เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 ทนายรัชพล ศิริสาคร หนึ่งในทีมทนายของลุงพล ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า "ทนายตั้ม ถอนตัว คดีน้องชมพู่ สาเหตุจากความเห็นไม่ตรงกัน"
กระทั่ง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาโพสต์ยืนยันการถอนตัวทำคดีให้ลุงพลว่า "วันนี้ผมและทีมทนาย ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นทนายคดีลุงพลแล้วนะครับ เนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ไม่ได้มีปัญหาหรือผิดใจอะไรกัน สิ่งหนึ่งที่ผมเงียบมาตลอด และปล่อยให้สังคมพูดกันไปโดยแทบไม่มีใครปกป้องคือ ในการทำคดีนี้ ผมไม่ได้รับเงินเพื่อช่วยทำคดีแต่อย่างใด ทำด้วยใจล้วน ๆ แต่มาถึงวันนี้ผมขอใช้เวลาของผมไปทำคดีให้กับคนที่เห็นคุณค่าดีกว่า และขอให้ลุงพลและป้าแต๋นโชคดีครับ"
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับทนายรัชพล ศิริสาคร กล่าวว่า ตนยืนยันว่ามีการถอนตัวจริง โดยมีทนายตั้ม เป็นหัวเรือตัดสินใจถอนตัว เมื่อหัวหน้าทีมถอนตัว ลูกทีมทั้งหมดก็ต้องถอนตัวตาม เพราะว่าลุงพลเลือกทนายตั้มเป็นคนทำคดี ไม่ได้เลือกตน หรือทนายอาคม เพราะฉะนั้นเมื่อทนายตั้มถอนตัว ตนก็ต้องถอนตัวตามหัวหน้าทีม ส่วนสาเหตุหลักในการถอนตัวนั้น ทนายตั้มได้ฝากตนมาแจ้งว่ามีอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ ความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องของคดีความ ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ว่าไปเห็นหลักฐานแล้วจะแพ้คดีจึงถอนตัว ส่วนอีกเรื่องคือการที่ทนายตั้มไม่พอใจ การปฏิบัติตัวของลุงพลและป้าแต๋น ส่วนตนมองว่าเป็นเรื่องของความเข้าใจที่ไม่ลงรอยกัน ตนคาดว่าความไม่พอใจน่าจะเกิดขึ้นได้ไม่นาน เพราะเมื่อวันที่ 24 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ทั้งคู่ยังพูดคุยกันตามปกติ
สำหรับปัญหาดังกล่าว ตนมองว่าในอนาคตหากลุงพลและทนายตั้มปรับความเห็นมาตรงกันได้ ก็เป็นไปได้ที่อาจจะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ส่วนตนพยายามปรับความเข้าใจกับทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่ก็ทำให้เป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ตนก็เสียใจเพราะทำงานด้วยกัน แต่จู่ ๆ มาแยกกันกลางทาง ทั้ง ๆ ที่งานยังไม่เสร็จ ตนมองว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด และสุดท้ายเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นจริง ๆ
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ทนายตั้มได้ไลน์แจ้งลุงพลแล้ว ลุงพลคงไม่ได้ตกใจอะไร เพราะคงจะรับทราบมาเป็นระยะว่าเกิดความไม่เข้าใจกัน และหลังจากนี้ลุงพล อาจจะจ้างทนายใหม่ หรือขอทนายอาสา ส่วนตนยังสามารถคุยกับลุงพลป้าแต๋นได้ตามปกติ ตนเองมองว่าเรื่องคดีทนายตั้ม และทีมงานรวมถึงตนก็ยังเห็นใจลุงพลป้าแต๋น เพราะไม่อยากให้คนที่บริสุทธิ์มารับโทษ เป็นกำลังใจให้เสมอในเรื่องคดี ไม่ว่าใครจะมาทำคดีให้ก็ให้กำลังใจ และจะตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องคดีความที่ยังต้องดำเนินต่อไป ทีมทนายความต้องประสานกับลุงพลอีกครั้งในการยื่นเอกสารต่อศาลเกี่ยวกับการยื่นถอนทนายความต่อไป
ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้ออกมาไลฟ์สดวิเคราะห์การถอนตัวของทีมทนายลุงพล ระบุว่า ทนายความจะถอนตัวเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกันต้องเป็นความคิดเห็นในการต่อสู้คดีเท่านั้น แต่เท่าที่ติดตามข่าว เห็นว่ามีการถกเถียงกันเรื่องค่าจ้างทนาย โดย FC ลุงพลบอกว่าทนายได้รับค่าจ้าง แต่ทนายบอกว่าไม่เคยได้รับค่าจ้าง ก็เถียงกันเรื่องค่าจ้างว่าความ ฟรีหรือรับตังค์
ส่วนเรื่องต่อมา ตนได้รับแจ้งจากนายอัจฉริยะ ว่ามีทีมทนายความคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าคนไหน รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในการต่อสู้คดี เพราะมีหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเส้นผม ตอบคำถามไม่ได้ว่าทำไมไปอยู่ในรถของลุงพล
"หวังนะครับว่าการถอนตัวของทนายความ ไม่ได้มาจากสาเหตุกลัวว่าแพ้คดีเลยหาทางลงก่อนวันที่ศาลจะตัดสิน เพราะก่อนหน้านี้ทนายที่ถอนตัวชุดนี้ ก็เคยโม้ไว้เยอะว่าชนะแน่ แต่มาถึงวันนี้แล้วดูท่าทาง ดูพยานหลักฐานของอัยการแล้วอาจจะถอนใจหรือไม่ ก็ฝากไว้เป็นข้อคิดให้กับสังคมนะครับ ความจริงคือความจริง ครูปรีชากล่าวไว้" ทนายเดชา ระบุ