ ตู้เสื้อผ้า พังเสียหายหมด

ในครั้งที่ 2 คือช่วงเย็นประมาณ 18.00 น. วันที่ 30 พ.ย.64 ตนรู้มาก่อนเเล้วว่าน้ำจะท่วม ก็ได้เก็บข้าวของรอไว้ก่อนเเล้ว เเต่จะมีของบางอย่างที่เก็บไม่ทัน ตนต้องออกมานั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนเเทนห้องนอน บางทีก็ต้องไปนอนเเละใช้ห้องน้ำที่สถานีรถไฟสวี เพื่อรอน้ำลด จะได้เข้ามาเก็บทำความสะอาดบ้าน

ทั้งนี้ เวลาประมาณ 05.00 น. ตนเข้ามาดูน้ำ ระดับน้ำยังสูงถึงขอบโต๊ะหินอ่อน สูงประมาณ 1 เมตร จนถึงช่วงเวลา 16.00 น. ระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ระดับน้ำลดลงเหลือประมาณ 50 เซนติเมตร ตอนนี้ระดับน้ำเริ่มลดเเต่หากฝนตกลงมาซ้ำอีกและน้ำทะเลหนุน ตนก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรเช่นกัน