ลูกฉุนแม่หนีไปหาหนุ่มหน้าอ่อนดักฆ่าคาถนน วงจรปิดมัดยิง 11 นัดร่างพรุน (คลิป)

29 พ.ย. 64

จากกรณีเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 พันตำรวจโทสุคนธ์รัส เอี่ยมสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในศูนย์การค้าวังสารภีพลาซ่า ใกล้สี่แยกวังสารภี ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

453207958345

บริเวณลานจอดรถของศูนย์การค้า พบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นชายนอนหงายเสียชีวิต ข้างศพพบรองเท้าซึ่งคาดว่าจะเป็นของผู้เสียชีวิต 1 คู่ และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 11 ปลอก ทราบชื่อของผู้เสียชีวิตคือนายอำพล บุ้งทอง อายุ 27 ปี ชาวอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

301953

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ลานจอดรถของศูนย์การค้าวังสารภีพลาซ่า ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี พบร่องรอยคราบเลือดของผู้เสียชีวิตที่พื้น มีรอยสเปรย์พ่นบริเวณจุดที่พบปลอกกระสุน บริเวณโดยรอบยังพบว่ามีความเสียหาย ถูกกระสุนปืนสร้างความเสียหายกระจกแตก กระสุนโดนประตูเหล็กของกับร้านค้าในพื้นที่

261532

ภาพกล้องวงจรปิด ความยาวคลิป 52 วินาที จับภาพนายอำพล ผู้เสียชีวิต วิ่งหนีเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ นายสิทธิชัย ผู้ก่อเหตุ จอดจยย. เห็นนายอำพล ผู้เสียชีวิต หลบกระสุนที่รถยนต์คันหนึ่ง ผู้ก่อเหตุรัวยิงจนนายอำพลล้มลงเสียชีวิต

331244

คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุคือนายสิทธิชัย มั่นคง หรือ แม็ก อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนางสาวรจนา อายุ 50 ปี หญิงซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว ส่วนมูลเหตุของการก่อเหตุยังไม่เป็นที่แน่ชัด คาดว่าน่าจะเกิดจากความไม่พอใจเรื่องที่ผู้เสียชีวิตมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้เป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ ล่าสุด มีรายงานว่าผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวแล้ว

127723

นายน้อย (นามสมมติ) พยานผู้เห็นเหตุการณ์ ขายพวงมาลัยบริเวณสี่แยกวังสารภี บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. ซึ่งตนเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุขี่มาและจอดขวางหน้ารถกระบะคันที่มีผู้เสียชีวิตนั่งมาด้วย และพยายามจะเปิดประตูทางฝั่งคนขับ ก่อนจะทะเลาะมีปากเสียงกัน โดยในระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตได้มีการเปิดประตูรถ แล้ววิ่งหนีไปบริเวณวังสารภีพลาซ่า

cg-1cg-2

หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ของตัวเองตามไป และลงมือกระหน่ำยิง ได้ยินเสียงปืนในลักษณะของการรัวยิงติดกัน ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจกลัวมาก ไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนสาเหตุหรือเรื่องที่ทะเลาะกันตัวเองไม่ได้ยินว่ามีการทะเลาะกันเรื่องอะไร

350297

ด้านนายชนกประพฤธิ์ บุญอยู่คง อายุ 46 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ร้านของตนก็ถูกกระสุนยิงโดนที่บริเวณประตูเหล็กร้าน แต่ก็ไม่ได้รับความเสียหายมาก ซึ่งตอนทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ยิงกันที่บริเวณหน้าร้านของตน เบื้องต้นมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้าน พบว่ากล้องในร้านของตนเสีย จึงไม่สามารถบันทึกภาพได้

411360

เท่าที่ตนทราบว่า เหมือนผู้ก่อเหตุไล่กวดกันมาตั้งแต่บริเวณ 4 แยกวังสารภี ก่อนที่ผู้ตายจะวิ่งหลบหนีเข้ามาภายในร้านจอดรถ แล้วถูกคนก่อเหตุกระหน่ำยิงมากกว่า 10 นัด นอนจมกองเลือดเสียชีวิต โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินทางมาด้วยนั่งร้องไห้ และตะโกนให้คนช่วยเหลือ ตนคาดว่าถ้าไม่ใช่เรื่องปัญหาส่วนตัว ก็อาจจะมีเรื่องสิ่งของผิดกฎหมาย

846950

นางเก๋ (นามสมมติ) น้องสาวของรจนา บอกว่า นางรจนา พี่สาว หายตัวไปตั้งแต่ 22 ต.ค.64 โดยมีการแจ้งความเมื่อวันที่ 23 ต.ค.64 ซึ่งไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งทางนายสิทธิชัย มั่นคง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา ทราบว่าทางรจนา แม่ของตน จะมาฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาญจนบุรี ซึ่งนายสิทธิชัยมีการไปตามนางรจนาไม่ยอมกลับบ้านด้วย จึงเดินคาดว่ามีการติดตามรถกระบะของนางรจนาไป และก่อเหตุ แต่ตนไม่ทราบจริง ๆ ว่าหลานชายมีปืน หรือพกปืนไปด้วย

ส่วนอุปนิสัยของหลานชาย เป็นคนเงียบ ๆ เรียบร้อย ไม่เกเร และไม่ใช่คนใจร้อน ไม่เคยมีประวัติทางอาชญากรรม ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนเห็นว่านางรจนา น้องสาวของตน ค่อนข้างอยู่ในอาการตกใจ เสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือดของผู้เสียชีวิต และยังไม่มีการพูดคุยอะไร ส่วนตัวรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าหลานจะเป็นคนก่อเหตุ โดยคาดปมสาเหตุเป็นเรื่องของความแค้น ที่แม่ตัวเองหนีไปอยู่กับชายอื่น และฝ่ายนายอำพล บุ้งทอง ผู้เสียชีวิต ก็น่าจะมีปากเสียงจนเกิดความไม่พอใจ

สุดท้ายนี้ ถ้านายสิทธิชัย หลานของตนยังดูข่าวอยู่อยากให้มอบตัว โทษหนักจะได้เป็นเบา ทางครอบครัวเตรียมหลักทรัพย์เตรียมประกันตัวแล้ว และก็อยากฝากขอโทษทางญาติผู้เสียชีวิต ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือเยียวยาฝั่งผู้เสียเสียชีวิตอย่างไรได้บ้าง เพราะตนก็เป็นแค่น้าของผู้ก่อเหตุ

537492

ด้านพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางมาประชุมติดตามคดี ยืนยันว่าจะติดตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาได้เร็วเร็วนี้ เบื้องต้นตอนนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปขออนุมัติศาลจังหวัดกาญจนบุรีออกหมายจับแล้ว

286545

แจ้งข้อกล่าวหานายสิทธิชัย มั่นคง อายุ 29 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติหรือมีเหตุอันควร, ใช้อาวุธปืนไปในเมือง ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติหรือมีเหตุอันควร ส่วนเรื่องมูลเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นจากรับรายงานเป็นเรื่องความขัดแย้งภายในครอบครัว โดยสอบปากคำนางรจนา คนขับรถไปแล้ว มั่นใจว่าสามารถจับกุมตัวได้เร็ว ๆ นี้ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน พร้อมฝากไปถึงผู้ต้องหาว่าขอให้เข้ามอบตัวอย่าคิดต่อสู้ขัดขืน

จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมกับ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี

356546

นางสมพอง สุทธิ หรือ พร อายุ 53 ปี เเม่เลี้ยงของนายอำพล เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงดูนายอำพลมาตั้งเเต่อายุ 6 ขวบ ตนรักนายอำพลเหมือนลูกเเท้ ๆ นิสัยใจคอเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด ไม่เคยเถียงพ่อเเม่ นายอำพลเคยมีภรรยามาก่อนหน้านี้ 1 คน เเละมีลูกชายด้วยกัน ตอนนี้เลิกรากันไปนานเเล้ว ลูกก็อยู่กับอดีตภรรยา ส่วนนางรจนา ตนทราบว่าลูกชายไปเจอในเฟซบุ๊กคบหากันมาได้ประมาณ 1 ปี นางรจนามีการส่งเงินให้อำพลครั้งละ 5,000 -10,000 บาท เเต่ตนไม่ทราบว่ามากน้อยเเค่ไหน ตนก็เพิ่งจะเคยเจอ 2 ครั้ง

649724

ครั้งแรกมาอยู่ประมาณ 4 คืน นางรจนาเล่าให้ตนฟังตอนนั้นว่ามีปัญหากับครอบครัวเก่า ฝั่งครอบครัวของสามีเก่ารจนาก็มีการโทรมาข่มขู่ตน ว่า "ถ้าไม่เลิกยุ่งกับรจนา จะฆ่าทั้งโคตรฎ ตนยอมรับว่ากลัวเเละเคยบอกให้ลูกชายเลิกยุ่งกับนางรจนาเเล้ว เเต่ลูกไม่ฟัง ซึ่งพอรจนากลับไป ตนก็ทราบว่าสามีของรจนามีการเอาเสื้อผ้าของรจนามาเผาทำลายด้วยความโกรธ ลูกของรจนาก็บอกกับรจนาว่า "อย่าเข้าบ้าน เดี๋ยวพ่อจะฆ่าเเม่"

