กรณีนายสุทัศน์ บุญเป็ง อายุ 89 ปี ชาวต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ก่อนจะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใกล้บ้าน จากกการตรวจสอบพบว่านายสุทัศน์ มีสิทธิ์บัตรทองรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอีกแห่ง เมื่อสอบถามโรงพยาบาลดังกล่าวแจ้งกับญาติว่าเตียงเต็ม จึงเร่งประสานเตียงไปที่โรงพยาบาลอีกหลายแห่งในเชียงใหม่ รวมถึงโรงพยาบาลในพื้นที่ลำพูน แต่กลับพบว่าไม่มีเตียงว่าง
ในระหว่างนั้น ผู้ป่วยก็ต้องนอนรอการประสานเตียง 8 แห่ง กระทั่งในที่สุดแล้วได้เตียงที่โรงพยาบาลพื้นที่ฝาง แต่ระยะทางที่จะต้องเดินทาง ประมาณ 156 กม. และต้องใช้เวลาเดินทางนานอีก 3 ชม. ทำให้ผู้ป่วยเดินทางมาถึงโรงพยาบาล เวลาประมาณ 03.00 น.
จากนั้นแพทย์ประเมินว่ามีอาการเลือดคั่งในสมองมากถึง 90% และนอนรักษาตัวโรงพยาบาลกระทั่งเสียชีวิตเวลา 16.45 น. ของวันที่ 23 พฤศจิกายน 64 และทางญาติต้องฝากร่างของผู้เสียชีวิตไว้ก่อนจะต้องเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปรับศพที่โรงพยาบาลพื้นที่ฝาง ในช่วงเช้าของวันที่ 24 พฤศจิกายน 64 ทำให้ต้องเสียเวลาในการเดินทางรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านในตัวเมืองเชียงใหม่
นางวรจิตร กฤตยานุกูล อายุ 61 ปี ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ภายหลังจากที่ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งมายังโรงพยาบาลพื้นที่ฝาง ได้แจ้งว่าอาการของคนไข้ค่อนข้างวิกฤตแล้ว และไม่สามารถรักษาได้ พร้อมกับบอกว่าให้นำผู้ป่วยกลับบ้านจะดีกว่า แต่รถของโรงพยาบาลไม่มีแล้ว และทางญาติต้องหารถมารับผู้ป่วยเอง ทำให้ตนต้องไปติดต่อรถโรงพยาบาลที่มาส่งก่อนหน้านี้ จากนั้นตนได้ประสานไปยังโรงพยาบาลที่มาส่ง แต่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ตอนนี้รถที่ไปส่งผู้ป่วยได้เดินทางออกมาไกลแล้ว อีกทั้งโรงพยาบาลไม่มีนโยบายกลับไปรับผู้ป่วย นอกจากแพทย์จะทำเรื่องส่งกลับเท่านั้น ทำให้ตนต้องแจ้งกับแพทยืว่าขอให้ทำเรื่องแอดมิต แต่โรงพยาบาลแจ้งกับตนว่าสามารถรักษาได้ตามอาการเท่านั้น ทำให้ต้องนอนดูอาการผู้ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนานหลายชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 03.00 น. กระทั่งผู้ป่วยมาเสียชีวิตในเวลา 16.45 น.
ทั้งนี้ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจจะมีโอกาสรอด รวมถึงระหว่างทางที่ผู้ป่วยถูกนำส่งโรงพยาบาลพื้นที่ อ.ฝาง เท่ากับว่าไม่ได้รับการรักษาเลย ต้องเสียเวลาเดินทาง ทำได้เพียงใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจเท่านั้น และผลเอกซเรย์ก็พบว่ามีเลือดออกในสมองเยอะมาก ทำให้ตนติดใจตรงที่ทำไมโรงพยาบาลต้องส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาถึงที่ อ.ฝาง ทำให้ญาติต้องลำบาก ทั้งการเดินทาง และเสียเวลาในการเดินทางไปรับศพ
เนื่องจากญาติอยู่ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ แต่ต้องเดินทางไปรับศพถึง อ.ฝาง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ทั้ง ๆ ที่หากผู้ป่วยถูกนำส่งที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ก็จะไม่ยุ่งยากเช่นนี้ และก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ที่ผู้ป่วยในตัวเมือง ถูกนำส่งไปรักษานอกเมือง ตนมองว่าอาจจะเป็นเพราะผู้ป่วยที่มีจำนวนมากในตอนนี้ ในส่วนนี้ตนก็ไม่อยากติดใจ และอยากให้กรณีที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ในการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษา เพราะไม่อยากจะให้เกิดขึ้นเช่นนี้กับใครอีก
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายประชาสัมพันธ์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเรื่องดังกล่าวนำเรียนให้ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขเชียลใหม่ รับทราบเป็นที่เรียบร้อย ในเบื้องต้นสั่งการให้โรงพยาบาลเอกชน ที่ส่งตัวผู้ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพื้นที่ฝาง ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเหตุใดผู้ป่วยจึงเสียชีวิต ก่อนจะได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และหากมีความคืบหน้าจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป
