เปิดนาที 2 สาวหนีตาย ถูกก๊วนชายนับสิบรุมทุบรถ จิกหัว ขู่ฆ่า คาดแค้นแทนเมีย (คลิป)

กรณีที่เกิดเหตุได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุสะเทือนขวัญ บริเวณถนนข้างสวนศรี เมืองระยอง พร้อมกับ น.ส.กัลยา (นามสมมติ) และ น.ส.ธันยา (นามสมมติ) ผู้เสียหาย หลังถูกกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 8-9 คน รุมทำร้าย และพังทำลายรถยนต์เสียหาย เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันที่ 30 พ.ย. 61

วันที่ 2 ธ.ค. 61 ที่ สภ.เมืองระยอง น.ส.กัลยา (นามสมมติ) และ น.ส.ธันยา (นามสมมติ) ผู้เสียหาย พาไปดูรถยนต์โตโยต้า วีออส สีเทา คันที่เกิดเหตุ โดยพบว่ากระจกทุกบานของรถแตก รวมไปถึงกระจกมองข้างหลุด ประตูรถแต่ละบาน มีรอยคราบเลือดของกลุ่มผู้ก่อเหตุอยู่ด้วย นอกจากนี้ที่แขนของน.ส.กัลยา ก็มีบาดแผลจากเศษกระจกบาด

น.ส.กัลยา (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ขับรถคันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย. พวกตนได้นัดเจอกับคู่กรณีเพื่อจะเจรจาถึงปัญหาที่คู่กรณีเข้าใจตนกับน.ส.ธันยา ผิด ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการนัดเจรจา แฟนของคู่กรณีกลับมาข่มขู่ว่าจะมาหาที่ทำงาน ตนจึงรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่เมื่อรออีกฝ่ายถึงเวลา 21.00 น. ปรากฏว่าคู่กรณีไม่ยอมมาพบ พวกตนจึงตัดสินใจจะกลับบ้าน แต่ช่วงที่รถตนกำลังขับออกจากถนนริมคลอง ก็มีรถยนต์สีขาวขับมาจอดขวางหน้า และมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ดักด้านหน้ารถ และรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ดักด้านหลังรถ

หลังจากนั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 7-8 คน ได้ใช้อิฐตัวหนอน และมือทุบกระจก เพื่อจะกระชากตัวพวกตนออกจากรถ เมื่อกระจกฝั่งตนแตก ก็มีชายคนหนึ่งได้กระชากผมแล้วก็ต่อยเข้ามาที่ศีรษะ พร้อมกับมีคนพูดว่า “ลากมันออกจากรถเลย” รวมไปถึงหญิงสาวคู่กรณีก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และ มาเคาะกระจกฝั่งคนนั่งข้างคนขับ แล้วพูดว่า “ให้ลงมาเคลียร์เลย” หลังจากนั้น มีชายตะโกนมาว่า “ฆ่ามัน” เมื่อได้ยิน ตนก็ตกใจ จึงตัดสินใจถอยรถแล้วเบียดจักรยานยนต์ของกลุ่มดังกล่าว และมุ่งหน้ามาที่สถานีตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น

ตนคิดว่าเหตุการณ์ที่นำมาสู่การทำร้ายร่างกายถึงขั้นชีวิตนั้น อาจเพราะอุปนิสัยของแฟนคู่กรณี ซึ่งเป็นคนอารมณ์ร้อน ประกอบกับคู่กรณีเข้าใจผิดกลัวว่าพวกตนจะไปเล่าความลับให้บุคคลอื่นฟัง นอกจากนี้ ตนเชื่อว่ากลุ่มคู่กรณีต้องมีการวางแผนมาล่วงหน้า ทั้งนี้ ตนไม่คาดคิดมาก่อนว่าการเจรจาครั้งนี้จะบานปลายมาถึงขั้นทำร้ายร่างกาย เนื่องจากคู่กรณีก็เปรียบเสมือนพี่น้องที่พึ่งพาอาศัยกัน และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และไม่รู้ว่าจะฝากอะไรไปถึงคู่กรณี เพราะรู้สึกจุก แต่สิ่งดี ๆ ที่เคยพูดว่าจะดูแลกัน กลับถูกทำร้ายได้ลง เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ด้าน น.ส.ธันยา (นามสมมติ) ผู้ประสบเหตุร่วมกับ น.ส.กัลยา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ขณะเกิดเหตุ ตนเห็นรถคู่กรณี ขับรถย้อนศรเพื่อมาดักหน้ารถของพวกตน และมีรถจักรยานยนต์มาอยู่ด้านหน้ารถ 2 คัน และหลังรถอีก 2 คัน หลังจากนั้น มีผู้ชายลงมาจากรถ และได้มาเคาะกระจกด้านหลังคนขับ และแฟนของคู่กรณีก็ทุบกระจกด้านข้างตน ขณะที่ฝั่งของน.ส.กัลยา ได้มีคนกระชากผม พร้อมกับมีหลายคนมาทุบกระจกรถ โดยช่วงเวลานั้นคู่กรณีเคาะกระจกตนพร้อมกับบอกให้ลงไปเจรจา วินาทีนั้นก็เห็นว่าด้านหน้ามีคนกำลังจะเขวี้ยงอิฐตัวหนอนมาที่กระจกรถ น.ส.กัลยาจึงรีบถอยรถออกมา ทั้งที่หน้ารถของตนยังมีอิฐตัวหนอนที่กลุ่มคู่กรณีได้ใช้ทุบกระจกรถ แล้วเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองระยองทันที เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 2 นาที ภายหลังจากเกิดเรื่องทางคู่กรณีไม่ได้ติดต่อมา แต่กลับส่งสติกเกอร์ไลน์เป็นรูปหัวเราะมาให้ แต่ตนไม่ได้ตอบกลับไป และหลังจากนั้น คู่กรณีจึงเช็กอินที่สถานีตำรวจ

น.ส.ธันยา กล่าวว่า การกระทำของคู่กรณีนั้นโหดร้ายเกินไป ตนมองว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ได้คิดว่าตนเป็นพี่น้องที่คอยช่วยเหลือกัน และตนก็จะไม่กลับไปคบหาอีก เนื่องจากบุคคลเช่นนี้เป็นบุคคลอันตราย ส่วนตัวคิดว่าคนนี้ควรพบจิตแพทย์ เพราะการกระทำที่ทำเกินกว่าเหตุ ยอมรับว่า ตอนนี้หากอีกฝ่ายคิดว่าทำอะไรได้ก็ให้มาทำเลย เพราะฝ่ายของตนก็จะดำเนินเรื่องถึงที่สุดเช่นกัน