ส่วนครั้งที่ 2 นางรจนากลับมาอยู่ที่บ้านของตนอีกครั้ง ประมาณเดือนตุลาคม เเต่ตนจำวันที่เเน่ชัดไม่ได้ เเต่ทั้งคู่มาอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน ตั้งใจกะว่าจะลงหลักปักฐานอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ มีการเตรียมอุปกรณ์ทำการเกษตรจะปลูกถั่ว ปลูกข้าวโพดทำไร่กัน ซึ่งนิสัยของนางรจนาเวลาที่มาอยู่ด้วยกันก็เป็นคนนิสัยดี

384998

ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ นางรจนาเเละนายอำพลได้ไปดูดวงที่ตำบลพุเตย จนหมอดูทักว่านายอำพลมีเคราะห์ใหญ่ ถ้าพ้นสิ้นเดือนพฤศจิกายนไปแล้วจะพ้นเคราะห์ หลังจากนั้นลูกชายก็ไม่ได้บอกอะไรอีก ตอนนี้พ่อของอำพลกำลังเดินทางไปที่กรุงเทพฯ เพื่อรับศพลูกชาย ส่วนกำหนดการก็จะมีการสวด 2 คืน ตนเเละครอบครัวไม่ติดใจเอาความ เพราะคนก็ตายไปแล้ว เเค้นไปก็ไม่ได้ประโยชน์ ลูกชายไปสบายเเล้ว ตนอยากฝากถึงลูกชายให้ไปดีขึ้นสวรรค์ ไม่ต้องห่วงครอบครัว

345246

นางวรรณ ทานคำ หรือ อวย อายุ 51 ปี ที่อยู่ในตำบลพุเตย อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ แม่เเท้ ๆ ของนายอำพล บุ้งทอง อายุ 27 ปี ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกัา ตนเลิกรากับอดีตสามีมาได้ประมาณ 20 กว่าปีเเล้ว ลูกชายทั้ง 3 คนก็อยู่กับพ่อเเละเเม่เลี้ยงที่บ้านที่ ตำบลโคกสะอาด โดยปกตินายอำพล ลูกชายจะไม่ค่อยมาหาเเม่เท่าไรนัก เเต่วันที่ 13 พ.ย.64 นายอำพลพาภรรยาที่ชื่อ นางรจนา อายุประมาณ 50 ปี มาหาตน เเละพามาเเนะนำให้ตนรู้จัก ป็นครั้งเเรกที่ตนได้เจอกับรจนา จากการพูดคุย เขาก็บอกกับตนว่ามีสามีเเละทะเบียนสมรสอยู่เเล้ว เเต่นางรจนาหนีสามีมา เพราะอยู่ด้วยเเล้วไม่มีความสุข

หลังจากนั้นลูกบอกว่าอยากดูดวง ตนก็เเนะนำให้ลูกชายเเละสะใภ้ไปดูดวง อาจารย์ก็บอกว่าอำพลดวงไม่ดี เเต่สะใภ้ไม่เป็นอะไร หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีการพากันไปอาบน้ำมนต์ ซึ่งตนก็ไม่ค่อยทราบ เพราะไม่ได้อยู่บ้านออกไปทำงาน หลังจากนั้นลูกชายเเละสะใภ้ก็เเวะเวียนมาหาตนอีกหลายครั้ง มากินข้าวด้วย วันเกิดของตนลูกชายก็ซื้ออาหารมาฉลองให้

ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับลูกชายก็นานผ่านมาเป็นสัปดาห์เเล้ว เเละตนก็ไม่ได้รับรู้ว่าลูกไปไหนมาไหน จนเมื่อเช้าที่ตนกำลังทำงานที่บ่อปลาอยู่ ก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ ทราบข่าวลูกชายว่าถูกยิงเสียชีวิตเเล้ว ตนเคยเตือนลูกชายไว้ว่าอย่าไปที่ จ.กาญจนบุรี เพราะอันตราย ลูกชายก็บอกกับตนว่าไม่ไปเเน่นอน ก่อนหน้าตนไม่เคยมีลางสังหรณ์เลย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส