สะพรึงฆาตกรขังศพเด็กป่วยจิตขู่ฆ่าคน ญาติอัปเปหิพ้นบ้าน แฉซุกกระสอบเอี่ยวคดี (คลิป)

28 พ.ย. 64

กรณีตำรวจสภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่าพบศพเด็กเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำของแฟลตชั้น 3 จึงรุกไปตรวจสอบพบร่าง ด.ช.อัคนัส หรือ น้องฟิสตรี อายุ 7 ขวบ นอนคว่ำหน้าเปลือยกายอยู่ในห้องน้ำ ที่ลำคอมีรอยช้ำ ศีรษะมีบาดแผลเหมือนกับถูกกระแทกอย่างรุนแรง 

193327
 
ทั้งนี้ ภายในห้องมีรอยรองเท้าผู้ใหญ่เดินเข้าไป สภาพเหมือนนำศพมาซ่อนไว้ และห้องถูกล็อกกุญแจไว้ด้านนอก หลังเกิดเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวนายกันตพงศ์ เดโชชัย หรือ แบงค์ ชายต้องสงสัย อายุ 23 ปี พักอยู่ห้องหมายเลข 13 ชั้น 2 ของแฟลตเดียวกันไปสอบสวน แต่ยังให้การปฏิเสธ จึงได้แจ้ง 3 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และพรากผู้เยาว์

519666

ล่าสุดวันที่ 28 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนางโบว์ (นามสมมติ) พี่สาวผู้ต้องหา เล่าให้ฟังว่า น้องชายมีอาการป่วยทางจิตมาประมาณ 8 ปีแล้ว เนื่องจากในอดีตเคยใช้สารเสพติด โดยตนก็ได้พาไปรักษาประมาณ 4 ครั้ง และให้ออกมาอยู่ห้องเช่าคนเดียว เนื่องจากน้องชายไม่สามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวได้ เพราะน้องชายเคยขู่ฆ่า และเคยถีบหน้าตน ตนกับแม่ก็กลัวจึงต้องให้น้องชายย้ายออกมา

cg_10

แต่ปกติตนจะเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง จัดการหาที่พัก และอาหารการกินให้ โดยมีการย้ายที่อยู่ของน้องชายมาหลายครั้งแล้ว เพราะเวลาน้องชายเริ่มมีอาการ ข้างห้องแจ้งมา ตนก็ต้องพาไปหาหมอเพื่อรักษา เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลก็ต้องย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เพราะที่อยู่เดิมเพื่อนข้างห้องเริ่มไม่อยากอยู่ด้วย

กระทั่งล่าสุดได้ย้ายมาอยู่ที่แฟลตแห่งนี้ประมาณ 1 ปี ซึ่งตนก็เป็นคนจ่ายค่าห้อง ให้เงิน และนำอาหารไปให้ทุกวัน วันละ 1 รอบ สำหรับกิน 2 มื้อ ซึ่งน้องชายก็ดูปกติทุกอย่าง ในวันเกิดเหตุ (26 พ.ย.64) เวลา 16.00 น. ตนยังนำข้าวไปให้น้อง โดยวางไว้หน้าห้อง เขาก็เปิดออกมาหยิบข้าว ตนยังพูดว่าให้ทำตัวดี ๆ ก่อนจะเดินออกมา ซึ่งน้องชายก็ไม่ได้ดูท่าทีมีพิรุธ จากนั้นทราบว่าน้องชายลงมือฆ่าเด็ก 7 ขวบ ตนก็ตกใจมาก ๆ

637204

ในวันนี้ตนได้เข้าไปเยี่ยมน้องชายที่ห้องขัง ตนถามเขาว่า "ทำไปเพราะอะไร" น้องชายได้แต่อมยิ้ม ไม่ตอบอะไร ตนก็เชื่อว่าน้องชายทำจริง ๆ เพราะปกติเวลาทำผิดอะไร น้องชายจะอมยิ้มแบบนี้เสมอ ทั้งนี้ คาดว่าน้องชายน่าจะทำไปเพราะขาดยา ไม่กินยาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจ และอยากขอโทษครอบครัวผู้ตายแทนน้องชาย ส่วนที่ตนให้น้องชายมาอยู่ในแฟลตแห่งนี้ เพราะไม่รู้จะนำน้องไปไว้ที่ไหนเหมือนกัน ตนยืนยันว่าครอบครัวพยายามดูแลอย่างเต็มที่แล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่

696456

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายณัฐพล สุชาติ อายุ 43 ปี พ่อของเพื่อนน้องฟิสตรี ซึ่งอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 แฟลต 1 ห้องริมสุด ชั้นเดียวกับนายกันตพงศ์ กล่าวว่า โดยปกติช่วงกลางวันตนจะออกไปทำงาน บางครั้งก็ปล่อยให้ลูกชายอยู่ห้องคนเดียว ซึ่งเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว นายกันตพงศ์ เคยมาเคาะห้องและยืมโทรศัพท์จากลูกชายของตน หลังจากนั้นตนจึงต้องล็อกห้องขังลูกไว้ด้านในตลอด เพราะกลัวนายกันตพงศ์ จะเข้ามาทำร้ายลูกชาย

355777

เนื่องจากดูท่าทางไม่น่าไว้ใจ เพราะปกติอีกฝ่ายชอบเดินมาที่บริเวณหน้าห้องของตน บางครั้งก็ยืนสูบบุหรี่ บางครั้งก็ยืนเฉย ๆ มองคนที่ผ่านไปมา ซึ่งฝั่งตรงข้ามห้องตนก็เคยถูกงัดและขโมยของไปประมาณ 3 ครั้ง จากการตรวจสอบของที่หายอยู่ในห้องนายกันตพงศ์ ผู้ต้องหาทั้งหมด

cg-2_1

โดยวันเกิดเหตุตนล็อกห้องขังลูกชายไว้ตามปกติ ส่วนตนก็ออกไปทำงานพร้อมกับพ่อเลี้ยงน้องฟิสตรี กลับมาพักเที่ยงพร้อมกัน ขณะนั้นทุกอย่างก็ดูปกติ ตนก็ได้กลับไปทำงานอีกรอบและกลับมาในเวลาประมาณ 15.30 น. ซึ่งพ่อเลี้ยงน้องฟิสตรี ตามมานั่งคุยงานกันต่อในห้องตน ขณะนั้นแม่น้องฟิสตรี โทรศัพท์มาบอกว่าน้องหายไป ตนจึงถามจากลูกชายว่าน้องฟิสตรีมาหาบ้างหรือไม่ ลุกชายจึงบอกว่ามา 2 รอบ แต่เข้ามาในห้องไม่ได้ เพราะห้องของตนล็อก โดยรอบ 2 ได้ยินเสียงน้องฟิสตรีร้อง

ขณะนั้นตนก็ยังไม่เชื่อลูกชาย คิดว่าน้องฟิสตรีน่าจะไปวิ่งเล่นห้องอื่น จึงบอกให้พ่อแม่น้องไปถามจากเพื่อน ๆ คนอื่นก่อน เมื่อยังไม่เจอจึงเริ่มออกตามหา ขณะนั้นสังเกตว่านายกันตพงศ์ ก็อยู่แถวหน้าห้องและยืนมอง ตนเข้าไปถามอีกฝ่ายก็อ้างว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่ส่วนตัวสงสัยอีกฝ่ายตั้งแต่แรกแล้ว จึงให้พ่อแม่น้องเข้าไปขอค้นห้องนายกันตพงศ์ในช่วงค่ำ แต่ก็ยังไม่พบอะไรผิดปกติ กระทั่งเจ้าหน้าที่พบศพน้องฟิสตรีที่ชั้น 3 ตนเชื่อว่าช่วงเกิดเหตุน้องฟิสตรี น่าจะมาหาลูกชายของตน และเห็นนายกันตพงศ์ผ่านมาเห็นพอดี ก่อนจะทำร้ายจนเด็กเสียชีวิต

878843

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางจอย (นามสมมติ) เพื่อนข้างห้องผู้ต้องหา กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ (26 พ.ย.64) เวลาประมาณ 14.30 น. ตนกลับมาที่ห้องพัก ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเด็กร้อง แต่ไม่เอะใจเพราะคิดว่าเป็นเด็กในแฟลตร้องไห้ตามปกติ เสียงร้องดังสั้น ๆ จากนั้นก็เงียบไป จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. ตนเดินลงไปที่ชั้น 1 เพื่อจะไปซื้อส้มตำ ระหว่างนั้นนายกันตพงศ์ ผู้ต้องหา วิ่งสวนขึ้นมาที่บันไดด้วยความเร็ว ตนจึงรอให้เขาวิ่งขึ้นไปก่อน แล้วรีบไปล็อกห้องเพราะห่วงลูกชายที่นอนอยู่

cg-3

เมื่อล็อกห้องเสร็จก็เดินลงมาข้างล่างตามปกติ ซึ่งนายกันตพงศ์ก็วิ่งตามมา และทิ้งถุงกระสอบบางอย่างไว้ใต้บันไดชั้น 1 เสียงค่อนข้างดัง ตนจึงหันไปมอง แต่ไม่ได้เอะใจ ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ออกไปซื้อส้มตำตามปกติ

717034

หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที กลับมาที่ห้อง ก็เห็นนายกันตพงศ์ ยืนอยู่หน้าห้องตัวเอง จนทราบข่าวว่าน้องฟิสตรีหายในช่วงเย็น ตอนแรกยังไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือนายกันตพงศ์ จนพบศพ ตนจึงคิดถึงเสียงร้องที่ได้ยิน และกระสอบสีขาวที่นายกันตพงศ์นำไปทิ้ง คาดว่าอาจจะเป็นเสื้อผ้าของน้องที่ถูกยัดเอาไว้ โดยตนได้ลงไปหาถุงกระสอบดังกล่าวหลังเกิดเหตุแต่ก็ไม่พบแล้ว ไม่มั่นใจว่ามีการเคลื่อนย้ายหรือไม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส