กรณีร.ต.ท.ณัฐนันท์ พูลเพิ่ม สภ.เมืองน่าน จ.น่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน มีเหตุทะเลาะวิวาทภายในครอบครัวยิงกันเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่หมู่ 16 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จึงรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าทีมกู้ชีพอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว และได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลน่าน จำนวน 1 ราย
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงแบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องโถงเป็นห้องครัว และห้องนอนภายในพบอาวุธปืนยาว สภาพหักชำรุด จำนวน 1 กระบอก พบศพของนายเก้าก้วง แซ่จ๋าว อายุ 53 ปี และนางฟามอาน แซ่จ๋าว อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านถูกยิงเสียชีวิตกลางที่นอนทั้ง 2 ราย ทั้งคู่เป็นชาวอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ทั้งนี้ สภาพศพนางฟามอาน นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อลายดอกสีฟ้า สวมผ้าถุงลายดอกไม้ ถูกด้วยอาวุธปืงยิงเข้าที่บริเวณกกหูข้างขวา จำนวน 1 นัด กระสุนฝังในจำนวนหนึ่ง และศพนายเก้าก้วง นอนหงาย สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำเขียนว่ากระซิบรักบันลือโลก สวมกางเกงขายาว ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย จำนวน 1 นัด พบมือข้างขวาถือปลายกระบอกปืนยาววางอยู่ข้างลำตัวด้านขวา และที่หัวนิ้วเท้าข้างขวามีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่ ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานและได้ร่วมกันตรวจชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตไม่ถึง 1 ชั่วโมง
ล่าสุดวันที่ 28 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านหลังที่เกิดเหตุ ในเขตพื้นที่หมู่ 16 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่านจังหวัดน่าน ลักษณะเป็นบ้านไม้ยกสูง ชั้นเดียว โดยภายในห้องที่เกิดเหตุพบว่าญาติ ๆ ได้ช่วยกันทำความสะอาดรอยเลือดเรียบร้อยแล้ว
น.ส.อนัญญา แซ่จ๋าว อายุ 30 ปี ลูกสาวนายเก้าก้วง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 64 เวลา 20.00 น. รุ่นน้องได้โทรศัพท์ไปบอกตนว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ตนจึงรีบเดินทางมาจากจังหวัดลำพูน ขณะเดียวกันตนสอบถามญาติพบว่าก่อนเกิดเหตุ ด.ช.แคะ อายุ 9 ปี หลานชายของนางฟามอวน อยากไปซื้อขนม นางฟามอวนจึงบอกให้พ่อของตนพาไป ซึ่งพ่อได้ปฏิเสธ เนื่องจากรถจักรยานยนต์ยางแบน จากนั้นก็เงียบไป
กระทั่งเวลา 17.30 น. ญาติได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด แต่ไม่มีใครเอะใจอะไร เพราะบริเวณละแวกใกล้บ้านชาวบ้านมักยิงกระรอกหรือสัตว์ป่า ต่อมาเวลา 19.30 น. ญาติได้ไปเรียกพ่อที่บ้าน แต่ไม่มีใครตอบรับ จนทราบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ คาดว่าไม่ใช่อาวุธปืนของพ่อ คนอื่นน่าจะนำมาฝากไว้
โดยพ่อได้คบหาดูใจกับนางฟามอวน ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งพ่อได้เลิกรากับแม่ 8-9 ปี ที่ผ่านช่วงที่พ่ออยู่กินกับนางฟามอวน ยอมรับว่าฝ่าหญิงเป็นคนที่ชอบหึงหวง พ่อของตนอายุน้อยกว่าจึงกลัวว่าจะปันใจให้หญิงอื่น นอกจากนี้ ตนทราบว่านางฟามอวนหึงหวงพ่อของตนกับหลานสาว ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 เดือน นางฟามอวน ได้ให้หลานสาวทานยาไม่ทราบชนิดฆ่าตัวตาย หากหลานสาวเสียชีวิต พ่อของตนจะรักนางฟามอวนเพียงคนเดียว โชคดีที่หลานสาวไม่ทาน และไม่กล้ามาที่บ้านของตน
ส่วนสาเหตุที่พ่อตัดสินใจยิงนางฟามอวน คาดว่าน่าจะกดดันถูกกล่าวหาว่าคบผู้หญิงอื่น อาจทำให้เก็บกด ที่ผ่านมาพ่อเป็นคนเงียบ ๆ มีอะไรก็มักจะไม่พูด ไม่มาปรึกษา และไม่เคยทำร้ายร่างกายใคร ส่วนลักษณะนิสัยของนางฟามอวน ตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยเจอกัน ขณะเดียวกันตนมองว่าพ่อของตนไม่ได้ทำร้ายเด็กชายแคะ ที่ผ่านมาพ่อรักเด็ก เพราะพ่ออยากได้ลูกชาย อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับญาติของนางฟามอวน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร โดยครอบครัวของตนจะช่วยค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาล และให้หมู 1 ตัว เพื่อทำพิธีตามชนเผ่า
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับเด็กหญิงยอดี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี หลานสาวนางฟามอวน กล่าวว่า ตั้งแต่สามีเก่าของนางฟามอวนเสียชีวิต นางฟามอวน ก็ได้ไปอยู่กินกับนายเก้าก้วง ซึ่งตนก็ได้ไปอยู่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่นางฟามอวนมักจะระแวกหึงหวงตนกับนายเก้าก้วง จึงบอกให้ตนย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง และนางฟามอวน มองว่าตนโตแล้วและเป็นผู้หญิงไม่สมควรอยู่บ้านกับชายแปลกหน้า ตนจึงย้ายออกมาจากบ้านของนายเก้าก้วง
ช่วงเวลาที่ตนพักอาศัยอยู่กับนายเก้าก้วง เขาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับตน กระทั้งช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ตนทราบจากนายเก้าก้วงว่านางฟามอวน ได้วางยาเบื่อหนูในอาหารให้ตน นายเก้าก้วง และด.ช.แคะ แต่โชคดีดีที่ตนและนายเก้าก้วงไม่ได้ทาน อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยโกรธนางฟามอวน แต่ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิด
ขณะที่นายวินัย แซ่จ๋าว อายุ 40 ปี ลูกชายนางฟามอวน เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ เพื่อนบ้านไปเรียกตนที่ไร่ข้าวโพด ยอมรับว่าตกใจ และเสียใจที่สูญเสียผู้เป็นแม่ โดยแม่ของตนไปอยู่กินกับพ่อเลี้ยงได้ 2-3 ปีแล้ว ตนไม่เคยห้ามปราม ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นว่าพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่ ทราบเพียงว่าทะเลาะและมีปากเสียงกันเรื่องหึงหวงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไร แต่ขอให้ฝ่ายพ่อเลี้ยงช่วยเหลือค่าทำศพ
