ว่าที่พ่อดีเด่น ผูกคอตายใต้ต้นตะขบ เมียเผย ก่อนตายวางทรัพย์สินให้ - ชาวบ้านคาด ซึมเศร้าคิดสั้น

วันที่ 2 ธ.ค. 61 สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุชายสูงอายุผูกคอตาย บนต้นตะขบข้างกระท่อมนาท้าย ซ.ชุมชนบ้านเดื่อ 7 เขตเทศบาลนครอุดรธานี

บริเวณจุดเกิดเหตุ มีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก โดยพบศพ นายวรรณยุทธ์ อายุ 62 ปี ชาวชุมชนบ้านเดื่อ เขตเทศบาลนครอุดรธานี สวมเสื้อแขนยาวสีกรมท่า กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีดำ บริเวณศีรษะมีเสื้อสีแดงคลุม นอกจานี้ยังมีเชือกไนล่อนสีแดงผูกคอ โดยโยงกับเหล็กเส้นที่ดัดเป็นรูปตัวเอสคล้องกับกิ่งต้นตะขบ สูงจากพื้นประมาณ 5 เมตร ที่ข้างกระท่อมพบจักรยานของผู้ตาย จากตรวจสอบรอบไม่มีร่องรอยการต่อสู้ และผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง

ด้าน ภรรยาผู้ตาย หลังทราบข่าวจึงเดินทางมาดู ก็ถึงกับเข่าทรุดร้องไห้เป็นลม เพราะไม่คิดว่าสามีจะมาจบชีวิตด้วยการผูกคอ เนื่องจากกินอยู่กันมาร่วม 40 ปี  ซึ่ง ภรรยาของผู้ตาย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนและสามีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ช่วงค่ำวานนี้ (1 ธ.ค.) ผู้ตายนำสำเนาหลักฐานการทำฌาปนกิจศพของตัวเอง และสมุดบัญชีเงินฝาก พร้อมกับทรัพย์สินต่าง ๆ มาวางเรียงกันไว้บนที่นอน แต่ไม่ได้เขียนจดหมายอำลาไว้ ขณะที่ตนไปขายดอกไม้บูชาพระที่ตลาดบ้านเหล่า

สอบสวน นายวรวุฒิ ล้านสาวงษ์ อายุ 35 ปี ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เมื่อวานเลิกงานกลับมาบ้านประมาณ 19.00 น.ไม่พบพ่อ จึงคิดว่าพ่ออาจออกมาที่กระท่อมนาของญาติ เพื่อดักหนูนาไปประกอบอาหารและขายที่ตลาด กระทั่งเช้าวันนี้พ่อก็ยังไม่กลับบ้าน จึงตามมาดูแล้วพบว่า พ่อผู้คอเสียชีวิตอยู่ที่กระท่อม จึงรีบแจ้งประธานชุมชนและตำรวจมาตรวจสอบ ทั้งนี้ พ่อของตนเป็นคนนิสัยดีมาก ไม่เคยดุด่าคนในครอบครัว เมื่อมีปัญหาพ่อก็มักไม่พูดออกมาให้คนในครอบครัวทราบ ซึ่งพบเป็นผู้เลี้ยงดูและส่งเสียตนกับพี่สาวจนเรียนจบปริญญาตรี กระทั่งรับราชการครูอยู่ที่ จ.สกลนคร ตนรู้สึกเสียใจมากที่พ่อคิดสั้นเช่นนี้

ด้าน นายวันชัย สุนทรา อายุ 67 ปี ประธานชุมชนบ้านเดื่อ เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนนิสัยดีและเป็นที่รักของคนในชุมชน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร รวมถึงขยันทำมาหากินในอาชีพสุจริต กระทั่งสามารถส่งลูก ๆ เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีทั้งสองคน ซึ่งช่วงเทศกาลวันลอยกระทงที่ผ่านมา ผู้ตายยังเข้าไปช่วยงานในวัดและสวนสาธารณะหนองสิม แต่ไม่ค่อยพูดจากับใคร และคล้ายมีอาการซึมเศร้า ซึ่งปกติผู้ตายเป็นคนไม่ชอบพูด แต่หากใครใช้ไปทำอะไรก็จะไม่เคยปฏิเสธ โดยในวันที่ 5 ธ.ค ที่จะถึงนี้ คณะกรรมการชุมชนตั้งใจจะส่งชื่อผู้ตาย เพื่อรับโล่รางวัลพ่อดีประจำปี ในงานประจำปีทุ่งศรีเมือง แต่กลับมาเกิดเหตุสลดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียดายและเสียใจที่ผู้ตายคิดสั้นเช่นนี้

ต่อมา พ.ต.ท.วิฑูรย์ ศรีชาย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและตรวจสอบในที่เกิดเหตุ สันนิฐานว่า ผู้ตายเป็นคนไม่ค่อยพูด อาจจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่มีศัตรูหรือมีเรื่องทะเลาะกับใคร แม้แต่คนในครอบครัวและญาติ แต่ขณะนี้ญาติของผู้ตายยังรู้สึกติดใจเนื่องจากรับไม่ได้กับสาเหตุการตายตามที่เจ้าหน้าที่สันนิฐาน จึงมอบศพให้แพทย์นำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี